งานวิจัยใหม่เผย การนอนหลับเพียงพอช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้จริง
ผลการศึกษาล่าสุดชี้ชัด! การนอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน คือกุญแจสู่สมองที่เฉียบคมและสุขภาพที่แข็งแรง
บทความโดย: ทีมข่าววิทยาศาสตร์และสุขภาพ
เผยแพร่: 10 กันยายน 2568
กรุงเทพมหานคร – ผลการศึกษาล่าสุดจากสถาบันวิจัยสุขภาพนานาชาติ (IHRI) มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด พบว่าผู้ที่นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน มีแนวโน้มที่จะมีความจำดีขึ้น มีสมาธิในการทำงานสูงขึ้น และลดความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังหลายชนิด เมื่อเทียบกับผู้ที่นอนน้อยหรือนอนมากจนเกินไปอย่างมีนัยสำคัญ
การศึกษานี้ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ “The Lancet” ฉบับล่าสุด ได้ทำการติดตามพฤติกรรมการนอนและสุขภาพของผู้เข้าร่วมวิจัยกว่า 500,000 คนจากทั่วโลกเป็นระยะเวลานานถึง 10 ปี ถือเป็นการศึกษาครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในหัวข้อนี้
สมองปลอดโปร่ง ความจำดีเยี่ยม
ทีมวิจัย นำโดย ดร. อลิซาเบธ แบ็กซ์เตอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประสาทวิทยา พบว่ากลุ่มที่นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงเป็นประจำ มีประสิทธิภาพในการทำแบบทดสอบความจำและการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนได้ดีกว่ากลุ่มอื่นถึง 30%
“ช่วงเวลาที่เราหลับลึก สมองจะทำการจัดระเบียบข้อมูลและกำจัดของเสียที่เรียกว่า ‘เบต้า-อะไมลอยด์’ ซึ่งเป็นโปรตีนที่เชื่อมโยงกับโรคอัลไซเมอร์” ดร. แบ็กซ์เตอร์อธิบาย “การนอนที่เพียงพอจึงเปรียบเสมือนการ ‘รีเซ็ต’ ระบบสมองให้พร้อมใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพในวันถัดไป”
ร่างกายแข็งแรง ลดเสี่ยงโรคเรื้อรัง
นอกเหนือจากประโยชน์ต่อสมองแล้ว การนอนหลับที่เหมาะสมยังส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายโดยรวมอย่างน่าทึ่ง ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มที่นอน 7-8 ชั่วโมงมีความเสี่ยงลดลงสำหรับโรคต่างๆ ดังนี้:
- โรคหัวใจและหลอดเลือด: ลดความเสี่ยงลง 25%
- โรคเบาหวานชนิดที่ 2: ลดความเสี่ยงลง 35%
- โรคอ้วน: มีแนวโน้มที่จะมีดัชนีมวลกาย (BMI) อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานมากกว่า
- ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง: มีโอกาสเป็นหวัดหรือติดเชื้อได้น้อยกว่า
เคล็ดลับสู่การนอนหลับที่มีคุณภาพ
ดร. แบ็กซ์เตอร์ ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับไว้ดังนี้:
- กำหนดเวลาเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลา: แม้จะเป็นวันหยุด เพื่อรักษานาฬิกาชีวภาพของร่างกาย
- สร้างบรรยากาศให้ผ่อนคลาย: ห้องนอนควรมืด เงียบ และเย็นสบาย
- หลีกเลี่ยงหน้าจอก่อนนอน: แสงสีฟ้าจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตสามารถรบกวนการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินที่ช่วยในการนอนหลับ
- งดคาเฟอีนและแอลกอฮอล์: โดยเฉพาะในช่วงบ่ายและเย็น
ผลการศึกษานี้ย้ำเตือนถึงความสำคัญของการให้ความสำคัญกับการนอนหลับ ไม่ใช่ในฐานะกิจกรรมฟุ่มเฟือย แต่เป็นเสาหลักที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของการมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