การดูแลสุขภาพ, การออกกำลังกาย, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้, อาหารเพื่อสุขภาพ, เสริมความงาม

เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่

    การจะทำให้ตนเองมีใบหน้าที่แลดูอ่อนเยาว์เหมือนเด็กวัยรุ่นอายุ 13-14 ตลอดเวลา มีเคล็ดลับง่ายๆได้หลายวิธี ซึ่งรับรองได้เลยว่า วิธีดังต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพามีดหมอหรือเข็มฉีดยาที่ไหนเลย เพียงแค่คุณลองทำตามวิธีง่ายๆดังต่อไปนี้ ก็จะช่วยให้คุณมีใบหน้าที่ดูเด็กได้ตลอดเวลาแล้วละค่ะ

เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่
ภาพจาก : http://www.blogbigtime.com/lifestyle/do-you-feel-fresh-in-the-morning เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่


ปรับเวลาตื่นและนอน

    เริ่มต้นจากการปรับนาฬิกาชีวิตให้หมุนในทิศที่ถูกต้องเสียก่อน ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านแนะนำว่า การที่เราอยากจะมีใบหน้าที่ไม่แก่เกินวัย จำเป็นจะต้องนอนและตื่นในเวลาที่เหมาะสม โดยถ้าคุณสามารถตื่นได้ 6 โมงในทุกเช้า และเข้านอนตอนหัวค่ำ ก็จะช่วยตรึงความอ่อนวัยให้อยู่กับคุณได้ตราบนานเท่านานแล้ว การนอนหลับจึงถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความงาม เพราะเซลล์ผิวหนังของเราต้องการการพักผ่อนไม่ต่างไปจากกล้ามเนื้อเลย เมื่อใดก็ตามที่เรานอนน้อยเกินไป ก็อาจจะปรากฏเป็นรอยคล้ำบริเวณใต้ตาได้ การนอนหลับเพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูตัวเองจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีบางคนที่มีความเชื่อผิดๆว่า การนอนยิ่งนานยิ่งดีต่อผิวหน้า ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ความคิดที่ว่านี้ไม่ถูกต้องเสียเท่าไร เพราะการนอนที่นานเกินไปอาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้มากกว่าการนอนในปริมาณที่เหมาะสม และเมื่อคุณตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลในเวลาที่แสนยาวนาน ก็จะมีผลให้คุณไม่รู้สึกสดชื่นได้เท่ากับการนอนในปริมาณเท่าที่ร่างกายต้องการด้วย

เลี่ยงแดดที่แผดเผา

    ผิวหนังของเราเปรียบเสมือนเส้นใยโปรตีนที่บอบบางและเสื่อมสภาพได้ตลอดเวลาที่โดนมลพิษรบกวน ดังนั้นการที่เราละเลยที่จะปกป้องผิวหนังด้วยครีมกันแดด ร่ม หรือเสื้อแขนยาวบ่อยๆ ย่อมเป็นการปล่อยให้แสงแดดเข้ามาทำลายผิวหนังได้ตลอดเวลา ซึ่งการทำลายเช่นนี้จะส่งผลให้เส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินที่อยู่ภายใต้ผิวหนังของคุณเสื่อมสภาพลงทีละน้อยๆ จนเป็นผลให้ใบหน้าที่เคยดูเต่งตึงกลับเหี่ยวหย่อนยาน หรือถ้าร้ายไปกว่านั้นก็อาจนำไปสู่การทำลายดีเอ็นเอของผิวหนัง ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ในที่สุด ดังนั้น การหลีกเลี่ยงแสงแดดจึงไม่ใช่เรื่องของการกลัวผิวคล้ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้หน้าแก่ และป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย

