ทุกวันที่เรารับประทานอาหารเข้าไปเพื่อประทังให้ชีวิตยังคงอยู่ เราไม่อาจจะรู้ได้เลยว่า อาหารนั้นปลอดภัยมากน้อยแค่ไหน ตราบใดที่เราไม่ได้เป็นคนปลูกหรือปรุงอาหารจานนั้นด้วยตัวของเราเอง และถึงแม้ว่าเราจะเป็นคนทำอาหารจานนั้นมาด้วยมือของตนเอง แต่ถ้าเก็บไม่ถูกที่ถูกเวลา ก็อาจจะทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรค จนเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราได้เช่นกัน ดังนั้น จึงอาจจะเห็นได้ว่า อันตรายล้วนอยู่รอบตัวของเราตลอดเวลา เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานั้นๆ ร่างกายของเราจะมีภูมิต้านทานต่อโรคมากหรือน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง
หากโชคร้าย รับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนสูงเข้าไปในช่วงเวลาที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ ก็ย่อมส่งผลให้เกิดอาการป่วยขึ้นกับร่างกายได้อย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งในอาการป่วยที่คนส่วนใหญ่มักจะเป็นกัน ก็คงหนีไม่พ้น “โรคอาหารเป็นพิษ” ที่ทำร้ายคนมานักต่อนักแล้ว

โรคอาหารเป็นพิษเป็นคำที่ใช้อธิบายถึงอาการป่วยที่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนของสิ่งสกปรก ทั้งจากสารเคมี โลหะหนัก หรือเชื้อจุลินทรีย์ โดยต้นเหตุสำคัญที่ทำให้พบอาการอาหารเป็นพิษได้บ่อยครั้ง ได้แก่ สารพิษจากแบคทีเรียที่เจริญเติบโตในอาหารก่อนการบริโภค เช่น สารพิษจาก V.parahaemolyticus, Clostridium botulinum , Staphylococcus aureus, Bacillus cereus เป็นต้น หรือสารพิษที่ผลิตขึ้นเมื่อรับประทานอาหารเข้าไปแล้ว เช่น Clostridium perfringens เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสารพิษจากการเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือ พยาธิ เช่น Escherichia coli, salmonellosis, shigellosis, viral gastroenteritis, trichinosis เป็นต้น ไม่เพียงเท่านั้น สารพิษบางอย่างก็อาจจะสามารถสร้างจากสิ่งแวดล้อมได้ด้วยเช่นกัน ได้แก่ สารพิษจากสาหร่ายบางสายพันธ์ (harmful algae species) เช่น ciguatera fish poisoning, paralytic shellfish poisoning ฯลฯ) หรือสารพิษจากปลาปักเป้า
อาหารเป็นพิษ เป็นโรคที่พบได้บ่อยโรคหนึ่งในประเทศที่กำลังพัฒนา แต่พบได้น้อยกว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว อาการเช่นนี้เกิดขึ้นได้กับคนทุกช่วงอายุ และมีโอกาสเกิดในผู้หญิงและผู้ชายเท่ากัน ทั้งนี้อาจพบในเด็กได้มากกว่าวัยอื่นๆ เพราะเป็นช่วงวัยที่ร่างกายยังอ่อนแอ และง่ายต่อการถูกทำลายด้วยเชื้อจุลินทรีย์
อาการของโรคอาหารเป็นพิษสามารถแสดงออกได้หลายรูปแบบ ทั้งอาการท้องเสียหรือมีอาการที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะอาหารและลำไส้ เช่น ปวดท้อง เป็นต้น บางครั้งอาจมีถ่ายออกมาเป็นมูกเลือด หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เป็นไข้สูง ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว และหากเกิดอาการที่รุนแรงมากๆ อาจจะเป็นอัมพาต หายใจไม่ได้ หัวใจหยุดเต้น และเสียชีวิตได้เลย ด้วยเหตุนี้อาการป่วยลักษณะดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ที่ใครเป็นก็สามารถรักษาให้หายได้ง่าย แต่จำเป็นจะต้องทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง เพื่อที่จะได้สามารถแก้ไขปัญหาไปได้แบบถูกทิศถูกทางนั่นเอง
