หากพูดถึงฝีแล้ว หลายคนอาจจะรู้สึกว่าไกลตัวเองเหลือเกิน และหลายคนก็คิดว่า ฝีเป็นอาการที่สามารถรักษาให้หายได้ง่ายด้วยยาสมัยใหม่ แต่สำหรับบางคนแล้วอาจจะต้องการรักษาด้วยยาสมุนไพรไทย ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ยุ่งยากและไม่ต้องเสียเวลาไปหาหมอให้เหนื่อยและรู้สึกอาย
หากคุณกำลังเป็นคนหนึ่งที่คิดแบบนี้ มาลองพิจารณาสมุนไพรไทยที่สามารถช่วยรักษาฝีกันดูหน่อยดีกว่าค่ะ
ฝี เป็นอาการที่เกิดได้ในทุกเพศทุกวัย ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อของแบคทีเรีย เชื้อรา และอะมีบา โดยจะเป็นฝีได้ง่ายในช่วงที่ร่างกายของเราอ่อนแอ เพราะช่วงนี้เชื้อโรคจะสามารถเจริญเติบโตได้ดี ทำให้ร่างกายไม่สามารถต้านทานเชื้อโรคต่างๆได้เหมือนเดิม และเปิดโอกาสให้เกิดฝีได้ง่ายมากขึ้น

หากสังเกตดูดีๆ ฝีมักเกิดในบางบริเวณเท่านั้น โดยบริเวณที่สามารถพบฝีได้บ่อย ได้แก่ บริเวณที่มีเหงื่อออกมาก หรือมีความอับชื้นสูง เช่น บริเวณคอ ศีรษะ ใบหน้า รักแร้ เต้านม ต้นขา ก้น หรือแม้แต่บริเวณอวัยวะเพศ ซึ่งล้วนแต่เป็นจุดซ่อนเร้นที่ทำให้หลายคนไม่กล้าบอกใคร และไม่กล้าไปรักษา
นอกจากนี้ ฝียังสามารถเกิดได้จากปัจจัยภายนอกอื่นๆ เช่น ระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือป่วยเป็นโรคเบาหวาน การรับประทานยาประเภทสเตียรอยด์เป็นประจำ รวมถึงการมีปัญหาด้านโภชนาการ หรือเป็นโรคขาดสารอาหาร
คราวนี้มาทำความรู้จักกับหน้าตาของ ฝี กันต่อ…ฝี คือ ผิวหนังบริเวณที่มีการติดเชื้อ และมีอาการอักเสบ ปวด บวม แดง ร้อน เป็นตุ่มแข็ง ที่สำคัญคือ ฝีจะโตขึ้นเรื่อยๆ และต่อมาจะนุ่มลงและกลัดหนอง
เมื่อผ่านไปไม่กี่วัน ฝีที่เกิดขึ้นสามารถแตกเองได้ ซึ่งบางครั้งในขณะเป็นฝีอาจพบอาการต่อมน้ำเหลืองในบริเวณใกล้เคียงอักเสบร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม เชื้อโรคจากฝีสามารถลุกลามกระจายไปยังอวัยวะข้างเคียงหรือแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือดได้ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรนิ่งนอนใจ มาศึกษวิธีการแก้ไขโดยด่วนกันเถอะค่ะ
มีสมุนไพรไทยที่เราจะบอกเล่าเพื่อช่วยรักษาฝีมีอยู่หลายตัว ดังนี้
1. ขมิ้นชัน
เป็นสมุนไพรมากประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาฝีได้ ทั้งนี้เพราะในขมิ้นมีน้ำมันหอมระเหยหลายชนิด ซึ่งน้ำมันหอมระเหยเหล่านี้มีสรรพคุณในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอักเสบได้ดี และช่วยสมานแผลได้ดี ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ขมิ้นชันจะกลายเป็นพระเอกในการรักษาอาการป่วยนี้นั่นเอง
วิธีการใช้ คือ ให้ฝนเหง้าขมิ้นชันสดประมาณ 2 นิ้ว แล้วนำมาต้มสุก ก่อนจะนำไปทาบริเวณที่เป็น ฝี
2. ว่านหางจระเข้
