ปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกกำลังกายอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงมากขึ้น ทั้งๆที่รู้ดีอยู่แก่ใจ แต่ก็ยากเหลือเกินที่คนเราจะสามารถออกกำลังกายจนติดเป็นนิสัยได้ ทั้งนี้ก็เพราะชีวิตของเราสามารถพบเจออะไรที่สนุกได้มากกว่าการออกกำลังกาย ทำให้คนส่วนใหญ่เบนเข็มไปสนใจกิจกรรมอื่นๆแทน และเมื่อไม่ได้ทำบ่อยเข้า ก็เริ่มกลายเป็นความไม่สนใจและความขี้เกียจในที่สุด
อย่างไรก็ตาม หลายคนก็ยังพยายามที่จะออกกำลังกายให้ได้มากที่สุด เช่น ซื้อลู่วิ่งอัตโนมัติมาไว้ที่บ้าน เผื่อวันไหนที่เกิดรู้สึกฟิตๆขึ้นมา จะได้วิ่งไปด้วย ดูทีวีไปด้วยได้แบบไม่ต้องเสียเวลาออกไปรถติดข้างนอก แต่ว่าการออกกำลังเช่นนี้จะได้ผลดีเหมือนการไปวิ่งในสวนหรือวิ่งข้างนอกหรือไม่ มีข้อดีหรือข้อเสียอย่างไร ตามมาดูกันได้เลย
แน่นอนว่าการวิ่งบนลู่วิ่งสายพานกับการวิ่งบนทางราบข้างนอกย่อมให้ผลที่แตกต่างกันอย่างแน่นอน แม้ว่าคุณจะวิ่งในระยะทางที่เท่ากันหรือใช้ความเร็วในการวิ่งที่เท่ากันก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะพื้นผิวที่เท้าคุณสัมผัสลงไปนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตัวสายพานจะมีการเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา ทำให้เป็นตัวช่วยในการผ่อนแรงการวิ่งของเราไปด้วยในตัว ในขณะที่การวิ่งบนทางราบ ขาของเราจะต้องออกแรงผลักพื้นเพื่อดันตัวเราให้พุ่งไปข้างหน้า ทำให้การวิ่งบนลู่วิ่งเกิดความรู้สึกที่เหนื่อยน้อยกว่าการวิ่งบนทางราบจริงๆ นอกจากนี้ การวิ่งบนทางราบข้างนอกยังมีเหตุผลของแรงต้านลมหรือแรงต้านอากาศ ที่จะคอยฉุดรั้งคุณไม่ให้วิ่งแบบสบายๆ ทำให้การวิ่งออกกำลังกายในสภาวะแวดล้อมภายนอกรู้สึกเหนื่อยมากกว่าการวิ่งชิวๆในห้องแอร์นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Journal of Sports Science ได้เสนอว่า เราสามารถปรับวิธีการวิ่งเพื่อให้การวิ่งบนลู่สายพานได้ผลใกล้เคียงกันกับการวิ่งบนทางราบได้ โดยจะต้องใช้กำลังในการออกแรงวิ่งที่มากขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพื่อชดเชยการเกิดแรงต้านการวิ่งในสภาวะจริง โดยการปรับความชันของเครื่องวิ่งอัตโนมัติให้ลาดเอียงมากขึ้นกว่าเดิมอยู่ที่ประมาณ 1% ซึ่งจะทำให้เราจำเป็นต้องออกแรงวิ่งให้มากขึ้นเพื่อต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งก็ย่อมเป็นผลทำให้เราได้ออกแรงในการวิ่งเทียบเท่ากับการวิ่งหรือเดินบนทางราบปกติได้แล้ว
โดยวิธีสังเกตว่า การวิ่งบนทางชันนั้นทำให้เหนื่อยมากขึ้นจริงหรือไม่ ความรู้สึกของคุณเองน่าจะบอกได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าใครดูไม่ออก ก็ให้อาศัยการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่เปลี่ยนแปลงไป การวิ่งในทางลาดย่อมแสดงผลให้เห็นว่าอัตราการเต้นของหัวใจคุณเต้นอย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าทางราบปกติอย่างแน่นอน

