สุขลักษณะที่ไม่ดีจะเป็นสาเหตุที่สำคัญที่ทำให้ร่างกายติดเชื้อโรค ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วย และนำพาโรคภัยที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น
เชื้อโรคที่สำคัญที่ส่งผลต่อความเจ็บป่วยของร่างกายที่จะขอกล่าวถึงในที่นี้คือเชื้อ Staphylococcus aureus เชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้เป็นเชื้อที่มักปนเปื้อนในอาหารต่างๆที่ไม่ผ่านกระบวนการให้ความร้อน หรือมีการจัดการที่ผิดสุขลักษณะ ตัวอย่างอาหารเช่น เนื้อและผลิตภัณฑ์เนื้อ เนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากไข่ อาหารประเภทสลัด มันฝรั่ง มักกะโรนี ผลิตภัณฑ์ขนมอบ ครีมพาย เอแคลร์ ช็อกโกแลต แซนวิช และผลิตภัณฑ์นม โดยส่วนมากอาหารเหล่านี้จะถูกจัดเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม และเก็บไว้เป็นเวลานานก่อนจะถูกนำมารับประทาน
ภาพจาก : http://blog.th.88db.com/?p=22134
เชื้อ Staphylococcus aureus จัดเป็นเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ซึ่งเกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อจุลินทรีย์ชนิดนี้ แค่เพียงปริมาณน้อยกว่า 1 ไมโครกรัมก็สามารถทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ และหากมีการปนเปื้อนของเชื้อชนิดนี้อยู่ในอาหารสูงถึง 100,000 เซลล์ต่อกรัมอาหาร จะส่งผลให้เกิดสารพิษในปริมาณสูงมาก และส่งผลให้เกิดโรคร้ายแรงที่แสนอันตรายได้ เช่น โรคหนอง แผลติดเชื้อ เป็นต้น
อาการที่เกิดขึ้นมักจะแสดงออกหลังจากรับประทานอาหารที่มีเชื้อปนเปื้อนเข้าไปประมาณ 1 ? 6 ชั่วโมง โดยผู้ป่วยจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วงอย่างรุนแรงจนอ่อนเพลียมาก ปวดท้องและเป็นตะคริว ส่วนในรายที่มีอาการรุนแรงอาจช็อคได้ นอกจากนี้พบว่าอาจมีอาการอื่นๆแทรกซ้อนในผู้ป่วยผู้สูงอายุ เด็กแรกเกิด และผู้ป่วยโรคเบาหวาน โดยส่วนใหญ่อาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้นภายในระยะเวลา 8 ? 24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพความต้านทานของร่างกายแต่ละบุคคล และปริมาณของสารพิษที่ได้รับเข้าไปในร่างกาย
การป้องกันไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเชื้อโรคร้ายตัวนี้ ทำได้ไม่ยากเพียงแค่รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ หรือหากรับประทานไม่หมดควรนำไปเก็บในตู้เย็นที่อุณหภูมิต่ำเพื่อยับยั้งการแบ่งตัวหรือการสร้างสารพิษของเชื้อจุลินทรีย์ และก่อนนำมารับประทานทุกครั้งควรอุ่นอาหารให้ร้อนก่อนเสมอเพื่อทำลายเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจปนเปื้อนมากับอาหาร
การใส่ใจในสุขลักษณะด้านอาหารที่ดีจะช่วยเป็นเกราะป้องกันอันตรายที่อาจทำลายสุขภาพและทำให้ร่างกายแข็งแรง ปลอดภัย ไร้เชื้อจุลินทรีย์ได้อย่างแน่นอนคะ