บำรุงผิวหน้าให้ดี

    การทำความสะอาดผิวหน้าเป็นสิ่งจำเป็นที่เราต้องดูแลให้ดีตลอดเวลา แต่บางครั้งการขัดถูผิวหน้าหรือการบำรุงผิวที่มากจนเกินไป ก็อาจมีผลให้ผิวหน้าถูกทำลายได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรอ่อนโยนและเหมาะกับสภาพผิวของตนเอง ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการทำให้ผิวพรรณสะอาด แถมยังไม่ต้องสูญเสียความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไปอีกด้วย นอกจากนี้ การล้างหน้าด้วยน้ำเย็นก็เป็นวิธีการสำคัญที่ทำให้คุณรู้สึกสดชื่นมากกว่าการล้างด้วยน้ำอุ่น อีกทั้งยังเป็นการกระชับรูขุมขน และลดความบวมของใบหน้าในช่วงเพิ่งตื่นนอนด้วย ที่สำคัญอย่าลืมทามอยซ์เจอร์ไรเซอร์ทุกครั้งหลังการล้างหน้า เพื่อปรับสภาพผิวให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง การดูแลผิวหน้าให้เปล่งปลั่งสดใสอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณดูสวยเด่น และหน้าเด็กกว่าอายุจริงได้อีกหลายปีเลยเชียวค่ะ

เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่
ภาพจาก : http://www.popsugar.com/fitness/45-Minute-Exercise-Bike-Workout-30844393 เธอทำให้ฉันรู้สึกเหมือนตอนสิบสี่


ออกกำลังกายแต่พอดี

    การออกกำลังกายแต่พอดีจะช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเซลล์ผิวหนังได้อย่างพอเหมาะพอดี ซึ่งย่อมส่งผลให้ผิวหน้าแลดูอ่อนเยาว์ลงได้ การออกกำลังแบบพอดีๆ อาจจะทำได้ด้วยการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อมัดใหญ่อย่างต่อเนื่อง เช่น วิ่ง เดินเร็ว ขี่จักรยาน หรือกระโดดเชือก เป็นต้น โดยจะต้องทำให้ได้ต่อเนื่องอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3-5 วัน เท่านี้ก็เพียงพอที่จะคงความเด็กของใบหน้าไม่ให้หายไปไหนได้แล้ว อย่างไรก็ตาม การกำลังกายแบบหักโหมไม่ใช่การกระทำที่จะก่อให้เกิดผลดีต่อร่างกายเสมอไป เพราะการที่เราออกแรงอย่างหนักหน่วงเพื่อเผาผลาญไขมันในร่างกาย จะส่งผลให้คุณแลดูซูบซีด และอ่อนเพลียมากเกินไปได้

เลี่ยงอาหารน้ำตาลสูง


    จริงอยู่ที่เมื่อร่างกายได้รับอาหารหรือเครื่องดื่มหวานๆ จะช่วยปลุกความง่วงในยามบ่ายได้ดี ด้วยเหตุนี้เอง การโหยหากาแฟสักแก้วเวลาในเวลาที่หนังตาเริ่มหย่อน จึงเป็นหนึ่งพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่มักทำกันจนติดเป็นนิสัย และแน่นอนว่าเครื่องดื่มเหล่านี้ก็จำเป็นต้องมีส่วนผสมของสารให้ความหวานอย่างน้ำตาลหรือน้ำผึ้ง เพื่อเสริมให้กลายเป็นเครื่องดื่มรสชาติดีที่ดื่มได้คล่องคอ ซึ่งบางครั้งอาจคล่องเกินไปจนเผลอดื่มมากกว่าหนึ่งแก้ว การที่เรารับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของสารให้ความหวานในปริมาณมากๆเช่นนี้ ก็มีผลต่อการทำให้หน้าแก่ได้เช่นกัน เนื่องจากพลังงานความหวานที่ได้เกินความต้องการนี้ จะชักนำให้ร่างกายเกิดเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นตัวการสำคัญในการเร่งความแก่บนใบหน้า อีกทั้งน้ำตาลทรายขาวยังมีผลทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชั่นในเนื้อเยื่อของมนุษย์ ซึ่งส่งผลให้โมเลกุลเปราะบางและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ดังนั้น หากใครยังไม่อยากหน้าแก่เร็วเกินไป ก็พยายามลด ละ หรือเลี่ยงอาหารหรือเครื่องดื่มหวานๆให้ได้มากที่สุด เพียงเท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ใบหน้าของคุณดูเด็กกว่าใครๆได้แล้วค่ะ

 

    ใครถนัดใช้วิธีไหนก็ลองนำไปทำตามกันดูนะคะ แต่ถ้าสามารถทำได้ครบทุกวิธีตามที่บอกไป ต่อไปนี้ก็คงไม่มีใครเรียกคุณว่า ‘ป้า’ ง่ายๆแน่

Sending
User Review
0 (0 votes)