อย่ามองข้ามประจำเดือนผิดปกติ
ในทุกๆเดือน สาว ๆที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะต้องเป็นประจำเดือนหากมดลูกที่เตรียมไว้ไม่ได้ถูกฝังตัวด้วยไข่และอสุจิ ประจำเดือนจะไหลออกมาจากช่องคลอดเป็นประจำและเป็นสัญญาณตัวหนึ่งที่สามารถบ่งบอกสุขภาพของอวัยวะสืบพันธุ์ของคุณผู้หญิงได้
การมีประจำเดือนเป็นสิ่งที่คอยย้ำเตือนว่าคุณยังมีความปกติของระบบสืบพันธุ์ แต่ทั้งนั้งนั้นก็ต้องสังเกตลักษณะของประจำเดือนที่ไหลออกมาด้วยว่ามีความปกติหรือไม่ ว่าแต่ว่าคุณผู้หญิงทั้งหลายเคยสังเกตลักษณะของประจำเดือนของตัวเองกันบ้างหรือเปล่าค่ะ? หากยังไม่เคยหรือไม่คิดว่ามันน่าสนใจ จะต้องเปลี่ยนวิธีคิดกันสักหน่อยแล้ว เพราะความผิดปกติของประจำเดือนสามารถสะท้อนถึงสุขภาพร่างกายของเราได้ โดยหากเรารู้ถึงข้อผิดพลาดได้ก่อน ก็สามารถรักษาจุดบกพร่องเล็กๆน้อยๆ ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหาใหญ่และต้องไปรอพบแพทย์เพื่อรักษาตัวในอนาคต
ในวันนี้ เราจะมากล่าวถึงลักษณะของประจำเดือนที่ผิดปกติกัน ประจำเดือนแบบไหนที่คุณผู้หญิงต้องเร่งดูแลสุขภาพของตัวเองโดยด่วน ตามมาอ่านกันได้เลยค่ะ
ในเรื่องนี้เราขอหยิบยกข้อมูลจาก พญ.ชัญวลี ศรีสุโข สูตินรีเวชเชี่ยวชาญประจำโรงพยาบาลพิจิตร ซึ่งระบุข้อมูลโดยสรุปไว้ว่า
ประจำเดือน เป็นผลรวมของระบบฮอร์โมน ระบบประสาท และกายวิภาคของผู้หญิง สิ่งเหล่านี้สามารถสะท้อนถึงสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดี ดังนั้น หากเราสามารถสังเกตประจำเดือนของตัวเอง ตั้งแต่ “ปริมาณ” “อาการ” “การมาถึง” “การจากไป” “สีของประจำเดือน” ก็จะสามารถบ่งบอกถึงสุขภาพภายในของเราได้เป็นอย่างดี
ทำไมต้องไปสนใจประจำเดือนมากมายขนาดนั้น ก็เพราะเมื่อเกิดความผิดปกติของประจำเดือน สิ่งที่มักจะตรวจพบตามมา ก็คือ “โรค” ซึ่งโรคหลาย ๆ โรคที่เจอบ่อย ได้แก่ เนื้องอกในมดลูก ซึ่งเกิดได้บ่อยในผู้หญิงอายุมากกว่า 30 ปีที่ยังไม่มีลูกมัก โดยพบว่าในผู้หญิง 10 คน มีโอกาสจะเป็นโรคนี้สูงถึง 2-3 คนเลยทีเดียว นอกจากนี้ รองลงมาจะเป็นการอักเสบหรือติดเชื้อของมดลูก หรือกล่าวง่ายๆก็คือ ประจำเดือนเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับทุกระบบในร่างกายของผู้หญิง ดังนั้น อารมณ์ที่เปลี่ยนแปลง ภาวะเครียด ความอ้วน ความผอม โรคอื่นๆ เช่น โรคไทรอยด์ โรคติดเชื้อ โรคไต หรือโรคตับ ทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อประจำเดือนทั้งสิ้น
เมื่อรับรู้แล้วว่าประจำเดือนสำคัญมากแค่ไหน แล้วทำไมถึงต้องสังเกตมัน ก็ต้องมาเริ่มต้นเรียนรู้วิธีการสำรวจความผิดปกติของประจำเดือนที่ถูกวิธีกันเลย สิ่งที่ต้องสังเกตมีดังต่อไปนี้
- รอบการมาของประจำเดือน ผู้หญิงปกติจะมีรอบการมาของประจำเดือนอยู่ในช่วง 21-35 วัน และต่อการมีประจำเดือน 1 รอบจะมีประจำเดือน 3-7 วัน การใช้ผ้าอนามัยขนาดธรรมดาไม่เกิน 16 แผ่น หรือคิดเป็นปริมาณของเลือดประจำเดือนต่อรอบไม่ควรเกิน 80 ซีซี
