“ผมร่วง ผมบาง” จัดเป็นอาการที่แสดงออกได้ไม่เท่ากันในแต่ละบุคคล ซึ่งสาเหตุหลักๆก็มาจากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นจากสิ่งแวดล้อมภายนอก หรือความเครียดภายในของแต่ละคน ซึ่งล้วนเป็นกระจกสะท้อนออกมาผ่านทางการหลุดร่วงของเส้นผมบนหนังศีรษะทั้งสิ้น

    บางคนอาจจะเคยได้ยินว่า “เส้นผมของคนเรานี้มีการงอกและหลุดร่วงเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติอยู่แล้ว” แต่อาจจะยังไม่ทราบดีว่าสมดุลการงอกและหลุดร่วงที่เหมาะสมนี้ควรเป็นอย่างไร ซึ่งหากจะให้อธิบายวงจรของเส้นผมง่ายๆ ก็คือ เส้นผมมีวงจรชีวิตอยู่ในช่วง 2 -6 ปีโดยประมาณ และส่วนใหญ่ผมจะยาวขึ้นประมาณครึ่งนิ้วต่อเดือน ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ 90 % ของปริมาณเส้นผมบนหนังศีรษะจะอยู่ในช่วงที่กำลังเจริญเติบโต และอีก 10% จะอยู่ในระยะพักตัว เส้นผมที่อยู่ในระยะพักนี้จะไม่เจริญเติบโตต่อไปอีก และหลังจากนั้นอีก 2 ? 3 เดือนก็จะร่วงหลุดไปก่อนที่จะมีเส้นผมสั้นๆเส้นใหม่เจริญขึ้นมาแทน ฉะนั้น หากจะมีอะไรก็ตามที่มาขัดขวางการเจริญเติบโตของเส้นผมเส้นใหม่ หรือเร่งให้เส้นผมนั้นๆเข้าสู่ระยะพักได้เร็วขึ้น ก็จะเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณเกิดอาการผมร่วงหรือผมบางลงได้ง่ายกว่าเดิมนั่นเอง

    สาเหตุที่สำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการหลุดร่วงของเส้นผมสาเหตุแรกเกิดขึ้นได้จากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น การใช้สารเคมีที่รุนแรงในการย้อมผม กัดสีผม ดัดผม หรือการยืดผม เป็นต้น ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ล้วนส่งผลให้รากผมเกิดการอ่อนแอหรืออักเสบ จนกระตุ้นให้เกิดอาการผมร่วงได้ง่าย สาเหตุต่อมาเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนร่างกาย เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด หญิงในวัยหมดประจำเดือน การตั้งครรภ์ หรือหญิงที่ได้รับการผ่าตัดเอามดลูกและรังไข่ออกไป เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นแม่สู่รุ่นลูก หรือแม้กระทั่งการขาดแคลนสารอาหารบางอย่าง ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผมขาดหลุดร่วงได้เช่นเดียวกัน

    ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์ที่เหมาะสม จึงน่าจะเป็นวิธีที่ช่วยเติมเต็มเส้นผมบนหนังศีรษะของคุณได้ แต่จะมีอาหารอะไรบ้างนั้น ตามมาดูได้เลยค่ะ

    อาหารชนิดแรกที่จะช่วยต้านการหลุดร่วงของเส้นผมได้เป็นอย่างดี ได้แก่ “ปลาแซลมอน” ปลาสัญชาติญี่ปุ่นที่อุดมไปด้วยกรดไขมันที่จำเป็นอย่างโอเมก้า 3 (omega  3 fatty acid) นอกจากนี้ แซลมอนยังจัดเป็นโปรตีนที่มีคุณภาพดี ย่อยง่าย และให้วิตามินหรือแร่ธาตุที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตทั้งวิตามินบี 12 และธาตุเหล็ก หากสำรวจจากสถิติการเกิดผมร่วงของประชากรบนโลกนี้ จะพบว่า “ชาวญี่ปุ่นมีอัตราการเกิดผมร่วงที่ต่ำกว่าประชากรในประเทศแถบตะวันตกและนับว่าต่ำมากที่สุดในประเทศทั้งหมดในทวีปเอเซีย” ข้อมูลที่กล่าวมานี้จึงน่าจะเป็นเหตุผลสนับสนุนที่บอกได้เลยว่า การรับประทานปลาแซลมอนช่วยลดอาการผมร่วงได้จริง

