“โรคต้อหิน” (Glaucoma) เป็นโรคเกี่ยวกับตาที่มีผู้ป่วยคนไทยป่วยมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง และที่น่าตกใจไปกว่านั้น ก็คือ คนส่วนใหญ่แทบไม่รู้ว่าตัวเองเริ่มเป็นต้อ กว่าจะรักษาก็ต้องรอให้อาการลุกลามและเป็นเหตุให้การรักษาลำบากมากขึ้น และเมื่อรักษไม่ทันเวลาก็จะเป็นต้นเหตุที่นำมาสู่อาการ “ตาบอด” ได้

    ปัญหานี้จึงกลายเป็นปัญหาระดับชาติ ที่ถึงแม้ว่าจะมีการจัดตั้งโครงการเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนหันมาตรวจคัดกรองโรคต้อ เพื่อที่จะสามารถทำการรักษาได้ทันเวลา และช่วยลดปัญหาตาบอดได้ แต่ก็อาจจะยังไม่เพียงพอ และเป็นเหตุให้มีคนจำนวนมากต้องกลายเป็นคนมองไม่เห็นในที่สุด

    หากพูดถึงสาเหตุการเกิดโรคต้อหินแล้ว โรคนี้สามารถเกิดได้จากหลายปัจจัย โดยสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจาการเสื่อมของร่างกาย ทำให้เส้นประสาทตาถูกทำลาย ความดันในตาสูง ซึ่งอาจเกิดอย่างช้าๆ หรือเฉียบพลัน ขึ้นอยู่กับชนิดของโรค

    ในส่วนของการรักษาแพทย์โดยแผนปัจจุบันก็มีอยู่หลายวิธี ทั้งการใช้ยา การยิงเลเซอร์ และการผ่าตัด ทั้งนี้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรค ว่าแพทย์เห็นสมควรว่าควรรักษาด้วยวิธีใด ทั้งนี้ทั้งนั้น การรักษาทุกวิธีย่อมมีค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน และด้วยข้อจำกัดเรื่องการเงิน ทำให้ผู้ป่วยต้อหินบางรายไม่สามารถควักเงินตัวเองเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาลได้ และจำเป็นต้องยอมมองไม่เห็นต่อไปแบบปฏิเสธไม่ได้

    แต่ก่อนที่อาการต้อหินที่คุณเป็นอยู่จะหนักกว่าเดิม หรือหากใครอยากเริ่มต้นดูแลและป้องกันไม่ให้เกิดอาการเช่นนี้ เราก็มีวิธีการที่จะช่วยให้คุณบรรเทาอาการของโรคต้องหินได้ ดังนี้ค่ะ

    วิธีนี้ถูกเปิดเผยโดยนายแพทย์คนหนึ่ง นั่นคือ นพ.สมเกียรติ อธิคมกุลชัย จักษุแพทย์ผู้คิดค้นการรักษาโรคต้อหินและโรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งเขาคิดค้นวิธีการรักษาต้อหินด้วยตัวเองออกมา และต้องการที่จะถ่ายทอดให้คนอื่นได้รับรู้เพื่อป้องกันโอกาสการตาบอดในอนาคต จะใช้วิธีไหนกันบ้าง ตามมาดูกันเลย

    นพ.สมเกียรติ เปิดเผยวิธีการดูแลรักษดวงตาหรือรักษาโรคต้อหินโดยไม่ต้องผ่าตัด ใช้ยา หรือใช้เลเซอร์ ด้วยวิธี “การกดนวดตา“
ซึ่งมีประโยชน์ในการช่วยลดความดันในลูกตา และเป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในลูกตาอีกด้วย

    วิธีการ ‘กดนวดลูกตา‘

1. ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างกดเบ้าตาทั้ง 2 ข้าง โดยกดจนเห็นแสงเป็นเวลา 2 นาทีครึ่ง
   
