ปลาไทยไม่แพ้ปลาใดในโลก
เราถูกสอนมาตั้งแต่เด็กแล้วว่า สิ่งของหรืออาหารการกินที่มาจากเมืองนอกหรือต่างประเทศจะมีคุณภาพดีกว่าสิ่งของหรืออาหารการกินในประเทศไทย ทำให้คนไทยนิยมหาของกินที่นำเข้าจากต่างประเทศ หรือพยายามเดินทางออกไปทานอาหารดังนอกประเทศ แต่บางครั้งเราก็ลืมไปว่า อาหารหรือัตถุดิบพื้นบ้านของไทย ก็มีดีไม่แพ้กัน บางอย่างอาจจะดีกว่า เพียงแต่ยังไม่เป็นที่นิยมเท่านั้นเอง
ปลา ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ถูกเชื่อเช่นนั้น ทำให้ปลาไทยๆไม่เป็นที่นิยมรับประทานเท่ากับปลาสัญชาติญี่ปุ่นหรือปลายุโรป แต่ในความจริงแล้วหากพิจารณาไปที่สารอาหารที่ตรวจพบในเนื้อปลา จะพบว่าปลาไทยมี “โอเมก้า 3″ ไม่แพ้ปลาเมืองนอกเลย จะมีปลาอะไรบ้างที่มีสารอาหารสูง ตามมาอ่านกันเลยค่ะ
1. ปลาสวาย
ปลาชนิดแรกเป็นปลาที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี นั่นก็คือ ปลาสวาย ปลาที่มีประโยชน์สูงและมีรสชาติอร่อบ ปลายสวายเป็นปลาพี่น้องกับปลาดอรี่ แต่มีส่วนหัวค่อนข้างเล็ก รูปร่างเพรียว ป้อมสั้น คนไทยนิยมนำปลาสวายมาทอดกระเทียม หรือทอดราดน้ำยำ เป็นต้น
เมื่อพูดถึงสารอาหารแล้ว ปลาสวายถือเป็นปลาที่มีโอเมก้า 3 สูงมากๆ เมื่อเทียบกับปลาแซลมอนแล้ว ปลาสวายจะมีโอเมก้า 3 มากกว่าเป็นเท่าตัว
2. ปลากะพงขาว
ปลาที่อยู่คู่กับโต๊ะจีนหรือโต๊ะอาหารเสมอ ก็คงเป็นปลาชื่อดังอย่างปลากะพงขาว ซึ่งเป็นปลาที่พบได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำกร่อย ส่วนสารอาหารก็มีประโยชน์มากมาย โดยส่วนของโอเมก้ามีสูงประมาณ 310 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัมเลย
ด้วยความที่เป็นปลาทานง่าย หาทานไม่ลำบาก ราคาไม่แพงจนเกินไป ปลากะพงจึงนิยมนำไปทำอาหารได้หลากหลาย จะต้ม ผัด แกง ทอด หรือนึ่ง ก็ได้ทั้งนั้น
3. ปลาทู
ปลาทูเป็นปลาที่คนไทยทานกันบ่อย หาทานได้ง่าย จนบางทีอาจลืมไปว่าเป็นปลาที่มีคุณค่ามากๆ ปลาทูทั่วๆไปมีคุณค่าทางสารอาหารไม่แพ้กับปลาชนิดอื่นๆเลย เพราะในปลาทูมีโอเมก้าสูงประมาณ
2,000-3,000 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม เลยทีเดียว
คนไทยจะคุ้นชินกับปลาทูนึ่งใส่เข่งและปลาทูสด ซึ่งนิยมนำไปทำอาหารได้ทั้งการนึ่ง การทอด การยำ หรือน้ำพริกปลาทูก็อร่อยสุดๆไปเลย

http://jobathome-parttimeholiday.blogspot.com/2015/03/blog-post_12.html
4. ปลาช่อน
แกงส้มปลาช่อน ปลาช่อนลุยสวน ห่อหมกปลาช่อน หรือต้มยำปลาช่อน เมนูปลาช่อนทั้งหลายเหล่านี้เป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคชาวไทยเป็นอย่างมาก เพราะเนื้อของปลาช่อนที่อร่อย และประโยชน์อีกเพียบขึงไม่น่าแปลกใจที่ปลาช่อนจะเป็นปลาที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทย
