หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการใช้ชีวิตมาทั้งวัน การให้รางวัลแก่ตัวเองโดยการเอนกายไปบนเก้าอี้นุ่มๆและแช่เท้าในน้ำอุ่นๆ คงจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยผ่อยคลายความเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับบางคนแล้ว อาจจะยังไม่ทราบวิธีการที่ถูกต้อง หรือไม่รู้ว่าการแช่เท้าในน้ำร้อนมีผลดีต่อสุขภาพอย่างไร วันนี้เราจะมาอธิบายให้คุณทราบไปพร้อมๆกันเลยค่ะ

    ‘เท้า’ ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญที่จะช่วยให้เราก้าวเดินหรือไปไหนมาไหนได้ดังที่ใจต้องการ ในขณะเดียวกัน คนเราก็มักจะมองข้ามความสำคัญของเท้าไปอยู่บ่อยๆ บางคนอาจจะคิดแต่เพียงว่า ‘เท้า’ เป็นอวัยวะเบื้องล่างที่ไม่จำเป็นต้องให้ความใส่ใจอะไรมากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับอวัยวะอื่นๆแล้ว เท้าจึงอาจเป็นเพียงอวัยวะอันแสนต่ำต้อยที่ใครก็มองข้ามไปอยู่เสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อวัยวะที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้ นับว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะฝ่าเท้าถือเป็นจุดเชื่อมโยงอวัยวะทั้งหลายทั่วร่างกายให้รวมเข้าไว้ในที่เดียวกัน แถมยังเป็นทางผ่านของลมปราณที่มีอิทธิพลอย่างมากกับอวัยวะภายในร่างกายในทุกๆส่วน
เท้าเป็นอวัยวะที่มีช่องทางการไหลเวียนเลือดขนาดเล็กเมื่อเทียบกับสัดส่วนทั้งหมดของร่างกาย ดังนั้น โอกาสที่จะเกิดการอุดตันของของเสียต่างๆจึงสามารถเกิดได้ง่ายกว่าอวัยวะอื่นๆ และหากไม่ขยับขยายช่องทางที่อุดตันเหล่านี้ ก็อาจมีผลกระทบต่ออวัยวะต่างๆต่อเนื่องกันตามไปได้ ฉะนั้น หากเราพอจะมีวิธีถนอมเท้าให้มีสุขภาพที่ดีได้ ก็ถือเป็นสิ่งดีที่ทุกควรควรใส่ใจและควรรีบทำ แต่จะเริ่มต้นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาเลยค่ะ

    การแช่เท้าในอ่างน้ำอุ่นถือเป็นวิธีปฏิบัติที่ถูกถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนาน ตามทฤษฎีการแพทย์ทางเลือกสาขา Reflexology เชื่อกันว่าบริเวณเท้ามีจุดสัมผัสซึ่งสัมพันธ์กับการทำงานของอวัยวะต่างๆทั่วร่างกาย ดังนั้นการผ่อนคลายด้วยการแช่เท้าในน้ำร้อน จึงเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยกระตุ้นจุดสัมผัสเหล่านี้ด้วยพลังงานความร้อนได้ ส่วนการศึกษาของนายแพทย์ วิลเลียม วินเทอร์วิตซ์ ชาวออสเตรีย ก็มีความเห็นไปในแนวทางเดียวกันว่า ประสาทรับสัมผัสที่ผิวหนังจะมีวงจรประสาทเชื่อมกับกล้ามเนื้อและอวัยวะต่างๆในร่างกาย เมื่อความร้อนสัมผัสกับผิวหนังก็จะส่งสัญญาณไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการทำงานของอวัยวะที่อยู่ห่างไกลได้

