รักษารังแคหายได้ไม่ยาก

    เส้นผมกับรังแคเป็นของคู่กัน ซึ่งมันเป็นสิ่งที่คอยก่อกวนใจทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงเป็นอย่างมาก การมีรังแคทำให้คุณดูไม่ดีในสายตาของคนอื่น แม้ว่าคุณจะเป็นคนรักสะอาด สระผมทุกวัน ก็ยังสามารถเป็นรังแคได้อยู่ดี

    หากคุณไม่อยากดูแย่ลงในสายตาของคนอื่น การขจัดรังแคเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง มาศึกษาวิธีการดูแลตัวเองด้วยวิธีดังต่อไปนี้กันเถอะค่ะ รับรองว่าสามารถช่วย

    หากจะรักษารังแคให้หายขาดได้ ควรจะต้องรู้ก่อนว่ารังแคเกิดได้อย่างไร? และเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอะไรบ้างเสียก่อน ซึ่งเมื่อศึกษาถึงที่มาของรังแคแล้ว ก็จะพบว่ารังแค คือ เซลล์ผิวหนังชั้นบนสุดของหนังศีรษะ ที่เกิดการหลุดลอกเร็วกว่าปกติ โดยใช้เวลาเพียง 28 วันเท่านั้น

    การหลุดลอกของหนังศีรษะส่วนนี้อาจไม่มีผลต่อสุขภาพที่นักหนาสาหัสมากนัก แต่มันจะทำให้เกิดสิ่งที่ไม่น่ามองขึ้นกับตัวเรา เนื่องจากจะมองเห็นรังแคเป็นแผ่นหรือเป็นผงสีขาวขนาดเล็กบนศีรษะ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการไม่ดูแลเอาใจใส่ตัวเอง ทำให้เสียบุคลิกภาพ และยังอาจทำให้คุณขาดความมั่นใจในตัวเองไปด้วย

    อย่างไรก็ตาม การสะสมของรังแค หรือการไม่ยอมแก้ไขปัญหาให้ขาด ยังคงปล่อยให้เป็นรังแคอย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดสิ่งที่น่ากลัวตามมา ก็คือ การเกิดโรคผิวหนังอักเสบ และมีปัญหาผมร่วง นั่นเอง

    ปัญหารังแคเกิดได้ทั้งในเกือบทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีหนังศีรษะแห้งหรือมัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะพบในเพศชายมากกว่าหญิง ซึ่งสาเหตุของอาการนี้อาจจะไม่ได้เป็นเพราะการดูแลหหนังศีรษะเพียงอย่างเดียว แต่แพทย์แผนจีนยังมองว่าอวัยวะบางอย่างมีความสัมพันธ์โดยตรงกับผิวหนังและเส้นผมด้วย เช่นหากปอดได้รับลมร้อนจากภายนอกจะทำให้หนังศีรษะแห้งคันและเกิดรังแคได้ รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นอาหารมันหรืออาหารรสเผ็ดมากๆ ก็อาจจะทำให้เส้นลมปราณกระเพาะอาหารอยู่ในภาวะร้อนชิ้น ทำให้ผิวหนังบริเวณหนังศีรษะขาดความชุ่มชื้น และเป็นสาเหตุให้เกิดรังแคในที่สุดได้

    หลังจากที่พอทราบถึงสาเหตุของการเกิดรังแคกันไปแล้ว ก็มาพบกับวิธีการสยบรังแคที่คอยมากวนใจเราได้เลย จะต้องทำอย่างไรให้รังแคหายขาดบ้างนั้น ตามมาดูเลยค่ะ

    1. ปัดออกไม่ช่วยอะไร

ยิ่งคุณใช้มือจับหรือปัดรังแคบนหนังศีรษะมากเท่าไหร่ หนังศีรษะยิ่งโดนทำร้ายมากเท่านั้น โดยเฉพาะมือที่สกปรกด้วยแล้วยิ่งมีผลให้เกิดรังแคได้มากขึ้นไปใหญ่

