อีฟนิ่งพริมโรส (Evening primrose) จัดเป็นพืชหรือสมุนไพรพื้นเมืองที่มีถิ่นกำเนิดในแถบทวีปอเมริกาและมีการแพร่พันธุ์กระจายไปทั่วทุกมุมโลกรวมไปถึงในทวีปเอเชียของเรา ในสมัยก่อน คนโบราณนิยมนำต้นและรากของสมุนไพรชนิดนี้มาใช้ในการรักษาหรือบรรเทาอาการฟกช้ำ แก้ไอ แก้ปวดท้อง หรือรักษาโรคริดสีดวงทวาร แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มีคุณประโยชน์อันแสนวิเศษแอบแฝงอยู่ นั่นก็คือ ความสามารถในการรักษาโรค ซึ่งได้จากการสกัดน้ำมันออกมาจากเมล็ดของต้นอีฟนิ่งพริมโรสนี้นี่เอง

ในเมล็ดของอีฟนิ่งพริมโรสมีน้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดไขมันอันแสนพิเศษถึงสองชนิดด้วยกัน ซึ่งกรดไขมันทั้งสองชนิดนี้ล้วนเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายจำต้องได้รับเข้าไป เพื่อประโยชน์ในการขับเคลื่อนอวัยวะต่างๆให้ทำงานได้อย่างเป็นปกติสุข
กรดไขมันชนิดแรกมีชื่อว่า “กรดไลโนลิอิค (Linoleic acid)” ซึ่งทำหน้าที่ในการเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งในชั้นไขมันภายในร่างกายมนุษย์ ดังนั้น การมีอยู่ของกรดไขมันชนิดนี้ จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันไม่ให้ผิวหนังเกิดอาการแห้ง เป็นขุย หรือหยาบกร้านได้
ส่วนกรดไขมันตัวที่สองก็มีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากรดไขมันตัวแรกเลย กรดไขมันตัวนี้มีชื่อว่า “กรดแกมมาลิโนเลนิก (Gamma linolenic acid )” หรือที่นิยมเรียกสั้นๆฟังติดหูกันว่า “GLA” กรดไขมันชนิดนี้ปรากฎอยู่ในน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสสูงถึง 7-10% จากหลักฐานสนับสนุนทางวิทยาศาสตร์ กล่าวได้ว่า กรดไขมันชนิดนี้มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก เนื่องจาก เมื่อเรารับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสเข้าไป GLA จะถูกเปลี่ยนสภาพไปจนกลายเป็นสารประกอบที่มีลักษณะคล้ายกับฮอร์โมน “พรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) และ ลูโคเทเรียน (Leukotriene)” ที่มีอยู่เดิมในร่างกาย เปรียบเสมือนตัวช่วยที่คอยเสริมหรือชดเชยเอนไซม์ที่ร่างกายขาดหายไป ซึ่งส่งผลในการเสริมฤทธิ์การต่อต้านการอักเสบในร่างกาย และส่งผลให้สามารถบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้หลากหลายประการ เช่น การขยายหลอดเลือด การบำรุงเส้นผม การเพิ่มความเปร่งปรั่งของผิวพรรณ การลดอาการคันตามผิวหนังจากการขึ้นผื่น และการรักษาโรคผิวหนังเนื่องจากความผิดปกติของต่อมไขมัน เป็นต้น
อีกทั้ง สาวๆคนไหนที่มักมีอาการปวดท้องอย่างทุกข์ทรมานในช่วงก่อนหรือระหว่างการมีประจำเดือน ก็สามารถใช้น้ำมันจากดอกอีฟนิ่งพริมโรสในการบรรเทาความทุกข์ทรมานนี้ได้เช่นกัน ซึ่งหากต้องการให้สามารถควบคุมอาการปวดท้องได้แบบเต็มที่ แนะนำให้รับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสร่วมกับ วิตามินที่เป็นแบบ Multivitamin หรือวิตามินที่ประกอบไปด้วยสารอาหารหลากหลายชนิดทั้งสังกะสี(zinc), วิตามินซี (vitamin C), วิตามินบีรวม (vitamin B-complex) และ แมกนีเซียม (magnesium) ก็จะยิ่งช่วยเสริมให้ประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดท้องดีมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสก็ยังสามารถลดการปวดคัดเต้านมซึ่งมาจากสาเหตุของการปวดประจำเดือนได้เช่นเดียวกัน
จากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้น ส่งผลให้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสถูกใช้ในมนุษย์ได้ในหลายๆด้าน ทั้งการนำไปเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์จำพวกโลชั่นทาผิว สบู่ แชมพู และ ลิปสติก เพื่อช่วยบำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้นและไม่แตกแห้ง หรืออาจใช้เป็นยาเพื่อลดระดับโคเลสเตอรอล ลดโรคอ้วน ป้องกันการเกิดโรคหัวใจ บรรเทาอาการแทรกซ้อนในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ช่วยในการทำงานของระบบประสาทและสมอง บรรเทาอาการหอบหืด บรรเทาอาการไมเกรน ลดอาการผมร่วง รักษาผิวหนังอักเสบ ป้องกันโรคมะเร็งเต้านม ช่วยลดอาการต่างๆที่เกี่ยวข้องกับวัยหมดประจำเดือน บรรเทาอาการข้ออักเสบรูมาตอยด์ และรักษาอาการหมดแรงหลังการติดเชื้อไวรัส เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ผสมกับน้ำมันหอมระเหยเพื่อนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อหรือบำรุงผิวพรรณให้เปร่งปรั่งมากขึ้นได้เป็นอย่างดี
จะเห็นได้ว่าน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสที่กล่าวมานี้ชั่งมีประโยชน์เสียมากมายหลายด้าน อย่างไรก็ตาม ในผู้บริโภคบางราย เช่น สตรีมีครรภ์ สตรีที่กำลังให้นมบุตร ผู้ป่วยโรคลมชัก ผู้ป่วยลมบ้าหมู เป็นต้น ก็ควรงดเว้นการรับประทานน้ำมันชนิดนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิต อีกทั้ง ผู้บริโภครายอื่นๆก็ควรที่จะต้องศึกษาข้อมูลการใช้งานอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะซื้อมาบริโภค หรือถ้าเป็นไปได้ก็ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน และถ้าหากใช้ไปสักพักแล้วเกิดมีอาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ ป้องท้อง เป็นต้น ก็ควรต้องหยุดรับประทานโดยทันทีและเข้าพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการให้ละเอียดอีกครั้งเสียก่อน
นอกจากนี้ การใช้น้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆก็อาจเกิดผลเสียต่อร่างกายได้บ้างเล็กน้อย จากงานวิจัยกล่าวไว้ว่า 2% ของคนที่ได้รับน้ำมันติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะพบอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเวียนหัวร่วมด้วยได้
ฉะนั้น เพื่อลดอาการข้างเคียงแนะนำให้รับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสไปพร้อมๆกับอาหารเลย จะช่วยให้สามารถลดอาการข้างเคียงได้เห็นผลดีมากที่สุด
เมื่อทราบถึงประโยชน์ที่แสนวิเศษของน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรสกันแล้ว ก็ลองไปหาซื้อมารับประทานดูได้นะคะ หากมั่นใจแล้วว่าไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากการรับประทานน้ำมันอีฟนิ่งพริมโรส ทั้งนี้ ก็จะต้องสังเกตเครื่องหมายรับรองคุณภาพอย่างเครื่องหมาย อ.ย. ให้ดีเสียก่อนที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ด้วย เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าเราจะไม่ถูกผู้ผลิตหัวใสหลอกได้ง่ายๆนั่นเอง