อะไรที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “ออร์แกนิค” มักจะมีความพิเศษด้านราคาที่แพงมากกว่าอาหารทั่วๆไป ไม่ว่าจะเป็นผักออร์แกนิค ข้าวออร์แกนิค นมออร์แกนิค หรือไข่ไก่ออร์แกนิค ก็ล้วนแต่มีความพิเศษเฉพาะตัวบางอย่าง ที่ทำให้ผู้ขายสามารถเรียกราคาได้สูงกว่าอาหารคู่แข่งอื่นๆ แต่หากจะผู้ถึงคุณภาพและความปลอดภัยภายในแล้ว อาหารออร์แกนิคมีความแตกต่างจากอาหารอื่นๆมากน้อยแค่ไหน เรามาลองพิจารณาไปพร้อมๆกันเลยดีกว่าค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่ม อากาศ หรืออาหาร ล้วนเป็นแหล่งที่สารพิษมีโอกาสปนเปื้อนได้แบบไม่มีขีดจำกัด ซึ่งการที่เราได้รับสารพิษสะสมจากแหล่งที่มาเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดความเจ็บป่วย หรือมีปัญหาสุขภาพได้อย่างมากมาย การป้องกันตนเองที่ดีที่สุดจึงเป็นการตามหาแหล่งของอาหารที่เชื่อว่ามีความปลอดภัย และมีอันตรายต่อร่างกายน้อยที่สุด ซึ่งหนึ่งในแหล่งอาหารที่คนส่วนใหญ่เชื่อถือ ก็คือ “อาหารออร์แกนิคหรืออาหารอินทรีย์” นั่นเอง
กว่าจะมาเป็นอาหารออร์แกนิคได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะการปลูกให้ได้มาซึ่งคำว่า “ออร์แกนิคหรืออินทรีย์” มีขั้นตอนมากมายที่ผู้ผลิตจำเป็นต้องทำความเข้าใจ เริ่มต้นตั้งแต่การเตรียมพื้นที่การเพาะปลูก ซึ่งพื้นที่ที่ใช้จะต้องไม่เคยเป็นพื้นที่ที่เคยปลูกโดยการใช้สารเคมีมาก่อน แหล่งน้ำก็เช่นเดียวกันที่จะต้องมีความปลอดภัยจากสารเคมีอันตราย ส่วนประกอบทุกอย่างที่นำมาใช้ในการปลูกจะต้องได้มาจากธรรมชาติ โดยปราศจากการเร่งโตด้วยสารเคมีหรือยาฆ่าแมลงใดๆ หากเป็นการเลี้ยงสัตว์ก็ต้องปล่อยสัตว์แบบอิสระ ไม่มีการขุน ไม่ใช้สารกระตุ้น หรือไม่ให้อาหารสังเคราะห์ใดๆเพื่อเร่งให้สัตว์โตเร็ว หากทำได้เช่นนี้ในทุกขั้นตอน จึงจะเรียกได้ว่าเป็น ‘อาหารออร์แกนิค 100%’
แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องยากมากที่จะทำให้อาหารที่ปลูกหรือเลี้ยงได้ชื่อว่าเป็นอาหารออร์แกนิค 100% ดังนั้น ผู้ผลิตบางรายจึงเลือกที่จะใช้สารเคมีเล็กน้อยเข้ามาช่วยในการเพาะปลูกด้วย แต่จะต้องมีขั้นตอนบางอย่างที่จะทำให้มั่นใจว่า อาหารนั้นๆยังคงปลอดภัยต่อผู้บริโภคอยู่ และลดทอนคำกล่าวอ้างจาก ‘อาหารออร์แกนิค 100% (100%Organic)‘ เป็น ‘อาหารออร์แกนิค 95% (Organic)‘ หรือ ‘อาหารออร์แกนิค 70% (Made with Organic Ingredient)‘ ตามแต่ที่สามารถทำได้แทน
ด้วยความที่อาหารออร์แกนิคเป็นอาหารที่ปลูกด้วยธรรมชาติ และใช้สารเคมีน้อยมากหรือแทบจะไม่ใช้เลย การปลูกพืชชนิดนี้จึงถือเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยฟื้นฟูธรรมชาติให้ยังคงสมบูรณ์ได้นานมากที่สุด แต่สำหรับร่างกายของเราแล้ว การรับประทานอาหารออร์แกนิคจะมีประโยชน์ต่อตัวเราได้มากน้อยแค่ไหน ลองมาดูกันค่ะ
- ห่างไกลโรคร้าย