สำหรับใครที่มีปริมาณประจำเดือนที่มากกว่านี้ มาติดกันตลอดทั้งเดือนหรือขาดประจำเดือนมากกว่า 1 รอบ แสดงว่าร่างกายเริ่มผิดปกติ อาจมีความเครียดหรือมีโรคบางอย่างเกิดขึ้น จึงควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน
- สีประจำเดือน สิ่งที่สังเกตได้ง่ายมากที่สุด ก็คงจะเป็นสีของประจำเดือน ซึ่งเป็นเลือดร่วมกับบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดลอกออกมาหลังจากที่ไม่มีการฝังตัวของตัวอ่อน หากเป็นอาการปกติ สีของประจำเดือนจะมีสีแดงคล้ำ แต่หากไม่ใช่สีนี้สามารถแสดงอาการที่ผิดปกติได้ ดังนี้
2.1) สีแดงสด ใครมีประจำเดือนสีนี้ให้เฝ้าระวังการเป็นมะเร็งปากมดลูก การมีเนื้องอกข้างในมดลูก และอาการตกเลือด
2.2) สีแดงจางหรือชมพูอ่อน อาจะเป็นเพราะคุณอยู่ในภาวะเลือดจาง ทำให้สีของประจำเดือนจางลงด้วย ต้องรับประทานวิตามินเสริมเพื่อเพิ่มธาตุเหล็ก หรืออาจเป็นไปได้ว่าอยู่ในภาวะที่ฮอร์โมนผันผวน แต่ในอีกความหมายหนึ่งก็อาจหมายถึงสัญญาณเตือนของการตั้งครรภ์ได้ด้วย
2.3) สีช้ำเลือดช้ำหนองหรือสีเหมือนน้ำคาวปลา อาจเกิดอาการอักเสบภายใน ต้องลองให้คุณหมอตรวจสอบดู
3. ก้อนเลือดขนาดใหญ่ ประจำเดือนที่ดีไม่ควรมีก้อนเลือด แต่หากผู้หญิงคนไหนมีประจำเดือนในลักษณะที่เป็นก้อนเลือด นัยหนึ่งอาจบอกว่าสวมกางเกงยีนรัดรูปมากเกินไป มีผลให้เลือดไหลเวียนไม่ดี และเกิดการคลั่งสะสมกันเป็นก้อน อย่างไรก็ตาม หากก้อนเลือดที่เกิดขึ้นยังมีขนาดเล็กก็ยังไม่น่าเป็นกังวลเท่าไร แต่หากก้อนเลือดมีขนาดใหญ่มากกว่า 2 เซนติเมตรขึ้นไป ถือว่าผิดปกติอย่างมาก ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วน
แม้ว่าประจำเดือนจะเป็นอาการที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดของคุณผู้หญิง แต่เมื่อใดก็ตามที่มันขาดหายไป อาจหมายถึงโรคร้ายที่อาจตามมาได้ในอนาคต ดังนั้น การเข้าใจและคอยสำรวจตัวเองอยู่เสมอจึงกลายเป็นสิ่งที่ผู้หญิงทุกคนหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ชอบอาการในขณะที่มีประจำเดือนมากแค่ไหน แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้หญิงต้องยอมรับ เพราะประจำเดือนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน และเชื่อโยงกับอวัยวะสืบพันธุ์หลายๆส่วน ผู้หญิงทุกคนที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จึงลืมไม่ได้กับการสังเกตตัวเองในเรื่องนี้
เป็นสิ่งที่เราเตือนคุณผู้อ่านทุกท่านอยู่เสมอ ว่าไม่ควรหลงลืมการดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณใดๆก็ตามที่ร่างกายแสดงออกมา ก็ต้องรู้จักสังเกตและดูแลร่างกายของเราให้ดีที่สุด ก่อนที่โรคร้ายจะมาเยือน และทำให้ชีวิตของคุณสั้นลง ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารมีประโยชน์ การออกกำลังกาย การทำจิตใจให้สบายล้วนแต่ช่วยเราได้ทั้งนั้น