อีกหนึ่งเหตุผลสำคัญที่ลู่วิ่งสายพานไม่สามารถทำได้ ก็คือ การจำลองสภาพให้เหมือนการวิ่งลงทางลาด หรือการหักเลี้ยวตามเส้นทางต่างๆ ซึ่งการวิ่งในลักษณะนี้จะเกิดแรงที่กระทำต่อข้อต่อ และกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันออกไปจากการวิ่งบนทางตรงๆ แต่การวิ่งบนลู่วิ่งก็สามารถยืนยันได้ว่าคุณจะปลอดภัยจากการวิ่งมากกว่าการวิ่งข้างนอก เพราะคุณสามารถปรับเร่ง ผ่อนแรง หรือหยุดได้ทุกเวลาที่คุณต้องการ ฝนจะตกรถจะติดน้ำจะท่วม คุณก็ยังสามารถวิ่งได้ มากไปกว่านั้น คุณยังสามารถดูทีวี ฟังเพลง เล่นเกม แชทไลน์ อ่านหนังสือ ไปพร้อมๆกับการวิ่งได้อีกด้วย ซึ่งนี่ก็ถือเป็นข้อดีที่ได้แถมมาจากจากจ่ายเงินราคาแพงนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีโอกาสได้ออกไปวิ่งข้างนอกบ้าง ก็คงเป็นการดีไม่ใช่น้อย เพราะการวิ่งแบบนี้จะทำให้คุณรู้สึกสดชื่นได้มากขึ้น มีโอกาสได้ชมนก ชมไม้ ชมธรรมชาติ และได้สูดอากาศที่สดชื่นมากกว่าการวิ่งอยู่ในห้องแคบๆที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวนความสะดวก นอกจากนี้ การวิ่งไปด้วยชมธรรมชาติไปด้วยจะเป็นการบังคับให้คุณวิ่งได้อย่างยาวนานมากขึ้น เพราะบางทีคุณจำเป็นต้องวิ่งให้ครบรอบแบบหยุดไม่ได้จนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทาง ซึ่งถึงแม้ว่าคุณจะวิ่งช้าลงด้วยความเหนื่อย แต่อย่างน้อยก็ยังได้ขยับร่างกาย ไม่เหมือนกับการวิ่งบนลู่วิ่งที่คิดจะหยุดเมื่อไร ก็แค่ปิดเครื่อง ดึงปลั๊กออก ความสะดวกสบายมันต่างกันจริงๆ
แม้ว่าการวิ่งทั้งสองวิธีจะให้ประสิทธิผลที่ไม่เท่ากัน แต่อย่างน้อยแค่คุณคิดที่จะออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ดีทั้งหมดแล้วละค่ะ เพียงแค่ว่าคุณควรที่จะต้องศึกษาวิธีที่เหมาะสมกับคุณให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง ทั้งนี้ ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณสามารถออกกำลังกายได้บ่อยมากขึ้น สะดวกมากขึ้น และเห็นผลลัพธ์ที่สวยงามได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นอย่ามัวแต่รีรอเลยค่ะ เลือกสักวิธีที่คุณคิดว่าสะดวกมากที่สุด และเริ่มออกวิ่งตั้งแต่ก้าวแรก เพราะถ้าคุณไม่เริ่มต้นก้าวแรกสักที ก้าวต่อไปก็คงเกิดได้ยากอย่างแน่นอน
สุดท้ายแล้ว การวิ่งไม่ใช่การออกกำลังอย่างเดียวที่คุณสามารถทำได้ เพียงแต่เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดหากคุณคิดจะรักษาสุขภาพ เริ่มวิ่งวันนี้เพื่อสุขภาพที่ดีในวันข้างหน้านะคะ