เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินชื่อโรคไทรอยด์ แต่คงไม่คิดว่ามันจะมีความรุนแรงเท่ากับโรคเบาหวาน ไขมัน หรือ โรงมะเร็ง หากคุณยังไม่ได้ประสบพบกับตัวเอง
ไทรอยด์อาจจะไม่ได้ฆ่าให้คุณตายในทันที แต่จะค่อยๆทรมานคุณไปเรื่อยๆ ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างมากในการพยายามรักษาตัวเองให้หายสนิท ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณได้รู้จักกับโรคนี้ พร้อมทั้งวิธีในการแก้ไขให้หายสนิท
แยกให้ออกว่าความผิดปกติของ “ไทรอยด์” มีอะไรบ้าง?
ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
โดยมากแล้ว…ผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 30 ถึง 50 ปี จะพบปัญหาโรคไทรอยด์ โดยต่อมไทรอยด์จะทำงานน้อยกว่าปกติ หรือที่เรียกว่า hypothyroidism ซึ่งอาการที่แสดงคือ รู้สึกหนาว, ผมร่วง, ท้องผูก, อ่อนเพลีย แต่มีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เหนื่อยง่ายในตอนเช้า ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสัญญาณสำคัญที่บ่งบอกว่าการทำงานของต่อมไทรอยด์อ่อนแอลง
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งความผิดปกติของระบบไทรอยด์ที่เรียกว่า
“ไทรอยด์เป็นพิษ” หรือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือดสูงกว่าปกติ หรือที่เรียกว่า
hyperthyroidism เนื่องจากต่อมไทรอยด์ทำงานมากขึ้น และเนื่องจากฮอร์โมนไทรอยด์ทำหน้าที่เป็นฮอร์โมนสำคัญที่ช่วยควบคุมกระบวนการเผาผลาญ รวมไปถึงการใช้พลังงานต่างๆ ภายในร่างกาย หากผู้ป่วยท่านใดที่มีอาการไทรอยด์เป็นพิษ ก็จะมีระดับของฮอร์โมนไทรอยด์สูงขึ้น และเป็นผลให้ร่างกายเกิดการเผาผลาญที่มากขึ้นกว่าปกติ ผู้ป่วยเหล่านี้จะมีร่างกายที่ต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา หากวัดสัญญาณชีพจพบว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ เต้นเร็วขึ้น ซึ่งหากปล่อยไว้นานๆ อาจนำไปสู่การเป็นอัมพฤกษ์หรือภาวะหัวใจล้มเหลวได้
![[ไทรอยด์เป็นพิษ] แก้ได้ไม่ยาก](https://xn--22c0cohr1b8cc2cr6npa.com/wp-content/uploads/2016/11/110816_1243_1-1.jpg)
เมื่อป่วยเป็นโรคไทรอยด์แล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องทราบว่าคุณนั้นป่วยเป็นชนิดใด เพื่อจะได้หาทางแก้ไขให้ถูกทิศถูกทาง ซึ่งในวันนี้จะขอหยิบยกอาการของ “ไทรอยด์เป็นพิษ“ มาให้ทราบกัน ว่าหากคุณเป็นแล้วจะต้องหาทางแก้ไขอย่างไร หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องทุกข์ทรมานกับอาการนี้อยู่รีบมาหาคำตอบกันเลยดีกว่าค่ะ
ทั้งการแพทย์แผนโบราณทั้งตำราจีนและตำราไทย ต่างกล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า ไทรอยด์เป็นพิษ มีสาเหตุมาจากการที่เราเลือกรับประทานอาหารที่ไม่สมดุล ส่วนใหญ่มักกินอาหารที่มีฤทธิ์ร้อนมากกว่าฤทธิ์เย็น ซึ่งมีผลให้หยินหยางภายในร่างกายไม่สมดุล เมื่อเกิดความร้อนสะสมในร่างกายมากเกินไป ก็จะเป็นผลทำให้การทำงานของต่อมไทรอยด์ผิดปรกติไปได้นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้ การจะพยายามแก้ไขอาการไทรอยด์เป็นพิษ จึงต้องพยายามหาทางปรับสมดุลร่างกายเสียใหม่ ซึ่งแม้ว่าอาการไทรอยด์เป็นพิษจะสามารถรักษาได้ด้วยการทานยาของแพทย์ แต่ก็ยังมีวิธีทางธรรมชาติที่ปลอดภัยมากกว่าการทานยา อย่างน้อยก็ไม่ต้องทำให้ตับทำงานหนักมากเกินไป ลองมาดูอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยรักษาอาการ ‘ไทรอยด์เป็นพิษ’ กันเลยดีกว่าค่ะ
