อย่าคิดว่าการดูแลผิวหน้าต้องทำในช่วงเวลาที่หนังเหี่ยว หรือผิวหย่อนยานไปแล้ว เพราะในความเป็นจริงแล้วคุณจำเป็นต้องดูแลตัวเองก่อนหน้านั้นตั้งแต่ที่ผิวยังตึงอยู่ เพื่อสตาร์ฟใบหน้าให้ดูอ่อนเยาว์ตลอดไป ใครๆก็ยากที่จะเดาอายุของคุณได้ถูก
ทั้งนี้แต่ละช่วงวัยก็มีความแตกต่างในการดูแลผิวหน้าที่แตกต่างกันออกไป วิธีดูแลตัวเองแบบครบถ้วนและเหมาะสมกับช่วงวัยจะเป็นอย่างไร ตามมาดูกันเลย

อายุ 15-20 ปี
อย่าคิดว่ายังเป็นเด็กอยู่ ยังไม่ต้องดูแลตัวเองหรอก เพราะจริง ๆ แล้ววัยนี้ก็ต้องดูแลตัวเองเพื่อให้พร้อมต่อการโตเป็นสาวเต็มตัว สิ่งที่ต้องทำ เช่น
- ออกกำลังกาย เพิ่มความสูง
- หยุดพฤติกรรมทำร้ายผิว ไม่บีบสิว ไม่แคะแกะเกาสิว
- รักษาความสะอาดของสิ่งที่อยู่รอบตัว เช่น เปลี่ยนเครื่องนอนสม่ำเสมอ ซักเสื้อผ้าให้สะอาด
- ฝึกเดินให้สวย อย่าเดินห่อตัวหลังค่อม
พฤติกรรมเหล่านี้ควรเริ่มมาตั้งแต่วัยเด็กทั้งนั้น เพื่อให้เติมโตเป็นผู้หญิงที่สวยและดูดีมากที่สุด
อายุ 21-25 ปี
ช่วงวัยที่เป็นช่วงวัยของการเป็นสาวเต็มตัว ดังนั้น จึงต้องดูแลตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม เช่น
- เน้นการรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ทาครีมกันแดด และสกินแคร์บำรุงผิว เช้า-เย็น
- ไม่ทำพฤติกรรมทำลายผิว เช่น การเช็ดทำความสะอาดหน้าแรง ๆ เป็นต้น
- ดูแลสุขภาพฟันและพบทันตแพทย์เป็นประจำ
ช่วงวัยนี้เป็นวัยที่คุณเป็นสาวเต็มตัว หากมีการดูแลตัวเองดีตั้งแต่ยังเป็นสาวๆ อนาคตก็แทบจะไม่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมใดๆเลย เพราะทั้งหมดที่คุณทำอยู่ดีอยู่แล้ว
อายุ 26-30 ปี
ช่วงอายุปลายเลข 2 ไม่แตกต่างจากช่วง 20 ต้นๆสักเท่าไร เพียงแต่ช่วงนี้คุณอาจจะมีความเครียดมากขึ้น มีเวลาดูแลตัวเองน้อยลง เนื่องจากเป็นวัยทำงานที่เริ่มมีความรับผิดชอบสูงขึ้น แต่ถ้าได้ดูแลตัวเองมาโดยตลอด คุณก็แค่ทำเหมือนกับที่เคยทำมาเท่านั้นเอง
นอกจากนี้ ควรเพิ่มเรื่องอาหารต่อต้านอนุมูลอิสระให้มากขึ้นด้วย ทานผลไม้มากๆ ออกกำลังกายให้เป็นนิสัย เพราะอีกไม่กี่ปีร่างกายของคุณก็จะเริ่มเผาผลาญยากมากขึ้นแล้ว ปิดท้ายด้วยการเพิ่มเติมเรื่องการดูแลเส้นผมก่อนที่จะมีผมสีขาวมาก่อนวัยอันควร ดูแลผมง่ายๆด้วยการหมักผมด้วยน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอก เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว
อายุ 30-35 ปี
เมื่อคุณเข้าเลขสามให้เข้าใจเลยว่าคุณไม่ใช่เด็กๆแล้ว คุณเป็นผู้ใหญ่ที่จำเป็นต้องดูแลตัวเองให้ดีมากขึ้น เช่น
