การดูแลสุขภาพ, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้, อาหารเพื่อสุขภาพ

โตมาได้เพราะข้าวเหนียว

    ข้าวเหนียวส้มตำ ข้าวเหนียวน้ำตก หรือข้าวเหนียวไก่ทอด ถือเป็นเมนูอาหารง่ายๆที่รับประทานได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งเราจะสังเกตได้ว่า ‘ข้าวเหนียว’ สามารถเข้ากับเมนูอาหารต่างๆได้อย่างหลากหลาย และเป็นหนึ่งในชนิดข้าวที่คนไทยหลงใหลและรับประทานกันมาเป็นเวลาช้านานแล้ว

โตมาได้เพราะข้าวเหนียว
ภาพจาก : http://www.thaisiamglasgow.com/59-sticky-rice-kao-niow/ โตมาได้เพราะข้าวเหนียว

    ข้าวเหนียว เป็นธัญพืชที่คนไทยนิยมรับประทานรองลงมาจากข้าวเจ้า เพราะข้าวเหนียวจะให้เนื้อสัมผัสที่เหนียว มัน และมีรสชาติที่น่ารับประทาน ซึ่งการที่ข้าวเหนียวมีเนื้อสัมผัสที่เฉพาะตัวนี้ ก็เนื่องมาจากองค์ประกอบของแป้งที่อยู่ภายใน โดยข้าวเหนียวจะประกอบด้วยสารที่เรียกว่า ‘อะมิโลเพกติน’ ในปริมาณสูง และมี ‘อะไมโลส’ ต่ำมาก ซึ่งการอะไมโลสต่ำเช่นนี้จะส่งผลให้ลักษณะข้าวสุกนุ่มเหนียวมากกว่าการรับประทานข้าวเจ้าโดยทั่วไป

    การหุงต้มข้าวเหนียวจะทำเช่นเดียวกับข้าวสารไม่ได้ เพราะข้าวเหนียวจะมีความแน่นที่มากกว่า ในการหุงต้มจึงต้องนำข้าวเหนียวไปแช่น้ำเสียก่อนด้วยเวลาไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง แล้วจึงนำไปนึ่งต่อให้สุก แต่หากต้องการใช้ในเวลาอันรวดเร็วก็จะใช้วิธีแช่ในน้ำอุ่น เพื่อช่วยย่นระยะเวลาในการแช่ข้าวได้ ส่วนการนำสารส้มเพียงเล็กน้อยมาใส่ลงในข้าวเหนียวขณะแช่ ก็จะช่วยให้ข้าวเหนียวที่หุงได้มีความขาวสะอาดและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
ในด้านของความรู้สึกอิ่มท้อง การรับประทานข้าวเหนียวจะช่วยทำให้อิ่มท้องได้นานกว่าการกินข้าวเจ้าโดยทั่วไป เพราะข้าวเหนียวเป็นข้าวที่ให้พลังงานได้มากกว่า โดยเมื่อเปรียบเทียบแล้ว การรับประทานข้าวเหนียว 1 ทัพพี จะให้พลังงานเทียบเท่ากับการรับประทานข้าวสวยถึง 2 ทัพพีเลยทีเดียว ดังนั้นจึงจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ในภาคอีสานหรือคนที่ต้องการใช้พลังงานมากๆ จึงนิยมรับประทานข้าวเหนียวกันมากกว่าข้าวเจ้า มากไปกว่านั้น การรับประทานข้าวเหนียวยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของกระเพาะอาหารให้ดีมากขึ้นอีกด้วย 


    และถ้าหากพิจารณาในด้านของสารอาหารแล้ว จะต้องดูถึงชนิดพันธุ์ของข้าวเหนียวด้วย ในประเทศไทยของเรานี้มีพันธุ์ของข้าวเหนียวอยู่ด้วยกันหลายสายพันธุ์ แต่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักกันจะมีอยู่สองสี ได้แก่ ‘ข้าวเหนียวขาว’ และ ‘ข้าวเหนียวดำ’ ซึ่งความแตกต่างด้านสีก็ย่อมมีผลถึงสารอาหารภายในที่แตกต่างกันออกไปด้วย โดยหากเป็นข้าวเหนียวดำจะมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากกว่าข้าวเหนียวขาว สารอาหารที่ว่า คือ “โอพีซี (OPC)”  ซึ่งมีสรรพคุณในการช่วยชะลอการแก่ก่อนวัยและลดความเสื่อมถอยของร่างกาย โดยสารโอพีซีที่พบในข้าวเหนียวดำเป็นสารชนิดเดียวกับสารสกัดที่ได้จากองุ่นดำ องุ่นแดง และเปลือกสน ทั้งนี้สารโอพีซียังพบในแอปเปิ้ลแดง แอปเปิ้ลฟูจิ มะเขือม่วง หอมแดง ถั่วแดง ถั่วดำ มันสีม่วง ชมพู่มะเหมี่ยว และลูกหว้าด้วย