เป็นต้นไม้ที่ใกล้เคียงกับยาสามัญประจำบ้านจริงๆ เพราะรักษาได้ตั้งแต่แผลน้ำร้อนลวกไปจนถึงการเป็นฝี โดยส่วนสำคัญก็หนีไม่พ้นวุ้นของใบว่านหางจระเข้ที่มีสารเคมีสำคัญในการต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยสมานแผลได้ เพราะฉะนั้น รีบปลูกต้นไม่มากประโยชน์ต้นนี้เอาไว้เลย
วิธีการใช้ คือ นำใบว่านหางจระเข้มาปอกเปลือก และล้างยางออกให้หมด จากนั้นขูดเอาวุ้นมาพอกบริเวณฝี วันละ 3 ครั้ง ก็จะช่วยให้หายจากอาการนี้ได้
3. ใบบัวบก
เป็นอีกหนึ่งสมุนไพรยอดนิยมที่คนไทยนิยมนำมาบำรุงร่างกาย ในส่วนของการรักษาฝีก็ยิ่งหย่อนเลย เพราะในใบบัวบกมีสารออกฤทธิ์ที่ช่วยสมานแผล รวมถึงการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดหนอง ฆ่าเชื้อรา และลดการอักเสบได้
วิธีการใช้ คือ นำบัวบกสดมาล้างให้สะอาด แล้วคั้นเอาแต่น้ำมาชโลมบริเวณที่เป็นฝี หรือจะใช้กากที่คั้นเสร็จพอกด้วยก็ได้
4. ชุมเห็ดเทศ
ชื่อของสมุนไพรตัวนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคนสมัยใหม่เท่าไหร่นัก แต่ให้รู้ไว้เลยว่าสมุนไพรตัวนี้มีสารสำคัญคือ แอนทราควิโนน ซึ่งมีรายงานการวิจัยกล่าวไว้ว่า สารสกัดจากใบของชุมเห็ดเทศสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและมีฤทธิ์ต้านเชื้อราได้
วิธีการใช้ คือ นำใบและก้านสด มาต้มกับน้ำ และเคี่ยวให้เหือดเหลือน้ำประมาณ 1 ใน 3 จากนั้นนำไปใช้ล้างฝี เช้า เย็น วันละ 2 ครั้ง
5. เปลือกมังคุด
อย่าคิดว่าผลไม่จะอร่อยเพียงอย่างเดียว เพราะเปลือกของผลไม้บางประเภทกลับมีสารสำคัญบางตัวสูงเหลือเกิน ยกตัวอย่างเช่น เปลือกมังคุดนี้นี่เอง ที่อุดมไปด้วยสารแทนนิน ซึ่งมีฤทธิ์ในการสมานแผลและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ดังนั้นจึงช่วยลดสาเหตุของการเกิดหนอง และลดการอักเสบลงได้
วิธีการใช้ คือ ให้ใช้เปลือกผลมังคุดแห้งนำไปย่างไฟให้เกรียม แล้วนำมาฝนกับน้ำปูนใส ก่อนจะนำไปใช้พอกฝี
6. ฟ้าทะลายโจร
สมุนไพรชื่องามและเต็มไปด้วยสรรพคุณบำรุงกำลังตัวนี้มีสารสำคัญที่ช่วยลดการอักเสบของฝีที่คุณกำลังเป็นอยู่ได้ อีกทั้งยังช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดหนองได้ ทำให้ไม่เกิดการลุกลามของฝีนั่นเอง
วิธีการใช้ คือ ให้ตำใบฟ้าทะลายโจรให้แหละ แล้วนำมาพอกที่ฝีหรือคั้นน้ำจากใบทาบริเวณฝีก็ได้
7. เทียนบ้าน
ใบเทียนบ้านเป็นมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราได้อย่างหมดจด และสารสกัดจากใบของเทียนบ้านก็ยังมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังได้อย่างดีด้วย ดังนั้น จึงสามารถนำมาใช้รักษาฝีได้นั่นเอง
วิธีการใช้ คือ ตำใบสดและดอกสด เพื่อคั้นเอาแต่น้ำทาบริเวณที่เป็นฝี
หากคุณเป็นฝีแล้วอย่าเมินเฉย ควรใส่ใจและดูแลรักษาตัวเองอย่างดี ปัญหาสุขภาพอื่นๆจะได้ไม่ตามมาอีกนะคะ