    2. ไม่ควรใช้น้ำเย็นสระผม

น้ำที่มีอุณหภูมิเย็นหรืออุณหภูมิต่ำจะทำให้หนังศีรษะแห้ง และทำให้ล้างยาสระผมออกได้ยาก เมื่อมีสารเคมตกค้างอยู่บนเส้นผมหรือหนังศีรษะ จึงอาจเกิดปัญหารังแคเพิ่มขึ้นบนหนังศีรษะได้

    3.ไม่ควรใช้น้ำอุ่นสระผม

ไม่ใช่แค่น้ำเย็น แต่คนที่ชอบอาบน้ำอุ่นและใช้น้ำร้อนสระผมก็อาจจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดรังแคได้ด้วย เพราะความร้อนจะไปกระตุ้นเซลล์ต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ทำให้เซลล์เหล่านั้นผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จึงเป็นสาเหตุให้หนังศีรษะมันและเกิดรังแคได้ง่ายนั่นเอง

    จากข้อ 2 และ3 น้ำที่ควรนำมาใช้ในการสระผมจึงไม่ควรเย็นหรือร้อนจนเกินไป หรือหากใช้เทอร์โมมิเตอร์มาวัดอุณหภูมิของน้ำแล้ว อุณหภูมิของน้ำที่เหมาะสมก็จะประมาณ 37-40 องศาเซลเซียสนั่นเอง

    4. เลือกใช้ยาสระผมที่พอดี

คำว่าพอดีคือความแรงของยาสระผม ซึ่งหากยาสระผมมีส่วนผสมของสารเคมีในปริมาณมากเกินไป ก็อาจจะเป็นการเร่งให้เกิดรังแคได้ง่าย หากอยากเปลี่ยนยาสระผมให้ฤทธิ์เบาลง ให้ลองใช้ยาสระผมที่ผลิตจากสารสกัดจากวัตถุดิบธรรมชาติดูก่อน เนื่องจากยาสระผมประเภทนี้จะมีความอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผมมากกว่า

    5. ความเครียดเร่งให้เกิดรังแคได้

เชื่อเถอะค่ะว่าความเครียดไม่ได้เป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายเลย หากอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นต้องลองปล่อยวาง และผ่อนคลายอารมณ์เสียบ้าง นอกจากประสาทจะไม่เสียแล้ว ยังมีผลต่อการลดการเกิดรังแคอีกด้วยนะ=

    6. อาหารมีผลมากๆ

อาหารมีผลต่อการชะลอการเกิดรังแคได้เป็นอย่างดี เพราะการเติมสารอาหารที่ร่างกายต้องการสามารถหยุดการเกิดรังแคที่คุณไม่ต้องการได้ หากใครไม่อยากมีรังแคอีกแล้ว แนะนำให้บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ลูกเดือย ถั่วเขียวต้ม
งาดำ ธัญพืชเหล่านี้สามารถช่วยลดการเกิดรังแคได้ แถมยังช่วยบำรุงผมให้ดำเงางามอีกด้วย

    นอกจากจะเติมอาหารที่มีประโยชน์แล้ว คำเตือนที่สำคัญอีกหนึ่งเรื่องก็คือ การหลีกเลี่ยงอาหารรสจัด ทั้งอาหารหวาน มัน เผ็ด รวมไปถึงเครื่องดื่มชา กาแฟเข้มข้น และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็มีผลต่อการเกิดรังแคได้เช่นกัน ดังนั้น หากไม่จำเป็นจริงๆก็ควรลดให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    7. ขับถ่ายทุกวัน

เมื่อกินดีแล้ว การขับถ่ายก็ต้องดีเช่นกัน การกำจัดของเสียออกจากร่างกายอย่างเหมาะสม เป็นเวลา หรือไม่เก็บสิ่งไม่ดีไว้ในร่างกายนานๆจะช่วยบรรเทาการเกิดรังแคได้

    การลดรังแคบนหนังศีรษะไม่ใช่การดูแลเฉพาะเส้นผมและหนังศีรษะเท่านั้น แต่ต้องหันไปดูแลอาหารการกิน อารมณ์ หรือการขับถ่ายให้เพียงพอและเหมาะสมด้วย ถ้าทำได้น่าจะช่วยให้คุณห่างไกลจากรังแคได้อย่างแน่นอน