โตมาได้เพราะข้าวเหนียว
ภาพจาก : http://www.organicauthority.com/mango-recipes โตมาได้เพราะข้าวเหนียว

    การนำข้าวเหนียวดำไปทำข้าวหมากจะทำให้ได้วิตามินบี 12 ซึ่งช่วยป้องกันโรคโลหิตจางได้ ส่วนการนำข้าวเหนียวไปทำเป็นของหวานโดยเอาไปมูนกับน้ำกะทิ น้ำกะทิจะช่วยสกัดเอาวิตามินอีในข้าวเหนียวออกมา ซึ่งทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ที่มากขึ้น

    นอกจากสารโอพีซีแล้ว ในข้าวเหนียวยังมีคุณค่าทางโภชนาการในด้านสารอาหารอื่นๆด้วย ข้าวเหนียวอุดมไปด้วยวิตามินต่างๆที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี2 เป็นต้น อีกทั้งยังมีโปรตีนที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้ด้วย อย่างไรก็ตามปริมาณโปรตีนที่พบในข้าวเหนียวก็ไม่ได้แตกต่างกับในข้าวเจ้ามากนัก

    ส่วนสารสำคัญอย่างธาตุเหล็กและกรดโฟลิก ก็สามารถพบได้ในข้าวเหนียวเช่นกัน สารสำคัญทั้งสองตัวนี้จะเป็นสารอาหารที่มีสรรพคุณในการสร้างเม็ดเลือด และทำให้เม็ดเลือดสมบูรณ์ นอกจากนี้ข้าวเหนียวยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่มีสรรพคุณช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ และป้องกันปัญหาวุ้นนัยน์ตาเสื่อมได้ด้วย

    อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าข้าวเหนียวจะมีแต่ข้อดีเสมอไป เพราะการรับประทานมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียบางประการได้เช่นกัน เนื่องจากข้าวเหนียวเป็นอาหารให้พลังงานสูง เมื่อรับประทานเข้าไปมากๆก็จะส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนเร็ว อีกทั้งการรับประทานมากเกินไปจะก่อให้เกิดอาการไฟธาตุพิการได้ง่าย ส่วนการรับประทานข้าวเหนียวในผู้สูงอายุและเด็กจำเป็นจะต้องให้ความใส่ใจที่มากขึ้น เนื่องจากบุคคลในวัยนี้จะมีระบบทางเดินอาหารที่ไม่แข็งแรงเท่ากับวัยอื่นๆ ดังนั้นอาจจะทำให้เกิดอาการติดคอ อุดตันลำไส้ อึดอัดท้อง หรือระบบทางเดินอาหารไม่ปกติได้ ผู้ที่มีปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหารที่ไม่เป็นปกติ จึงควรพยายามหลีกเลี่ยงการรับประทานข้าวชนิดนี้ในปริมาณมาก และควรจะต้องเคี้ยวให้ละเอียดในทุกคำ เพื่อที่ระบบย่อยอาหารจะได้ย่อยได้ง่ายมากขึ้น ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการของโรคเบาหวานอยู่ ก็ไม่ควรรับประทานข้าวเหนียวในปริมาณที่มากเช่นกัน เนื่องจากข้าวเหนียวเป็นข้าวที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูงกว่า การรับประทานข้าวเหนียวเข้าไปจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำตาลในเลือดที่รวดเร็วมากกว่า ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานจึงควรหลีกเลี่ยงการรับประทานข้าวชนิดนี้ แต่ควรเน้นรับประทานเป็นข้าวเหนียวดำจะมีประโยชน์ต่อร่างกายที่ดีมากกว่า

    จะเห็นได้ว่าธัญพืชชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่เบาเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง อิ่มท้อง และได้รับประโยชน์ไปแบบเต็มๆอย่างแน่นอน


Sending
User Review
0 (0 votes)
error

Enjoy this blog? Please spread the word :)