จากการสำรวจพฤติกรรมการบริโภคอาหารของประชากรทั่วประเทศไทยในปี พ.ศ. 2556 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ที่ทำการสำรวจ 26,520 ครัวเรือน พบประชากรที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไปทานอาหารมื้อหลักครบ 3 มื้อ ในปริมาณร้อยละ 88 ส่วนอีกร้อยละ 12 ขาดการรับประทานอาหารมื้อหลักที่ครบถ้วนทั้ง 3 มื้อ

            เรารับรู้มาโดยตลอดว่า อาหารเช้า ถือเป็นอาหารมื้อสำคัญในการเริ่มต้นวันใหม่ แต่ก็ยังมีใครหลายๆคนที่จำเป็นต้องอดอาหารมื้อนี้ เนื่องมาด้วยเหตุผลหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น เวลาที่รีบเร่ง อาหารไม่ถูกปาก หรือแม้กระทั่งความต้องการในการลดความอ้วน การมองข้ามอาหารมื้อหลักมื้อนี้ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำเลย เพราะนอกจากจะทำให้คุณขาดสารอาหารไปเลี้ยงสมองในยามเช้าแล้วยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายในด้านอื่นๆได้ด้วย

            ช่วงเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ร่างกายต้องการการพักผ่อนนอนหลับเป็นระยะเวลานาน ซึ่งแน่นอนว่าในขณะที่ร่างกายหลับนั้นไม่สามารถรับสารอาหารใดๆเข้าไปได้ ระดับน้ำตาลในเลือดภายในร่างกายจึงลดลง และเมื่อเราตื่นขึ้นในยามเช้า จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับประทานอาหารเข้าไปเพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดให้กลับมาสู่ในระดับปกติ ก่อนเริ่มต้นกิจกรรมต่างๆ 

              แต่หากเรายังไม่ยอมรับประทานอาหารเช้าเข้าไป ร่างกายจะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อให้อวัยวะต่างๆทำงานต่อไปได้ด้วยการไปดึงเอาพลังงานจากคาร์โบไฮเดรตที่สะสมไว้ในตับมาใช้ เมื่อพลังงานส่วนนี้ถูกใช้หมดไป ร่างกายก็พยายามปรับสมดุลโดยการลดกลไกการเผาผลาญพลังงานในร่างกายลง เพื่อสำรองพลังงานไว้ใช้อย่างจำเป็น ดังนั้น เมื่อมื้อใดเรารับประทานอาหารเข้าไปมาก ร่างกายก็จะไม่สามารถเผาผลาญได้ดีเท่าเก่า จึงส่งผลทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากเกินไป และพลังงานส่วนเกินนี้เองจะถูกเปลี่ยนเป็นไขมันสะสมไว้ภายใต้ชั้นผิวหนัง ส่งผลให้เป็นบ่อเกิดของ ?ความอ้วน? นั่นเอง

              อีกทั้ง บางครั้งการที่เรางดหรืออดอาหารเช้าก็อาจมีบางช่วงที่รู้สึกหิวจัด จนอดไม่ได้ที่จะหาของกินเล่นมารับประทาน และคิดเองในใจว่าอาหารที่เรากินเล็กกินน้อยอยู่นี้คงไม่ทำให้อ้วนหรอก แต่ความคิดนี้ผิดมหันต์ เพราะ อาหารประเภทขนมขบเคี้ยวหรือขนมหวานโดยมากมักประกอบไปด้วยแป้ง น้ำตาล เกลือ และไขมันอิ่มตัวเป็นจำนวนมาก ซึ่งการรับประทานทีละน้อยแต่บ่อยครั้งนี้สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของเราได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรคอ้วน โรคเบาหวาน หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือด

            แต่ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่สามารถหักห้ามใจตัวเองไม่ให้เกิดพฤติกรรมกินจุบกินจิบนี้ได้ การงดรับประทานอาหารเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณต่ำมากๆ จนอาจเกิดความเสี่ยงให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างวันได้ง่ายขึ้น หรือทำให้เกิดอาการหงุดหงิด สมองตื้อ ขาดสมาธิ อารมณ์เสียได้ง่าย และส่งผลให้การรับประทานอาหารมื้อถัดไปมากขึ้นกว่าปกติเพื่อทดแทนพลังงานที่ขาดหายไป

