คนไทยค่อนข้างติดหวาน ก๋วยเตี๋ยวก็ใส่น้ำตาล กับข้าวก็ใส่น้ำตาล เครื่องดื่มก็เต็มไปด้วยน้ำตาล เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ผลิตน้ำตาลได้มากอันดับต้นๆของโลก การบริโภคน้ำตาลจึงกลายเป็นเรื่องธรรมดาประจำวันที่คนไทยไม่ค่อยจะตระหนักหรือระวังกันสักเท่าไหร่
โดยสาเหตุการติดหวานที่ว่านี้ คนไทยในสมัยนี้จึงป่วยเป็นโรคเบาหวานกันมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมการกินที่ดุเดือดและไม่ค่อยเลือกอาหาร บางคนแทบทานอาหารไม่ได้เลยถ้าอาหารจานนั้นไม่ได้ถูกปรุงแต่งด้วยน้ำตาลหรือเครื่องปรุงรสอื่นๆเสียก่อน และการปรุงแต่ละครั้งก็ช่างหนักหน่วงเสียเหลือเกิน การกินแบบนี้เป็นประจำ ทำให้คนไทยลืมว่าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องผิดปกติ และคงอดห่วงอวัยวะภายในไม่ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้คนไทยเป็นเบาหวานมากขึ้นเรื่อยๆ ความสัมพันธ์นี้ไม่เคยหนีห่างไปจากกันได้เลย และโรคเบาหวานก็เป็นโรคที่ทำให้เกิดความสูญเสียตามมามากมาย โดยเฉพาะอวัยวะบางส่วนที่อาจจะต้องถูกตัดออกไป เพราะเบาหวานเข้าไปทำลายมัน

ด้วยเหตุนี้ คนที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานจึงต้องมีการควบคุมการรับประทานอาหารให้เหมาะสม เพื่อพยายามปรับร่างกายให้ไม่เกินค่ามาตรฐาน และควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินเกณฑ์ โดยอาจใช้วิธีการทานยา การลดอาหาร ลดน้ำตาล ออกกำลังกาย ร่วมกัน
แต่สำหรับคนที่ไม่สามารถทำได้ และปล่อยให้ระดับน้ำตาลพุ่งสูงตลอดเวลา เบาหวานก็จะเข้าไปทำลายอวัยวะสำคัญ อย่างเช่น ดวงตาหรือเท้า ซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่คนเป็นเบาหวานไม่ต้องการให้เกิดขึ้นทั้งนั้น
ในที่นี้จะขอเล่าถึงอันตรายของ “การตัดเท้าหรือตัดขา” ในผู้ป่วยโรคเบาหวาน จะอันตรายมากแค่ไหน มาลองอ่านบทความต่อไปนี้กันเลยค่ะ
ทำไมผู้ป่วยโรคเบาหวาน จึงเสี่ยงโดนตัดเท้า/ตัดขา?
โรคเบาหวาน เป็นโรคเงียบที่ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาอีกหลายโรค โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญ ก็คือ โรคเบาหวานจะทำให้ภาวะหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายตีบตัน โดยเฉพาะส่วนเท้าที่ค่อนข้างไกลจากศูนย์กลาง
เมื่อเท้าตีบหรือเลือดไปเลี้ยงเท้าไม่ดีเพียงพอ ก็จะเกิดอาการปลายประสาทอักเสบ เกิดแผลกดทับ และสุดท้ายอาจเกิดการติดเชื้อที่แผลได้ ทั้งหมดนี้อาจทำให้ผู้ป่วยเบาหวานเป็นโรคแทกซ้อนทางผิวหนังได้อีกหลายโรค เช่น ผิวแห้ง เชื้อรา อักเสบเป็นหนอง เป็นแผลไม่หายจนเซลล์เนื้อตาย และในที่สุดก็ต้องตัดส่วนที่เป็นแผล และรอบๆ บริเวณแผลทิ้งไป ทั้งหมดนี้ก็เพื่อรักษาเซลล์ดีๆ ให้ยังสามารถอยู่ได้ และไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิมจนต้องเสียอวัยวะไปทั้งร่างกาย หรือต้องเสียชีวิตในที่สุด