    ทีนี้มาดูวิธีการกันต่อเลยดีกว่า วิธีการง่ายๆที่ทุกคนทำได้เองที่บ้านเริ่มต้นจากการหากะละมังเหมาะๆมาสักใบ จากนั้นต้มน้ำร้อนให้ได้อุณหภูมิประมาณ 40-50 ^oC เทลงในกะละมังให้พอท่วมนิ้วเท้า แช่เท้าทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงค่อยๆ เติมน้ำเพิ่มมากขึ้นจนสูงถึงกระดูกข้อเท้า พร้อมกับควบคุมอุณหภูมิของน้ำให้สูงขึ้นเป็น  60 ^oC ขณะที่เราเอาเท้าแช่อยู่ในน้ำให้พยายามเคลื่อนไหวเท้าไปเรื่อยๆ โดยอาจใช้วิธีถูฝ่าเท้าไปมา ทั้งนี้ก็เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของเลือดนั่นเอง อย่างไรก็ตาม การแช่เท้าด้วยน้ำอุ่นที่ดีควรใช้เวลาประมาณ 10-20 นาที หลังจากครบเวลาแล้วให้ยกเท้าขึ้นจากน้ำ เช็ดให้แห้งด้วยผ้าสะอาด ก็เป็นอันเสร็จพิธี

    รับรองได้เลยว่า หากคุณได้ลองเอาเท้าแช่น้ำอุ่นแล้ว จะรู้สึกผ่อนคลายสบายใจมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะความร้อนจะเป็นตัวช่วยขยายขนาดของหลอดเลือด และกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้เลือดมาเลี้ยงอวัยวะเฉพาะที่ ทั้งยังทำให้กล้ามเนื้อลดอาการเกร็งและลดความเจ็บปวดลงได้ ดังนั้น ใครที่เหนื่อยล้าจากการใช้งานเท้ามาอย่างหนักหน่วงในทุกวัน ก็ลองเอาวิธีนี้ไปใช้กันดูนะคะ

    แนะนำเพิ่มเติมอีกนิดด้วยการเติมเกลือลงไปในน้ำที่ใช้แช่เท้า น้ำเกลือจะช่วยดูดซับประจุเสียจากร่างกายได้เทียบเท่ากับการที่เราสัมผัสพื้นดินด้วยเท้าเปล่า โดยแนะนำให้ทำการแช่เท้าในน้ำเกลือประมาณสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โดยใช้เกลือ 1-2 ช้อนชา ต่อน้ำแช่เท้า 1 กะละมัง

นอกเหนือจากความสบาย ความผ่อนคลาย หรือลดอาการปวดบวมที่เท้าแล้ว การแช่เท้ายังมีประโยชน์ที่ร่างกายจะได้รับในรูปแบบอื่นๆแอบแฝงอยู่ด้วย เช่น ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยกระตุ้นความต้านทานของร่างกาย ช่วยลดอาการอักเสบของจมูกและลำคอ ช่วยลดอาการปวดท้อง ช่วยลดอาการคั่งของเลือดที่ส่วนอื่นๆ ช่วยให้อาการปวดหัวหรือปวดประจำเดือนลดลง ช่วยป้องกันอาการมือเท้าเย็นโดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว หรือช่วยทำให้นอนหลับง่ายตลอดคืน เป็นต้น

    อย่างไรก็ดี มีข้อควรระวังเล็กน้อยสำหรับผู้ที่กำลังสนใจดูแลเท้าด้วยการแช่น้ำอุ่น ซึ่งนั่นก็คือ ไม่ควรทำในผู้ป่วยที่มีประวัติการเป็นโรคเบาหวานหรือมีปัญหาเกี่ยวกับเส้นเลือดขอด รวมไปถึงใครที่กำลังมีบาดแผล แผลอักเสบ แผลติดเชื้อ หรือเป็นโรคผิวหนังที่เท้า ก็ควรเว้นการดูแลเท้าด้วยวิธีนี้ไปก่อนด้วย

    ได้เห็นถึงวิธีการในการผ่อนคลายฝ่าเท้ากันไปแล้วก็อย่าลืมนำไปใช้กันได้นะคะ เพราะวิธีการแช่เท้าในน้ำอุ่นๆนี้ถือเป็นวิธีพื้นฐานที่จะช่วยสร้างความสุขให้แก่คุณได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร แถมไม่ต้องไปเสียเวลาหรือเสียเงินลงทุนอะไรมากด้วย แค่กะละมังใส่น้ำอุ่นๆซักใบกับหนังสือเล่มโปรดสักเล่ม แค่นี้ก็ฟินสุดๆแล้วละค่ะ