2. ทำเช่นนี้อย่างน้อย 10 ครั้งต่อวัน
   

ประโยชน์ของการกดนวดดวงตา

    การนวดดวงตามีประโยชน์อย่างไร? การนวดดวงตาช่วยลดความดันในลูกตาได้ เนื่องจากเนื้อเยื่อของร่างกายคนเราสามารถ Remodel ได้ และการที่เรากดตาก็เป็นวิธีการเร่งระบายน้ำออกจากลูกตา ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ความดันในลูกตาลดลง หากมีการกดตาบ่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไปนานๆเข้า ช่องทางระบายก็จะขยายอย่างถาวร

    ดังนั้น สำหรับใครที่มีความดันในลูกตาสูงและต้องการที่จะลดความดันในลูกตาลงอย่างถาวร ก็สามารถนำไปทำได้ ทั้งนี้ วิธีการที่ว่านี้ถูกนำไปทดสอบกับคนไข้แล้ว และพบว่าผู้ป่วยที่มีการดูแลตัวเองด้วยการกดนวดดวงตาจำนวนมากมีการมองเห็นที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก ยกตัวอย่างผู้ป่วยที่เคยหายด้วยการนวดดวงตา เช่น “นายเฉลียว เขาหนองบัว“ อายุ 82 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคต้อหินรายแรกของโลกที่ตาบอดไปแล้ว 3 วัน แต่ก็สามารถกลับมามองเห็นได้อีกครั้งหนึ่งด้วยการนวดตา ซึ่งเป็นการทำเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เขาสามารถกลับมามองเห็นโลกได้อีกครั้งหนึ่ง

    แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อาการที่คุณเป็นอยู่จะดีขึ้นอย่างรวดเร็วหรือช้า ก็ต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และความเอาใจใส่ในการดูแลตัวเองของคุณด้วย ว่าคุณนั้นกดนวดดวงตาบ่อยแต่ไหน

    มากไปกว่านั้น แนวคิดนี้ก็ถูกพัฒนาต่อไปอีก โดยทางชาติตะวันตกได้มีความพยายามพัฒนาตัวยาที่จะช่วยเพิ่มระบบไหลเวียนเลือดของดวงตาขึ้นมา เพื่อลดโอกาสการเกิดต้อ หรือละลายต้อที่เกิดขึ้นมาแล้ว

    แต่ถ้าคิดว่ายังไม่อยากจ่ายเงินแพงๆเพื่อรักษาโรคนี้ ก็ต้องลองใช้วิธีนวดดวงตาบรรเทาอาการกันไปก่อน เพราะสองมือของเรานี่แหละที่เพียงพอสำหรับการช่วยให้ต้อหินสลายไปได้แล้ว และวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่สามารถทำได้ง่าย ไม่สลับซับซ้อน ทำได้ทุกเวลา และทำเองได้ทุกคนด้วย

    แต่หากพูดกันตามหลักวิชาการแล้ว วิธีการนี้กลับถูกมองว่าเป็นวิธีการรักษาที่ไม่มีมาตรฐาน ผู้เชี่ยวชาญบางท่านกล่าวว่าการนวดตาด้วยวิธีนี้อาจทำให้เกิดอันตรายได้ จนในที่สุด กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) จึงได้มีการสั่งระงับการบริการดังกล่าวไป เพราะไม่ได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่าย

    เรื่องนี้จึงต้องขึ้นอยู่กับวิจารณญาณส่วนบุคคลของแต่ละคน ว่าคิดจะเชื่อวิธีการนวดตานี้หรือไม่ หรือจะเน้นการใช้วิธีการรักษาตามวิธีมาตรฐาน

    สุดท้าย การพยายามรักษาดวงตาของเราให้ดีตั้งแต่ต้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด การพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง การรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอสูง การออกกำลังกายดวงตาอย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น เพราะวิธีเหล่านี้น่าจะเป็นหนทางที่ดีกว่าการมารักษาตัวเองภายหลัง และคุณจะได้ไม่ต้องมานั่งกังวลใจกับอนาคตการมองเห็นที่มืนมนเพราะโรคร้ายนี้ด้วย