ในโลกนี้ ยังมีความเชื่ออีกหลายบนโลกที่คุณอาจจะเข้าใจผิด เคยคิดว่ามันดี เคยคิดว่ามันถูก แต่ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย และความเข้าใจแบบผิดๆนี้เอง ก็อาจจะทำให้คุณหลงทาง หรือต้องมีสุขภาพที่ย่ำแย่ลงกว่าเดิมได้
ทั้งนี้ ความคิดของคุณอาจจะเปลี่ยนไป คุณอาจจะเลิกใช้สิ่งของเครื่องใช้บางอย่างไปเลย เพราะมันไม่ได้ช่วยให้ชีวิตคุณขึ้น หรือมันไม่ได้มีประโยชน์อย่างที่คุณเคยรู้
ซึ่งวันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันว่ามีอะไรบ้างที่ผิด หรืออะไรบ้างที่ถูก เมื่อรู้แล้วจะได้แก้ไขได้อย่างถูกต้อง และเข้าใจมันเสียใหม่
1. สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียไม่ได้ช่วยป้องกันโรค
สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียอาจจะไม่มีประโยชน์จริง 100% เพราะความจริงแล้วการล้างมือด้วยสบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียสามารถฆ่าได้แต่เชื้อแบคทีเรีย แต่สบู่เหล่านี้ไม่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสที่ทำให้โรคต่างๆที่สำคัญได้ เช่น การไอ อาเจียน ท้องร่วง เป็นต้น ได้
นอกจากนี้ สบู่ต้านเชื้อแบคทีเรียยังสามารถกระตุ้นเซลล์ที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ด้วย
2. นั่งนานอาจทำให้ตายเร็ว
การนั่งท่าเดิมๆ ไม่ขยับไปไหน หรืออยู่ในสถานที่ใดๆนานๆติดต่อกันกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทรวงอกและมีปัญหาต่อเยื่อบุโพรงมดลูกมากขึ้นได้
3. ยาสีฟันไวท์เทนนิ่งและยาสีฟันแอนตี้แบคทีเรียอาจทำให้ฟันเปราะบางขึ้น
การใช้ยาสีฟันที่ดีเกินไปอาจทำให้ฟันของคุณมีปัญหาหรือเกิดโรคเหงือกได้ ทั้งนี้เพราะยาสีฟันไวท์เทนนิ่งอาจทำให้สารเคลือบฟันของคุณเปราะบางลง เนื่องจากส่วนผสมจำพวกโซเดียมลอริลซัลเฟต (SLS) หรือสารให้ความหวานเทียม ฟลูออไรด์โพรพิลีน ไกลคอล และยังมีความเสี่ยงต่อเหงือกของผู้ใช้ด้วยเช่นกัน
4. สำลีปั่นหูเสี่ยงหูหนวกตลอดชีวิต
เชื่อว่าหลายคนชอบปั่นหูเล่น เพราะรู้สึกดีเวลาที่เราใช้สำลีปั่นเข้าไปในรูหู แต่ในขณะเดียวกัน สำลีก็จะผลักดันขี้หูให้เข้าไปอยู่ลึกกว่าเดิม และใกล้กับแก้วหูของคุณมากขึ้น ซึ่งการกระทำแบบนี้จะเป็นอันตรายและอาจทำให้เกิดความเสียหายในระยะยาว อาจส่งผลต่อการได้ยิน เป็นโรคหูหนวก หรือนำเชื้อราแบคทีเรียและไวรัสจากหูชั้นนอกเข้าไปในหูชั้นในเพิ่มขึ้นได้
5. ใช้เครื่องเพิ่มความชื้นอาจปล่อยอากาศเป็นพิษออกมาได้
การทำให้บรรยากาศในห้องของคุณชื้นขึ้น อาจไม่ได้ดีเสมอไป เพราะเครื่องที่สามารถปล่อยความชื้นออกมา อาจจะปล่อยอากาศที่เป็นพิษออกมาควบคู่ด้วยได้เช่นกัน และนั่นก็จะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพมากมาย เช่น ผิวแห้ง ระคายเคืองรูจมูก และคัน

6. ใช้ฟองน้ำขัดตัวไม่ดีต่อตัวเรา
ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะ เรามักจะเก็บฟองน้ำขัดตัวไว้ในที่ชื้น เช่น ในห้องน้ำ ทำให้ฟองน้ำกลายเป็นที่อยู่อาศัยใหม่ของเชื้อราหรือแบคทีเรีย เมื่อนำเอาฟองน้ำเหล่านี้มาขัดตัว เชื้อโรคก็จะเข้าไปในผิวหนังของคุณได้โดยง่าย โดยอาจจะผ่านทางรอยขีดข่วนเล็กๆในร่างกายที่คุณมี
7. ใช้เครื่องปั่นน้ำผลไม้เต็มไปด้วยเชื้อจุลินทรีย์
เทรนด์สุขภาพที่มาแรงในขณะนี้ที่ผู้คนนิยม ก็คือ การทานน้ำผลไม้ปั่นเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะเครื่องดื่มสมูทตี้ที่ต้องใช้ผลไม้หลายชนิดมาปั่นรวมกันในโถปั่น ยิ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง
แต่การรับประทานน้ำผลไม่ที่เปี่ยมล้นไปด้วยสารอาหารก็ทำให้คุณป่วยได้เช่นกัน เพราะถ้าไม่ได้ล้างเครื่องมือชิ้นนี้อย่างถูกต้อง โดยเฉพาะส่วนของแหวนยางที่ยึดใบมีดของเครื่องปั่น ซึ่งนับเป็นที่ที่มีเชื้อโรคมากที่สุด
ทั้งเชื้อ Salmonella, E. coli, ยีสต์และรา ก็อาจจะเป็นปัญหาต่อสุขภาพตามมาได้
8. เครื่องมือทำเล็บ
เครื่องมือทำเล็บ เช่น หินภูเขาไฟ เครื่องตัดหนังกำพร้าและเครื่องมืออื่น ๆ ที่มีไว้เพื่อตกแต่งเล็บของคุณให้ดูสวยงาม อาจนำมาซึ่งเชื้อโรค และการติดเชื้อที่ผิวหนังได้
หากต้องการใช้จริงๆ จึงควรล้างเครื่องมือในน้ำสบู่หลังจากที่ใช้ทุกครั้ง หรือไม่ควรใช้ร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อระหว่างบุคคลได้
9. ไม้พายทั้งแบบยางและไม้
ไม้พาย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการทำครัว ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่คุณต้องให้ความสำคัญ เพราะหากล้างแล้วไม่ทำให้แห้งสนิท อุปกรณ์เหล่านี้ก็จะเกิดยีสต์, เชื้อรา, E. coli ตามมาได้ ซึ่งเมื่อนำมาทำอาหาร เชื้อต่างๆเหล่านี้ก็อาจจะเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไม่ยากเย็น

10. ตุ๊กตาขนสัตว์
เด็กๆอาจจะชอบเล่นตุ๊กตา โดยเฉพาะตุ๊กตาขนฟูนุ่มนิ่มยิ่งน่ากอด อย่างไรก็ตาม ตุ๊กตาประเภทนี้มักเก็บฝุ่นและไรฝุ่นเอาไว้อย่างมากมาย ซึ่งเมื่อคุณนำมากอดอาจทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจได้ ทำให้คุณรู้สึกคันและน้ำมูกไหลตลอดเวลา
ซึ่งคงไม่มีใครอยากให้มันเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่คุณรัก
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ก็ต้องอย่ามองข้ามการดูแลความสะอาดของอุปกรณ์ต่างๆ ที่เรานำมาใช้กันนะคะ หรือถ้าบางอย่างไม่เหมาะสมต่อการใช้งาน ใช้แล้วจะทำให้เกิดแต่เรื่องเสียหายก็ต้องตัดใจโยนทิ้งไป หรือบางอย่างถ้าสามารถใช้ได้ก็ต้องมั่นใจว่าล้างสะอาดจริงๆ และถ้าล้างแล้วควรเช็ดให้แห้งด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณและคนที่คุณรักทั้งนั้นใช่มั๊ยละคะ