ภาพจาก : http://health.mthai.com/howto/health-care/3278.html

อาหารเช้าที่ดีควรประกอบด้วยสารอาหารอย่างน้อย 4ประเภท ได้แก่

• คาร์โบไฮเดรตจากข้าว แป้งหรือน้ำตาล
• โปรตีนจากเนื้อสัตว์ นมหรือไข่ 
• ไขมันจากพืชและสัตว์
• วิตามินและแร่ธาตุจากผักชนิดต่างๆ

การรับประทานอาหารเช้าไม่ควรเน้นแต่เฉพาะคาร์โบไฮเดรตเพื่อเพิ่มพลังงานเพียงอย่างเดียวเพราะสารอาหารอื่นๆก็มีคุณค่าและให้แก่ประโยชน์ต่อร่างกายเช่นกัน ทางที่ดีควรพยายามรับประทานแป้งและน้ำตาลให้น้อยที่สุด เพราะสารอาหารชนิดนี้ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายและรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสจัดหรือรสมัน เพราะในตอนเช้ากระเพาะอาหารยังทำงานได้ไม่เต็มที่และน้ำย่อยยังผลิตขึ้นมาไม่มากพอ อาหารอ่อนๆจึงน่าจะเหมาะสมกับการเริ่มในตอนเช้ามากกว่า

           เมนูอาหารยอดฮิตในยามเช้าที่อยากจะขอแนะนำ ควรจะเป็นอาหารอ่อนๆอย่าง ต้มเลือดหมู โจ๊กหมู น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ข้าวเหนียวหมูปิ้ง หรือหากอยากรับประทานแบบอเมริกันก็จะเป็นพวกขนมปังปิ้งทาแยม ไส้กรอก ไข่ดาว ตามแต่จะสะดวก ซึ่งอาหารในแต่ละเมนูควรจะสลับสับเปลี่ยนกันไปในทุกวันเพื่อจะทำให้ได้สารอาหารจากแหล่งอาหารที่ครบถ้วนและหลากหลาย

           อาหารในแต่ละแหล่งก็ล้วนมีประโยชน์ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น การรับประทานน้ำเต้าหู้ก็จะทำให้ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ในถั่วเหลืองที่มีผลต่อการยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งได้ ส่วนต้มเลือดหมูก็ประกอบไปด้วยผักหลายชนิดที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินที่เหมาะสมต่อร่างกาย ในขณะที่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ก็จะทำให้ร่างกายได้รับกลูเต้นและไฟเบอร์จากข้าวเหนียว และโปรตีนที่มีประโยชน์จากหมูปิ้ง แต่ก็ควรระวังและเลือกรับประทานเฉพาะหมูปิ้งที่ติดมันน้อยๆและไม่ไหม้เกรียมจนเกินไป เพราะสิ่งนี้อาจเพิ่มอัตราเสี่ยงของการเกิดสารก่อมะเร็งในร่างกายได้

ภาพจาก : http://www.saltlakecityrestaurants.org/best.breakfast.spots.in.salt.lake.city.htm

           นอกจากนี้ ก็ควรควบคุมในด้านของไขมันมันที่อาจแฝงมาในรูปของหมูติดมัน กระเทียมเจียว หรือน้ำมันทอดด้วย รวมไปถึงเครื่องปรุงรสก็ไม่ควรปรุงให้มีรสจัดมากจนเกินไป เพราะจะเป็นทำร้ายกระเพาะอาหารทำให้เกิดอาการแสบท้องได้

           การรับประทานอาหารเช้าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนที่ต้องการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง แต่อย่างไรก็ตาม หากขาดความรู้และเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ก็อาจจะส่งผลเสียต่อคุณได้เช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะมีส่วนช่วยในการเพิ่มตัวเลือกที่ดีในการเลือกรับประทานอาหารเช้าได้มากขึ้นกว่าเดิมนะคะ