เชื่อว่าหนุ่มสาวออฟฟิตทั้งหลายที่มีวิถีชีวิตส่วนใหญ่หลีกไม่พ้นกับการนั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ น่าจะมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพคอ ไหล่ หลัง หรือเอว เอาได้ง่ายๆ เพราะด้วยลักษณะงานแล้ว ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการนั่งทำงานในท่าเดิมๆเอาได้เลย อีกทั้งในบางครั้ง งานอาจจะเร่งมากจนไม่มีแม้แต่เวลาที่จะลุกไปเข้าห้องน้ำหรือยืดเส้นยืดสายเลยก็มี ครั้นจะให้ไปเข้าฟิตเนตหรือออกกำลังกายหลังเลิกงาน ก็คงโดนความอ่อนล้านำพาให้เลี้ยวรถกลับบ้านเสียก่อนซะทุกครั้ง แล้วทีนี้จะต้องทำยังไง จึงจะสามารถทำงานต่อไปได้อย่างปลอดภัยไร้โรค วันนี้เราจึงขอมาแนะนำวิธีในการยืดเส้นยืดสายที่สามารถทำได้ง่ายๆบนเก้าอี้ทำงานของคุณ พร้อมแล้ว ทำไปพร้อมกับเราได้เลยค่ะ

เริ่มต้นด้วยท่าแรกที่เน้นการบริหารต้นคอกันก่อน ทำได้โดยการใช้มือขวาอ้อมศีรษะด้านบนไปกดที่บริเวณปลายหูซ้ายด้านบนเบาๆ กดค้างไว้แล้วหายใจเข้า-ออก 5 ครั้ง ทำช้าๆสลับกันไปทั้งข้างซ้ายและข้างขวา ขณะบริหารร่างกายด้วยท่านี้ จะทำให้คุณรู้สึกตึงบริเวณต้นคอ ซึ่งจะช่วยในการบริหารและผ่อนคลายกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอได้เป็นอย่างดี ใครที่ต้องก้มหน้าทำงานบ่อยๆ ก็อย่าลืมนำท่านี้ไปใช้คลายเมื่อยหรือผ่อนคลายอาการเกร็งต้นคอกันได้นะคะ
มาถึงท่าต่อไปกันบ้าง ใครกำลังรู้สึกเมื่อยแขนกันอยู่ ลองนำท่านี้ไปใช้กันดูนะคะ วิธีทำก็คือ ให้ประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน แล้วเหยียดมือขึ้นไปด้านบนเหนือศีรษะจนสุด พร้อมแหงนหน้าขึ้นแล้วกลอกตามองขึ้นไปตามด้านบน ค้างท่านี้ไว้โดยหายใจเข้าและออกประมาณ 5 ครั้ง จากนั้นจึงลดมือลงกลับสู่ท่าเดิม ท่าบริหารนี้จะช่วยให้คุณได้เปลี่ยนอิริยาบถจากท่านั่งทำงานเดิมๆ ช่วยยืดเหยียดกล้ามเนื้อบริเวณแขนได้อย่างเต็มที่ และช่วยให้กล้ามเนื้อมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางตรงกันข้ามบ้าง ซึ่งถือเป็นหลักการที่สำคัญในการบริหารร่างกายด้วยโยคะ อีกทั้งยังเป็นการบริหารกล้ามเนื้อช่วงคอให้ผ่อนคลายไปด้วยในเวลาเดียวกัน ดังนั้น ใครที่จำเป็นต้องนั่งทำงานท่าเดิมๆตลอดทั้งวัน ก็อย่าลืมเอาท่านี้ไปใช้บริหารร่างกายกันดูแล้วกันนะคะ
ท่าต่อมาจะต่อเนื่องกับท่าบริหารเมื่อสักครู่นี้ ทำได้โดยการดันมือไปด้านหน้าแล้วจึงค่อยๆ เคลื่อนแขนออกด้านข้าง เหยียดแขนทั้งสองข้างออกไปข้างลำตัวจนสุด หายใจเข้าและออกช้าๆลึกๆ ประมาณ 5 ครั้ง ท่าบริหารนี้จะช่วยให้ร่างกายสามารถหายใจได้อย่างเต็มปอดมากยิ่งขึ้น ซึ่งการหายใจที่ถูกวิธีจะช่วยให้คุณได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น นอกจากท่านี้จะเป็นการยืดเส้นยืดสายแล้ว ยังมีผลช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และพร้อมต่อการทำงานมากขึ้นด้วย