- เพิ่มการออกกำลังให้มากขึ้นแต่เป็นการออกกำลังกายแบบไม่หักโหม
- เปลี่ยนการรับประทานอาหารจากเดิมที่เคยเป็นมา รับประทานมื้่อเย็นให้เร็วหน่อย ไม่จัดบุฟเฟ่ต์บ่อยมากนัก โดยอาหารประเภทไฟเบอร์และโปรตีนมากกว่าแป้งหรือไขมัน
- ส่วนการเลือกสกินแคร์ต้องเลือกใช้แบบที่บำรุงเข้มข้นและลึกล้ำมากขึ้น เน้นพวกลดริ้วรอยหรือป้องกันการเกิดริ้วรอย และเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าอย่างระมัดระวัง วัยนี้อาจเกิดสิวอักเสบได้ง่ายในบางคน เพราะฮอร์โมนเริ่มแปรปรวนอีกครั้ง
อายุ 35-40 ปี
ช่วงวัยนี้คุณเข้าสู่การเป็นวัยกลางคนแล้ว ผ่านชีวิตมาครึ่งหนึ่งแล้วนะ สิ่งที่ควรต้องดูแลเพิ่มมากขึ้น คือ
- เลือกใช้สกินแคร์ประเภท Anti-Aging ที่ช่วยป้องกันริ้วรอยได้ดีมากขึ้น
- การออกกำลังยังสำคัญไม่ต่างจากเดิม แม้ว่าจะมีงานรัดตัวแค่ไหนอย่าลืมแบ่งเวลาให้กับเรื่องนี้ด้วย
- ระบบการเผาผลาญของคุณลดลงแน่ๆ คุณจึงควรกระตุ้นการเผาผลาญด้วยการแบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็ก ๆ และทานวันละประมาณ 5 มื้อ จะช่วยคุณได้
อายุ 40-50 ปี
เข้าสู่หลักสี่แบบเต็มตัวแล้ว เรียกว่าเป็นสาวใหญ่เลยก็ว่าได้ วัยนี้คุณต้องระมัดระวังตัวเรื่องต่างๆนี้เป็นพิเศษ ได้แก่
- ดูแลผิวให้หนักขึ้น และล้ำลึกในทุกขั้นตอน เน้นคุณสมบัติลดและป้องกันการเกิดริ้วรอย หากเป็นไปได้ควรพักการแต่งหน้าบ้าง และอย่าลืมมาส์กหน้าบำรุงผิวด้วยสัปดาห์ละ 5
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ลดเนื้อสัตว์ติดมันและลดแป้งในมื้อเย็น ถ้าเป็นไปได้งดมื้อเย็นไปเลยยิ่งดี
- ออกกำลังกายเบาๆ แต่สม่ำเสมอ บริหารกล้ามเนื้อใบหน้าทุกวัน
อายุ 50-60 ปี
วัยใกล้เกษียณก็ยังปล่อยตัวเองไม่ได้นะ วัยนี้คุณยังต้องดูแลตัวเองให้สวยอยู่ สิ่งที่ต้องระวังคือ
- ระวังเรื่องอาหารประเภทแป้ง ไขมัน และของหวานให้มาก อาหารยังควรเป็นผัก-ผลไม้ และโปรตีน
- อย่าเครียดกับงานมากนัก ผ่อนคลายกับเพื่อนฝูงหรืองานอดิเรกบ้าง พักผ่อนให้เพียงพอ
อายุ 60+
เรียกว่าเป็นวัยสูงอายุที่ถึงเวลาพักผ่อนได้แล้ว คุณจะมีเวลาว่างมากขึ้น อย่าเอาไปใช้เปล่าประโยชน์ แต่ให้เอามาใช้ในการดูแลตัวเองให้มากขึ้น เช่น
- ออกกำลังกายเบา ๆ อย่างการเดินเหวี่ยงแขน ว่ายน้ำ
- เน้นอาหารประเภทผัก ผลไม้ และโปรตีน เลือกรับประทานข้าวไม่ขัดสีเท่านั้น
- อย่าขาดสกินแคร์ที่ดูแลทั้งผิวหน้าและผิวกายด้วย
ไม่ว่าจะวัยไหน ก็ต่างมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลตัวเองทั้งนั้น ถ้าทำตามนี้คุณจะได้ดูสาวไปอีกนานเท่านาน หรือดูเด็กไปได้อีกหลายปีเลยละ