ไม่ว่าอาหารเป็นพิษที่คุณเคยพบเจอจะเกิดจากสาเหตุใดๆก็ตาม เรามักจะพบว่า การระบาดของโรคอาหารเป็นพิษนี้ เป็นผลมาจากการรับประทานอาหารร่วมกัน และมักจะแสดงอาการอย่างรวดเร็วหลังจากรับประทานอาหารนั้นๆไปแล้ว ดังนั้นหากเราสามารถป้องกันเหตุปัจจัยที่จะทำให้เกิดอาการป่วยเช่นนี้ได้ ก็จะช่วยให้เราสามารถหลีกพ้นจากภัยทางอาหารได้ วิธีการป้องกันง่ายๆเพียงแค่ปฏิบัติตามข้อแนะนำดังต่อไปนี้

เริ่มต้นจากการเลือกซื้ออาหารกันก่อน การจะเลือกอาหารที่ปลอดภัยกับตัวเองได้นั้น ควรเลือกซื้ออาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ และไม่ใช่อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบที่ให้ความร้อนไม่สมบูรณ์ หากเป็นอาหารแบบตักขายซึ่งปรุงสุกมานานแล้ว ก็ต้องบรรจุอยู่ในภาชนะปิดสนิทที่ป้องกันการปนเปื้อนของทั้งฝุ่นผง เชื้อโรค และสัตว์พาหะ เมื่อเลือกซื้ออาหารมาแล้วก็ควรรับประทานให้หมดภายในครั้งเดียว เพราะการเก็บข้ามมื้อหรือค้างคืน จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโตเพิ่มจำนวนมากขึ้นได้ หรือถ้าจำเป็นจะต้องรับประทานอาหารที่เก็บข้ามมื้อจริงๆ ก็จะต้องนำไปอุ่นร้อนด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสมอีกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเราจะไม่ได้รับสารพิษจากเชื้อจุลินทรีย์นั่นเอง อีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือ ภาชนะและช้อนที่ใช้ตักอาหารเข้าปาก ซึ่งจะต้องมีความสะอาดเพียงพอ หากสามารถฆ่าเชื้อภาชนะเหล่านั้นได้ ก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้ได้มากขึ้นด้วย ส่วนความสะอาดของมือก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน หากคุณดูแลทุกอย่างได้ดี แต่ลืมที่จะล้างมือให้สะอาด ความพยายามทั้งหมดก็คงจบสิ้นไปอย่างแน่นอน
การป้องกันไม่ให้เกิดการปนเปื้อนที่สำคัญ อาจจะต้องเริ่มต้นจากการให้ความรู้แก่ผู้ปรุงอาหารให้ดีเสียก่อน เพราะหากผู้ปรุงสามารถรักษาสุขอนามัยได้อย่างปลอดภัยตั้งแต่ต้น ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดการปนเปื้อนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ส่วนอื่นๆที่เหลือก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้ความสำคัญ เพราะทุกๆขั้นตอนก็ล้วนมีผลต่อการเกิดโรคอาหารเป็นพิษได้ทั้งสิ้น
ต้องอย่าลืมว่าอาการอาหารเป็นพิษมีความร้ายแรงเป็นอย่างมาก บางกรณีอาจจะถึงแก่ชีวิตได้เลย ดังนั้น เมื่อพบอาการของอาหารเป็นพิษแล้ว ก็ควรรีบไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อให้แพทย์สามารถรักษาอาการป่วยได้ทัน อีกทั้งจะต้องระมัดระวังเรื่องอาหารการกินให้มากๆ เพราะเชื้อโรคแฝงกายอยู่ทุกที่รอบกายเรา หากวันใดที่เราเผลอไผลไปเจอมันเข้า จะได้สามารถหลบหลีกได้อย่างมีชั้นนเชิง และมีสุขภาพที่ดีกันถ้วนหน้าทุกคน