ปลาช่วยมีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ คือ ส่วนหัวค่อนข้างโต รูปร่างทรงกระบอกยาว ลำตัวสีคล้ำอมมะกอกหรือน้ำตาลอ่อน ปลาชนิดนี้มีโอเมก้า 3 สูงประมาณ 870 มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม ซึ่งถือว่ามีประโยชน์ไม่น้อยเลย
5. ปลาดุก
อาจจะมีบ้างที่บางคนไม่ชอบรับประทานปลาดุก เพราะไม่ชื่นชอบในกลิ่นหรือลักษณะของมัน เนื่องจากปลาดุกเป็นปลาที่ไม่มีเกล็ด ลำตัวยาว และมีหนวดยาว แต่สำหรับปลาชนิดนี้แล้วถือเป็นปลาอีกชนิดที่มีไขมันดีสูงไม่แพ้ปลาชนิดไหนๆ
ปลาชนิดนี้สามารถนำทำอาหารได้หลากหลาย เช่น
ปลาดุกทอดกรอบ ยำปลาดุกฟู ปลาดุกผัดฉ่า เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนมากมักจะเป็นเมนูที่มีรสชาติแรงเพื่อกลบความคาวของปลา
6. ปลาจะละเม็ดขาว
ปลาจะละเม็ดขาวเป็นปลาที่อาจจะไม่ได้ถูกนำมาบริภคบ่อยมากนัก เพราะเป็นปลาที่ราคาค่อนข้างสูง นิยมนำไปนึ่งหรือทอด ปลาชนิดนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เพราะมีรูปร่างทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน พบได้มากในทะเลทั้งฝั่งอ่าวไทย บริเวณหมู่เกาะอ่างทอง รวมถึงฝั่งทะเลอันดามัน
7. ปลาสำลี
ปลาสำลีอาจไม่ใช่ปลาที่นิยมนำมาทำอาหารกันมากมายนัก แต่ก็ถือเป็นปลาขนาดใหญ่ที่สามารถนำมาทำอาหารได้ ปลาสำลีมีลำตัวค่อนข้างยาว บริเวณสันท้องจะเป็นสีขาว นิยมนำไปทอด หรือทำปลาสามรส บางคนก็นำไปเผาแล้วทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ได้
8. ปลานิล
ปลานิลเป็นปลาที่สามารถอาศัยอยู่ได้ในน้ำจืดและน้ำกร่อย มีขนาดลำตัวใหญ่ และสามารถแพร่ขยายพันธุ์ได้ง่าย จึงเป็นที่นิยมในการเลี้ยงเป็นอาหาร
ปลานิลมีรสชาติดีสามารถนำปลานิลไปทำอาหารได้หลายอย่าง ทั้งทอด สามรส ราดพริก นึ่งซีอิ๊ว หรือนึ่งมะนาวก็ย่อมได้

9. ปลาเก๋า
ปลาเก๋าเป็นปลาขนาดใหญ่เช่นกัน ลักษณะยาว อ้วนป้อม มีสีตามตัว มีทั้งสีฉูดฉาดหรือสีคล้ำทึบแตกต่างกันตามชนิด เมนูยอดนิยมที่ฮิตติดปากก็คือ ปลาเก๋าราดพริก แต่จะนำไปทำปลาเก๋าสามรส ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว ปลาเก๋าผัดฉ่า หรือปลาเก๋าลวกจิ้มก็ได้ เพราะสามารถนำไปทำเมนูได้หลากหลาย
10. ปลากราย
เมื่อพูดถึงปลากราย เชื่อว่าส่วนใหญ่จะนึกถึงแต่ทอดมันปลากราย แต่ความจริงแล้วปลากรายสามารถนำไปทำเมนูอื่นได้อีก เช่น ผัดเผ็ดปลากราย เป็นต้น แม้จะเป็นปลารูปร่างไม่น่ากินแต่มีประโยชน์ไม่น้อยเลย
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยอาหารปลา หลากหลายพันธุ์ รสชาติอร่อย สารอาหารสูง และราคาไม่แพง ดังนั้น หากคุณกำลังมองหาโปรตีนคุณภาพดี อย่าลืมหันมารับประทานปลาไทยๆกันเยอะๆนะคะ