ปัญหาผิวหน้าเป็นสิ่งที่แต่ละคนพบเจอในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน บางคนก็มีปัญหาผิวแห้ง บางคนก็มีปัญหาผิวมัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นปัญหาไหนๆใครๆก็ต่างเอือมระอากันทั้งนั้น และปัญหาเหล่านี้ก็สร้างความรำคาญใจให้แก่คุณอยู่เสมอมา เพราะไม่เพียงแต่จะทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส เป็นสิว หรือขาดความสวยแล้ว การจะแต่งหน้าเพื่อปกปิดปัญหาก็ยังทำได้ยากอีก โดยเฉพาะปัญหาหน้ามันที่มีผลทำให้เครื่องสำอางไม่ติดแน่นทนนานอยู่บนใบหน้า หรือมีปัญหารูขุมขนกว้างจนทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน

    อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าปัญหาผิวหน้าจะเป็นสิ่งที่แก้ไขไม่ได้ วันนี้เราจึงจะมาขอแนะนำวิธีการดูแลผิวหน้าในแบบฉบับของสาวหน้ามันกัน ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างจึงจะสามารถกำจัดความมันบนใบหน้าไปได้อย่างถาวร และไม่ให้ปัญหานี้รบกวนใจคุณอีกต่อไป

    ก่อนอื่นมาดูที่ต้นเหตุของอาการ “หน้ามัน” กันก่อนดีกว่า…ใบหน้าที่มันเกิดมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังทำงานมากจนเกินไป ทำให้ไขมันใต้ผิวหนังถูกขับออกมาสู่ภายนอก และเกิดเป็นปัญหาไขมันอุดตันหรือสิวอุดตันในที่สุด ซึ่งเมื่อเกิดอาการสิวอักเสบแล้ว คนส่วนใหญ่ก็มักจะเกิดเป็นปัญหาสิวหลุม เกิดแผลเป็นบนใบหน้า รอยแดง หรือรอยดำตามมาได้ ซึ่งปัญหาทั้งหมดนี้ล้วนแต่นำพาความไม่เรียบเนียนมาสู่ใบหน้าของคุณได้ทั้งนั้น

    หากไม่ต้องการมีผิวหน้าที่เป็นมันเยิ้ม ควรจะต้องปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้ ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณมีใบหน้าที่สดใสและไร้ความมันขึ้นมาได้

    1. เริ่มต้นที่การล้างหน้า

    การล้างหน้าเป็นกิจวัตรที่เราต้องทำทุกวัน และเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อความมันบนใบหน้าเป็นอย่างมาก หากเราเลือกวิธีการล้างหน้าที่ไม่ถูกต้อง โอกาสที่จะเพิ่มความมันให้มากขึ้นก็เป็นไปได้สูง วิธีการที่ถูกต้องหากคุณต้องการจะควบคุมความมัน ก็คือ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าประเภทที่ไม่มีฟอง เพราะผลิตภัณฑ์ประเภทนี้จะช่วยลดปัญหาการระคายเคืองผิวได้ดีมากกว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีฟองปริมาณมาก แม้ว่าการล้างหน้าแบบไร้ฟองจะทำให้เรารู้สึกเหมือนว่าล้างหน้าได้ไม่สะอาด แต่ในความเป็นจริงแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก็มีความสามารถในการทำความสะอาดได้ดีไม่แพ้กันเลย

    นอกจากการเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแล้ว ขั้นตอนการล้างหน้าก็มีผลต่อการควบคุมความมันได้เช่นกัน หากคุณไม่อยากมีหน้ามันๆให้เริ่มต้นจากการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นเล็กน้อย เพื่อให้ความร้อนช่วยเปิดรูขุมขนให้กว้างขึ้น คุณจะได้สามารถขจัดเอาคราบสกปรกที่ติดอยู่บนใบหน้าได้อย่างหมดจด จากนั้นเมื่อล้างหน้าเสร็จเรียบร้อย จึงค่อยใช้น้ำเย็นจัดล้างหน้าซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง ความเย็นจะช่วยปิดรูขุมขนให้กระชับและควบคุมความมันได้เป็นอย่างดี

    2. การใช้ครีมบำรุงผิวที่เหมาะสม

    หากคุณไม่อยากมีผิวหน้าที่มันเยิ้มก็ไม่ควรลงครีมบำรุงผิวหลายชั้นมากเกินไป เพราะแม้ว่าครีมบำรุงผิวแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติในการดูแลผิวที่แตกต่างกันออกไป แต่การที่คุณทาครีมซ้ำแล้วซ้ำอีกลงไปบนผิวหน้า อาจเป็นการปล่อยน้ำมันจากครีมเหล่านั้นให้มากองเอาไว้บนผิวหน้าของคุณได้ และนั่นก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาหน้ามันมากขึ้นไปกว่าเดิมได้นั่นเอง ทางที่ดีที่สุดจึงควรทาน้อยๆ แต่คัดเอาเฉพาะตัวที่มีคุณสมบัติครบถ้วนมาแทน และที่สำคัญคือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-free) หรือเลือกแบบที่มีตัวช่วยในการควบคุมความมันได้ดี แค่นี้ก็เอาอยู่แล้ว

    3. แต่งหน้าอย่างไรให้ไร้หน้ามัน

    การแต่งหน้าที่ถูกวิธีก็มีส่วนช่วยให้หน้าไม่มันได้เช่นกัน โดยมีหลายวิธีที่จะช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้เป็นอย่างดี เช่น การเลือกใช้ไพรม์เมอร์เนื้อแมตต์หรือเนื้อด้านก่อนลงรองพื้น
การเลือกใช้บลัชออนเนื้อด้านเพื่อปกปิดให้หน้าไม่ให้ดูมันเยิ้ม การเลือกใช้แป้งที่มีแร่ธาตุผสม หรือการใช้รองพื้นที่มีส่วนผสมเป็นน้ำ (Water Based) เพื่อควบคุมความมันและไม่ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้แป้งผสมรองพื้นหรือแป้งเนื้อหนาๆเพราะอาจทำให้ใบหน้าของคุณดูเยิ้มมากขึ้นได้

    3 ส่วนที่กล่าวมานี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการเตรียมหน้าให้พร้อมต่อการเอาชนะความมัน แต่ก็เป็นเพียงแค่วิธีเริ่มต้นในการปกปิดความมันบนใบหน้าเท่านั้น เพราะหากคุณเป็นคนที่มีปัญหาความมันที่มากจนผิดปกติ วิธีเหล่านี้อาจจะควบคุมความมันได้ไม่อยู่หมัด ซึ่งคุณจำเป็นต้องเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงได้รับยาบางชนิดที่จะเข้าไปควบคุมการทำงานของต่อมไขมันใต่ผิวหนังได้โดยตรง และทำให้คุณสามารถควบคุมความมันหรือปัญหาสิวได้ดีในที่สุดนั่นเอง

    หากอยากมีใบหน้าที่สวยใสไปนานๆ ก็ต้องอย่าลืมดูแลตัวเองให้ดี ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวหน้าของตัวเอง รับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ และเข้าปรึกษาแพทย์แทนการซื้อยามารักษาหรือทานเอง เพียงเท่านี้ปัญหาหน้ามันหรือปัญหาสิวที่คุณกำลังเป็นกังวลอยู่ก็สามารถหายได้อย่างสนิท และไม่กลับมารบกวนจิตใจของคุณได้อีกต่อไปแล้วละค่ะ