    อาหารชนิดที่สองที่ช่วยลดอาการผมบางได้ดีไม่แพ้อาหารชนิดแรกก็คือ “อาหารจำพวกถั่วหรืออัลมอนด์” เนื่องมาจากอาหารประเภทนี้อุดมไปด้วยโปรตีนคุณภาพดี ใครก็ตามที่เป็นมังสวิรัติก็สามารถรับประทานได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ยังได้ของแถมเป็นธาตุเหล็ก วิตามินอี สังกะสีและไบโอตินด้วย อีกทั้งการรับประทานถั่วหรืออัลมอนด์ก็ยังสามารถช่วยลดไขมันและคอเลสเตอรอลส่วนเกินที่ร่างกายไม่ต้องการได้ดีอีกด้วย ใครที่ต้องการเสริมความแข็งแรงที่ดีให้แก่เส้นผม แนะนำให้รับประทานอัลมอนด์พร้อมเปลือกวันละประมาณ 20 เม็ด จะช่วยให้เส้นผมมีขนาดใหญ่ขึ้นและยาวเร็วขึ้น หรือหากไม่ชอบรับประทานอัลมอนด์ก็อาจหันมาลองดื่มน้ำนมถั่วเหลืองประมาณ 1 ลิตรต่อวันแทน ก็จะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงได้เช่นเดียวกัน

    ผักใบเขียว เช่น ผักโขม หรือบล็อคโครี่ เป็นต้น ก็จัดเป็นแหล่งอาหารที่มีวิตามิน A และ วิตามิน C ในปริมาณที่สูง ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายนำไปใช้ในการผลิตไขมันและน้ำมันจากรากขน เพื่อหล่อเลี้ยงเส้นผมให้แข็งแรงและเงางามได้ เสริมท้ายด้วยธาตุเหล็กและแคลเซียมที่เป็นผลดีต่อการบำรุงทั้งเลือดและกระดูกเช่นกัน

    อาหารหมวดหมู่ต่อมาที่ส่งเสริมให้รากผมแข็งแรงก็คือ “ไข่” แหล่งโปรตีนคุณภาพสูงที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 12 และไบโอตินที่มีความสำคัญต่อการบำรุงเส้นผมเป็นอย่างมาก

    หรือถ้าใครยังอยากเสริมความแข็งแรงให้แก่เส้นผมมากขึ้นอีกก็ควรรับประทานอาหารจำพวก “ธัญพืช” ทั้งที่เป็นในรูปแบบของขนมปังโฮลวีทหรือซีเรียลก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ซึ่งอาหารในกลุ่มนี้ล้วนประกอบไปด้วยวิตามินบีที่มีความสำคัญอย่างมากในการเจริญของเส้นผม อีกทั้งยังมีธาตุเหล็กและสังกะสีที่ช่วยบำรุงอวัยวะต่างๆภายในร่างกาย ประกอบกับใยอาหารที่มีส่วนช่วยในการขับถ่าย ทำให้อิ่มได้นาน และช่วยควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

    นอกเหนือจากอาหารที่กล่าวมานี้ ยังมีอีกหลายชนิดที่ช่วยต้านอาการผมร่วงได้อีก เช่น หอยนางรม ส้ม แครอท หรือข้าวโอ๊ต เป็นต้น อย่างไรก็ดี การเลือกรับประทานอาหารทุกๆชนิดก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ เพื่อให้สามารถดึงเอาคุณค่าภายในของมันออกมาให้ได้มากที่สุด และก็ควรรับประทานอาหารให้ได้หลาหหลายเพื่อเสริมคุณประโยชน์ที่ดีในทุกๆด้าน ไม่ใช่แต่เพียงเฉพาะ “การต้านผมร่วง” เพียงเท่านั้น