เป็นที่รู้กันดีอยู่ว่า การรับประทานอาหารที่มีสารพิษ สารเคมี หรือมีสารปนเปื้อนจากยาฆ่าแมลง ถือเป็นตัวการสำคัญในการเกิดโรคต่างๆทั้งต่ออวัยวะและสมอง แต่หากเราได้รับอาหารออร์แกนิคทดแทน ปัจจัยเสี่ยงเรื่องการปนเปื้อนสารอันตรายทั้งหลายก็จะลดน้อยลง นอกจากนี้ อาหารแปรรูปต่างๆที่ได้ชื่อว่าเป็นอาหารออร์แกนิค ก็ยังมีความปลอดภัยในการใช้สารเคมีสังเคราะห์ สารกันบูด หรือสารปรุงแต่งสีและรสมากกว่าอาหารโดยทั่วไป ซึ่งก็ยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นไปอีกว่า การรับประทานอาหารจะมีความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น โดยจากการสำรวจปริมาณสารปรอทที่พบในอาหารทั่วไปจะมีปริมาณที่สูงกว่าที่พบในอาหารออร์แกนิคถึง 29% ซึ่งหากเราได้รับอาหารออร์แกนิคเป็นประจำ ก็ย่อมจะทำให้เราปลอดภัยจากโรคต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคภูมิแพ้ โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น ได้ดีขึ้มากนนั่นเอง
- เพื่อคุณประโยชน์ที่ดีกว่า
การรับประทานอาหารออร์แกนิคช่วยให้เราได้รับคุณค่าทางอาหารที่มากกว่าอาหารทั่วไปได้อย่างไร ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากการปลูกด้วยวิธีออร์แกนิคจะทำให้ผลิตผลที่ได้มีสารอาหารบางอย่างที่สูงกว่า อ้างอิงจากผลการวิจัยโดย The Soil Association ประเทศอังกฤษ ที่ทำการเปรียบเทียบสารอาหารที่ได้จากการปลูกผักด้วยวิธีออร์แกนิคและวิธีปกติ ผลปรากฎว่า การปลูกด้วยวิธีออร์แกนิคทำให้พืชมีวิตามินซีสูงกว่าพืชที่ปลูกโดยทั่วไปถึง 27% มีธาตุเหล็กสูงกว่า 21% และมีแมงกานีสสูงกว่าถึง 29% ซึ่งนับได้ว่ามีความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว การรับประทานอาหารออร์แกนิคจึงย่อมส่งผลให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ดีในปริมาณที่สูงกว่าอาหารทั่วๆไป
- รสชาติดีกว่า
ใช่ว่าของดีจะต้องมีรสชาติที่ไม่อร่อยเสมอไป เพราะการรับประทานอาหารออร์แกนิคจะมีความเป็นธรรมชาติมากกว่าการรับประทานอาหารอื่นๆ เนื่องจากการปลูกจะมีการใช้สารเคมีที่น้อยกว่า และการแปรรูปก็น้อยกว่าด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะคงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารเอาไว้ให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุดนั่นเอง การรับประทานอาหารออร์แกนิคจึงทำให้เราได้รับทั้งความอร่อยและความสดใหม่มากกว่าการบริโภคอาหารในรูปแบบอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าอาหารออร์แกนิคจะไม่มีโอกาสการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์หรือสิ่งแปลกปลอมอื่นใดเลย ในทางตรงกันข้าม อาหารจำพวกนี้มีโอกาสถูกโจมตีจากเชื้อจุลินทรีย์ที่มากกว่าอาหารทั่วไปด้วยซ้ำ เพราะอาหารออร์แกนิคจะปราศจากการใช้สารเคมีเพื่อถนอมอาหาร ดังนั้น การจะเลือกซื้ออาหารออร์แกนิคก็จำเป็นจะต้องสังเกตลักษณะภายนอกให้ดีก่อนด้วย จะได้มั่นใจได้ว่าเราจะได้รับประโยชน์จากการรับประทานอาหารคุณภาพดีไปอย่างเต็มๆ