“แม่เคยพร่ำสอนเสมอว่าให้กินปลาเยอะๆจะได้ฉลาด” คำกล่าวนี้เป็นจริงหรือไม่? แม้แต่คุณแม่เองก็ยังอาจจะไม่แน่ใจในข้อเท็จจริงนี้เสียเท่าไร เพราะก็แค่พูดตามอย่างที่มีคนบอกมาก่อนหน้านี้เท่านั้น หากใครยังมีข้อสงสัยว่ากินปลาแล้วจะฉลาดอย่างที่ใครๆกล่าวไว้จริงหรือไม่ ต้องอ่านบทความนี้ เราจะไขทุกข้อสงสัยให้หมดไปอย่างแน่นอนค่ะ
แม้ว่าความฉลาดที่พบได้ในมนุษย์จะเกิดจากที่มา 2 ประการ ทั้งจาก ‘พันธุกรรม’ และ ‘การเลี้ยงดู’ ซึ่งหากเป็นปัจจัยจากพันธุกรรมก็คงจะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะเป็นสิ่งที่ได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อแม่โดยตรง แต่อย่างไรก็ตาม คนเราก็ยังสามารถจะพัฒนาสมองให้ฉลาดขึ้นได้จากการเลี้ยงดู ซึ่งรวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ถูกสัดถูกส่วน และมากไปด้วยคุณประโยชน์ที่สามารถเลือกหยิบเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยตัวคุณเอง

เป็นที่รู้กันดีว่า ปลาเป็นแหล่งของโปรตีนที่ให้กรดอะมิโนที่สำคัญแก่ร่างกาย แต่กรดอะมิโนที่พบในเนื้อปลาก็จะแตกต่างไปจากกรดอะมิโนที่พบในเนื้อสัตว์ประเภทอื่นๆ ซึ่งแม้ว่ากรดอะมิโนจากโปรตีนทุกชนิดจะมีหน้าที่เหมือนกันในการเสริมสร้างและซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกายที่สึกหรอ แต่หากพิจารณาลงลึกถึงชนิดของกรดอะมิโน ก็จะพบความแตกต่างบางอย่างที่ทำให้การรับประทานอาหารประเภทโปรตีนต่างชนิดกัน ให้ประโยชน์ต่อร่างกายที่แตกต่างกัน โดยเนื้อปลาถือเป็นเนื้อสัตว์ที่มีส่วนประกอบของกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายสูง โดยเฉพาะไลซีน และทรีโอนีน ซึ่งกรดอะมิโนทั้งสองตัวนี้จำเป็นอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตในวัยเด็ก ดังนั้น หากเด็กน้อยได้รับประทานปลาที่มีกรดอะมิโนสูง ก็ย่อมมีส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตในช่วงปีแรกๆของชีวิตมนุษย์อย่างแน่นอน
นอกจากสารอาหารโปรตีนแล้ว ในเนื้อปลายังมีกรดไขมันสำคัญอีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ‘กรดไลโนเลอิค‘ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวควบคุมระดับโคเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด หรือ ‘กรดโดโคซาเฮ็กชิโนอิค (D.H.A)‘ ซึ่งทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของเซลล์สมอง และสารสำคัญตัวนี้นี่แหละที่เป็นตัวการสำคัญที่จะทำให้คน “ฉลาด” หรือ “ไม่ฉลาด”

สาร DHA คือกรดไขมันโอเมก้า 3 (Omega 3) ที่เป็นสารสำคัญที่ช่วยในการพัฒนาสมองของมนุษย์ และช่วยให้สมองมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากสารตัวนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมองและประสาทตา โดยครึ่งหนึ่งของ DHA ในสมอง คนเราจะได้รับมาตั้งแต่แรกเกิด ส่วนอีกครึ่งหนึ่งจะได้รับมาเมื่อโตขึ้น ซึ่งหากทารกได้รับสารชนิดนี้ตั้งแต่ในช่วง 3 ขวบปีแรก ก็จะมีส่วนให้ทารกสามารถเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่ฉลาดมากกว่าคนที่ไม่ได้รับสารชนิดนี้ได้อย่างแน่นอน