วิธีการรักษาด้วยธรรมชาติที่เราจะบอกคุณใช้สมุนไพรที่หลายคนค่อนข้างคุ้นหูกันดี ที่เรียกว่า “ใบย่านาง” ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
![[ไทรอยด์เป็นพิษ] แก้ได้ไม่ยาก](https://xn--22c0cohr1b8cc2cr6npa.com/wp-content/uploads/2016/11/110816_1243_2-1.jpg)
วิธีทำบำบัดไทรอยด์ด้วยใบย่านาง
1. ล้างใบย่านางให้สะอาด
2. คั้นเอาแต่น้ำจากใบย่านาง
3. นำน้ำใบย่านางมาต้มให้เดือด
4. ดื่มน้ำที่คั้นได้จากใบย่านางแทนน้ำเปล่า
การดื่มน้ำที่คั้นได้จากใบย่านางแทนน้ำเปล่าจะช่วยให้อาการที่คุณเป็นอยู่ทุเลาลงได้ดีมากๆอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ผู้ป่วยที่เคยเป็นโรคไทรอยด์ ต่างเล่าประสบการณ์ส่วนตัวของตัวเองว่า
“การดื่มน้ำใบย่านางช่วยให้ค่าไทรอยด์ลดลงได้ถึง 50% ภายในเวลาสั้นๆเพียง 2 สัปดาห์ และสามารถหายเป็นปรกติได้ภายใน 3-4 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พวกเขายังคงต้องดื่มน้ำย่านางไปตลอด เพื่อให้สมุนไพรตัวนี้ช่วยรักษาสมดุลในร่างกายให้เป็นปกติตลอดเวลา”
หรือถ้าอยากเอาสะดวก จะไปซื้อหัวเชื้อน้ำใบย่านางมาผสมน้ำดื่มเลยก็ได้เลย ก็จะช่วยประหยัดเวลาในการต้ม การเตรียม แต่ยังได้กลิ่นหอม รสชาติ และประโยชน์ที่ดีไม่ต่างกัน
แต่เพียงแค่การดื่มน้ำใบย่านางอย่างเดียวอาจยังไม่เพียงพอ เพราะหากต้องการหายขาดแบบสนิท คุณต้องพยายามให้ความร่วมมือด้วยการเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเองด้วย โดยเฉพาะการปรับนิสัยการทานอาหาร ซึ่งควรหันมาทานอาหารที่มีฤทธิ์เย็นแทน
ตัวอย่างอาหารที่เหมาะสมแก่การรับประทาน ได้แก่
1. งดหรือลดเนื้อสัตว์ หากต้องการทานให้เน้นการรับประทาน ‘เนื้อปลา’ โดยเฉพาะปลาทะเล
2. ทานผักผลไม้ฤทธิ์เย็น ได้แก่ แตงโม สัปปะรด แอปเปิล
3. งดการรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ไส้กรอก ฮอทด็อกเพราะในอาหารประเภทนี้จะมีสารไนเตรทค่อนข้างสูง
4. งดการรับประทานผักบางชนิด ได้แก่ ผักปวยเล้ง เนื่องจากเป็นผักที่มีไนเตรตสูงเช่นกัน
หมายเหตุ : สารไนเตรทในอาหารจะไปกระตุ้นฮอร์โมนที่คาดว่าจะทำให้เกิดเนื้องอกในร่างกายขึ้น
สุดท้าย อย่าลืมทำจิตใจให้สบาย ไม่เคร่งเครียด ไม่คิดมากจนเกินไป เพราะความเครียดเป็นตัวการสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะบีบหรือเร่งให้ต่อมไทรอยด์ทำงานหนักมากขึ้น
จะเห็นได้ว่ามีปัจจัยมากมายเหลือเกินที่จะทำให้ระบบไทรอยด์เสื่อมลง ดังนั้น การดูแลร่างกายโดยเฉพาะต่อมไทรอยด์ให้ทำงานอย่างปกติจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็คงไม่ยากจนเกินไปที่จะทำ…เริ่มต้นดูแลตัวเองให้ดีอีกครั้ง เพื่อสุขภาพที่ดีในระยะยาวกันเถอะค่ะ