วิธีการสังเกตอาการผิดปกติเกี่ยวกับ “เท้า” ของผู้ป่วยเบาหวาน
หากไม่ต้องการสูญเสียอวัยวะที่รักยิ่งไป ผู้ป่วยเบาหวานก็ควรต้องรู้จักสังเกตตัวเองให้ดีตลอดเวลา อย่าปล่อยให้อาการที่เกิดขึ้นลุกลามจนแก้ไขไม่ทัน โดยเราจะมาแนะนำวิธีการในการสังเกตความผิดปกติ ดังต่อไปนี้
เท้าชา ไม่มีความรู้สึก อาการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากหลอดเลือดของผู้ป่วยตีบ จนเลือดจากหัวใจไหลไปเลี้ยงส่วนเท้าหรือปลายนิ้วเท้าไม่ถึง ซึ่งอาการเช่นนี้เสี่ยงต่อการเกิดแผลโดยไม่รู้ตัว และอาจกลายเป็นแผลที่รักษาไม่หายในภายหลังได้
ดังนั้น หากผู้ป่วยมีแผลที่เท้า เช่น เหยียบโดนตะปู หรือโดยของแหลมคมตำที่เท้า แล้วไม่รู้สึกตัว และเผลอปล่อยให้แผลที่เท้าอักเสบเป็นหนอง โดยไม่ได้รับการรักษาแบบทันท่วงที นี่คือสัญญาณที่คุณอาจจะโดนตัดเท้าในอนาคตได้
จากเหตุผลที่กล่าวมา
ผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานจึงต้องดูแลเท้าของตัวเองให้เป็นพิเศษมากกว่าปกติ ด้วยวิธีการดูแล
ดังต่อไปนี้

วิธีดูแลเท้าผู้ป่วยโรคเบาหวานอย่างไรไม่ให้ถูก “ตัดเท้า“
1. อย่าเดินเท้าเปล่าเด็ดขาด แม้ว่าจะรู้ว่าปลอดภัย แต่การสวมรองเท้าเอาไว้ก็สามารถป้องกันเท้าได้อย่างครอบคลุมมากกว่า อย่าประมาทเด็ดขาด
2. ตัดเล็บเท้าให้ตรง และอย่าตัดเข้ามุมมาก ผู้ป่วยเบาหวานควรตัดเล็บเท้าสม่ำเสมอ ตัดตรง และไม่ตัดกินมุม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลจากการตัดเล็บลึกจนเกินไป
3. ล้างเท้า ผู้ป่วยควรล้างเท้าของตัวเองอย่างสม่ำเสมอทั้งตอนเช้าและเย็น ทั้งนี้เพื่อความสะอาด และป้องกันอาการแผลติดเชื้อ นอกจากนี้ การล้างเท้าอย่างสม่ำเสมอจะทำให้คุณได้มีเวลาสังเกตใต้ฝ่าเท้าของตัวเองทุกครั้ง ว่ามีแผลหรือมีสิ่งผิดปกติใดๆเกิดขึ้นเพิ่มเติมหรือไม่ด้วย
4. อย่าสวมรองเท้าแน่นเกินไป การที่เราสวมรองเท้าคับ รองเท้าที่บีบรัดจะทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก และเสี่ยงต่อการเป็นแผลจากรองเท้ากัดหรือแผลอื่นที่เท้า
5. อย่าตัดหูดหรือตาปลาเอง เมื่อเกิดหูดหรือตาปลาไม่ควรจัดการเอง เพราะสิ่งเหล่านี้มีโอกาสที่จะเกิดแผลขนาดเล็กหรือพัฒนาไปเป็นแผลขนาดใหญ่ได้
จะเห็นว่าเท้าสำหรับคนปกติไม่ได้เป็นเรื่องที่ต้องเป็นกังวลเท่ากับเท้าของผู้ป่วยเบาหวาน เพราะผู้ป่วยโรคนี้มีความเสี่ยงสูงหากคุณละเลยการดูแลเท้าด้วยวิธีที่ถูกต้องไป และเมื่อเท้าของคุณเกิดมีแผลสด และพัฒนาจนกลายเป็นแผลติดเชื้อเข้าแล้ว โอกาสที่จะต้องตัดเท้าทิ้งไปก็มีสูงมาก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าคุณจะไม่ใช่ผู้ป่วยเบาหวาน คุณก็ควรดูแลและหมั่นสังเกตเท้าของตัวเองด้วย จะได้ไม่ต้องเสี่ยงโดนตัดเท้าจนกลายเป็นผู้พิการกันไปเสียก่อน เพราะการดูแลเท้าของตัวเองไม่ใช่วิธีที่ยากเลย ทำบ่อยๆ เดี๋ยวก็ติดไปเป็นนิสัยเองละคะ