แล้วปลาทุกชนิดมีส่วนให้มนุษย์ฉลาดได้จริงหรือ? คำตอบก็คือ ปลาที่จะช่วยพัฒนาสมองของเด็กทารกได้จะต้องเป็นปลาที่มีส่วนประกอบของ DHA เท่านั้น ซึ่งสาร DHA สามารถพบได้ในปลาทะเลหรือปลาประเภทที่มีไขมันสูง เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาสวาย ปลาทู ปลาช่อน ปลาดุก ปลาจะละเม็ด ปลาสำลี ปลาตะเพียน ปลาหมึกกล้วย และปลาไส้ตัน เป็นต้น ส่วนอาหารอื่นๆที่หวังว่าจะช่วยทำให้ฉลาดขึ้นได้อย่างนมวัวนั้น กลับไม่พบว่ามีส่วนประกอบของ DHA เลย ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมนมผงเด็กทั้งหลายจึงจำเป็นต้องเสริมเติมแต่งสารสำคัญตัวนี้ลงไป เพื่อเพิ่มคุณสมบัติที่ดีที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเด็กทารกนั่นเอง
นอกจากการรับประทานอาหารโดยตรงแล้ว การรับสาร DHA ยังสามารถรับจากแม่ได้อีกทางหนึ่ง โดยสารอาหารจะส่งผ่านจากน้ำนมในอกของแม่ ซึ่งหากคุณแม่มีการบำรุงร่างกายด้วยอาหารที่อุดมไปด้วยสาร DHA สารสำคัญตัวนี้ก็ย่อมส่งต่อไปยังลูกน้อยของคุณได้ด้วย หากเป็นไปได้คุณแม่ควรเลี้ยงลูกด้วยนมของตัวเองอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ลูกน้อยมีโอกาสได้รับสาร DHA จากแม่โดยตรง โดยไม่ต้องพึ่งพาอาหารเสริมอย่างอื่น นอกจากนี้นมแม่ยังช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้ทารกมีร่างกายที่แข็งแรงและไม่เจ็บป่วยง่ายอีกด้วย
ไม่เพียงแค่กรดอะมิโนหรือสาร DHA เท่านั้น ที่ร่างกายมีโอกาสได้รับจากการรับประทานปลา แต่การรับประทานเนื้อสัตว์ชนิดนี้ก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายในทางอื่นๆด้วย เนื่องจากปลาเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ จึงสามารถรับประทานปลาได้ในทุกช่วงโอกาส และการรับประทานปลาก็ยังทำให้ร่างกายได้รับวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ไนอะซีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ไอโอดีน และเส้นใย ที่ล้วนมีประโยชน์ต่อร่างกายในหลายๆทาง ไม่ว่าจะเป็น การซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอหรือป้องกันโรคภัยร้ายแรงที่แฝงไปด้วยอันตราย
อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานปลาที่มีคุณภาพก็เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงควบคู่ไปด้วย เพราะสำหรับคนไทยแล้ว ปลาเป็นแหล่งโปรตีนราคาถูกที่สามารถซื้อหาได้ง่ายและมีราคาที่ไม่แพงมากนัก แต่การเลือกซื้อปลาที่มีสารปนเปื้อน เช่น สารปรอท เป็นต้น ก็ถือเป็นภัยร้ายอันแสนน่ากลัว ที่จะทำร้ายสมองของคุณได้เช่นกัน การรับประทานปลาที่ปนเปื้อนสารปรอทอาจมีผลทำให้ลูกน้อยที่เกิดมามีพัฒนาการทางระบบประสาทและการทำงานของสมองที่ผิดปกติไปได้ ดังนั้น หากจะเลือกซื้อปลาครั้งต่อไปก็ต้องตรวจดูให้แน่ใจเสียก่อนว่า ปลาที่คุณกำลังจะเลือกซื้อไปรับประทานนั้น จะทำให้คุณหรือลูกน้อยของคุณฉลาดขึ้นได้จริงๆ