มาถึงท่าบริหารเพื่อคลายความเมื่อยล้าของหัวไหล่กันบ้าง ใครที่ต้องนั่งค่อมตัวหรือนั่งห่อไหล่นานๆ เหมาะอย่างยิ่งที่จะบริหารร่างกายด้วยวิธีนี้ ท่าบริหารนี้เริ่มต้นจากการนั่งตัวให้ตรง หลังตรง จากนั้นจึงอ้อมมือทั้งสองข้างไปด้านหลัง ประสานมือทั้งสองเข้าด้วยกัน จากนั้นพาดมือเอาไว้ที่พนักพิงเก้าอี้ด้านหลัง หายใจเข้าและออกติดต่อกันช้าๆสัก 5 ครั้ง แล้วจึงผ่อนกลับมาสู่ท่านั่งหลังตรงตามเดิม ระหว่างการบริหารร่างกายด้วยท่าดังกล่าว จะทำให้คุณรู้สึกตึงบริเวณหัวไหล่ ซึ่งถือเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้หัวไหล่ได้อยู่ในท่าอื่นๆบ้างแทนที่จะนั่งอยู่ในท่าเดิมนานๆ
นอกเหนือจากคอ แขน ลำตัว หรือหัวไหล่แล้ว ก็อย่าลืมที่จะต้องให้ความสำคัญกับการบริหารข้อมือด้วยเช่นกัน เพราะพนักงานออฟฟิตส่วนใหญ่มักจะต้องใช้นิ้วมือแทบทุกนิ้วในการพิมพ์งาน ในขณะที่ข้อมือนั้นแทบจะไม่ได้มีการเคลื่อนไหวเลย ซึ่งการที่เราใช้งานข้อมือเหล่านี้อย่างหนักหน่วงโดยลืมพักผ่อน ก็อาจมีผลให้เกิดอาการเจ็บปวดเอาได้ง่ายๆด้วยเช่นกัน การบริหารข้อมือสามารถทำได้โดยการยืดแขนทั้งสองข้างออกไปด้านหน้า หงายข้อมือข้างหนึ่งขึ้น จากนั้นใช้มืออีกข้างดันปลายฝ่ามือเข้าหาลำตัวเบาๆ ค้างไว้สักครู่ให้รู้สึกตึงๆที่ข้อมือ จากนั้นจึงสลับมาทำกับมืออีกข้างหนึ่งแทน เพียงเท่านี้ก็เป็นการบริหารข้อมือที่ทำได้ง่ายๆทุกที่แล้วค่ะ
การฝึกโยคะในที่ทำงานเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยขจัดความเหนื่อยล้าจากการทำงานออกไปได้เป็นอย่างดี ซึ่งช่วงเวลาการปฏิบัติที่เหมาะสมควรเว้นระยะจากการรับประทานอาหารสัก 2 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายเสร็จสิ้นจากการย่อยอาหารไปเสียก่อน นอกจากนี้ ก็ควรฝึกในช่วงเวลาเดิมๆในทุกๆวันด้วย เพื่อให้ร่างกายรู้สึกคุ้นชินและมีผลต่อร่างกายในทางที่ดีขึ้น

ภาพจาก : http://www.nitiponclinic.com/office-syndrome-
เห็นหรือยังค่ะว่า โยคะไม่จำเป็นจะต้องทำแต่เฉพาะที่บ้านหรือที่ฟิตเนตเท่านั้น แต่ก็ยังสามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับชีวิตประจำวันด้วยท่าบริหารง่ายๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลาอีกด้วย รู้กันแบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมเอาท่าบริหารร่างกายไปใช้กันดูนะคะ เพราะนอกจากท่าโยคะในออฟฟิตจะทำให้คุณได้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อเป็นอย่างดีแล้ว การบริหารร่างกายด้วยวิธีนี้ยังช่วยแก้ง่วงได้เป็นอย่างดีอีกด้วยละคะ