เสริมความงาม

เคล็ดลับคิ้วเข้ม

เคล็ดลับคิ้วเข้ม

ใครๆก็ล้วนแต่อยากจะมีหน้าตาที่สวยงามหรือหล่อเหลาเพื่อดึงดูดคนรอบข้างกันทั้งนั้น แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถทำได้สมใจปรารถนา มีใบหน้าที่สมบูรณ์ตั้งแต่เกิด อย่างไรก็ตาม คนเราสามารถที่จะพัฒนาให้ตัวเองดูดีขึ้นได้ซึ่งส่วนหนึ่งของการพัฒนาให้ตัวเองดูดีมากขึ้นก็คือการดูแลคิ้ว ซึ่งถือเป็นมงกุฎของใบหน้า วิธีการดูแลคิ้วสามารถทำได้หลากหลายวิธีตั้งแต่การเขียนด้วยดินสอเขียนคิ้ว หรือการสักคิ้วเพื่อให้คิ้วมีรูปทรงและสีที่เข้มขึ้น จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการเขียนคิ้วอีกต่อไป

แต่ละรูปแบบก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน หากคุณยอมรับได้ถึงข้อเสียของวิธีการต่างๆ คุณก็มักจะเลือกใช้วิธีนั้นๆ แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการที่จะสักคิ้วหรือไม่ต้องการที่จะเจ็บปวดเพื่อให้ได้มาซึ่งความสวยงาม วิธีการบ้านๆที่สามารถช่วยทำให้คิ้วของคุณดกดำเข้มก็มีอีกหลายวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ธรรมชาติเข้าช่วย

วันนี้เราจะมาลองสรุปให้ฟังกันว่าวิธีใดบ้างที่ช่วยให้คุณดูดีขึ้นได้อย่างง่ายๆ ด้วยการทำให้ขนคิ้วของคุณดูดกดำมากขึ้น

เคล็ดลับคิ้วเข้ม
เคล็ดลับคิ้วเข้ม — ภาพจาก : https://www.xn--12ct2ati9ansu2bzd9eyduf.com/2016/04/blog-post_7.html

วิธีแรกเป็นวิธีที่ใช้ของใกล้ตัวที่ชื่อว่า ‘วาสลีนเจล’ เดิมทีตัววาสลีนอาจไม่ใช่เครื่องมือที่ใช้กับคิ้วเพื่อเพิ่มความดูดีให้แก่คิ้ว แต่โดยส่วนใหญ่มักจะใช้ในการทาปากเพื่อป้องกันไม่ให้ปากแห้งมากกว่า อย่างไรก็ตาม สามารถจะนำสิ่งนี้มาปรับใช้กับการทําให้ขนคิ้วดกดำขึ้นได้ รวมไปถึงการใช้กับขนตาก็ได้เช่นเดียวกัน วิธีการใช้วาสลีนเจลในการเพิ่มความสวยงามของขนคิ้วก็คือ การหมั่นทาวาสลีนเจลลงไปที่คิ้วหรือขนตาทุกวัน วันละ 2 เวลาทั้งตอนเช้าและก่อนเข้านอน การทาวาสลีนเจลบ่อยๆจะช่วยให้ขนคิ้วของคุณดูเข้มขึ้นได้

นอกเหนือจากการใช้วาสลีนเจลแล้ว การใช้น้ำมันก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ขนคิ้วของคนเพิ่มความเข้มขึ้นได้เช่นกัน โดยน้ำมันที่เราเลือกใช้จะเป็น ‘น้ำมันละหุ่ง’ ซึ่งเชื่อกันว่าน้ำมันตัวนี้สามารถช่วยให้คิ้วดกดำมากขึ้นได้ หากคุณยังไม่ทราบว่าจะสามารถซื้อน้ำมันละหุ่งได้จากที่ใด เราขอบอกว่าน้ำมันตัวนี้สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา วิธีการใช้ก็เช่นเดียวกันกับวาสลีนเจลคือการมันทาน้ำมันละหุ่งที่คิ้วบ่อยๆ ทั้งเช้าและเย็น ก็จะช่วยบำรุงให้ขนคิ้วดกดำมากขึ้นกว่าเดิมได้ หรือถ้าใครอยากจะใช้น้ำมันตัวอื่นก็ได้เช่นกันน้ำมันอีกหนึ่งตัวที่มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของความสวยงามก็คือ ‘น้ำมันมะพร้าว’ ซึ่งสามารถบำรุงได้ทั้งผมและขนคิ้ว การใช้น้ำมันมะพร้าวจะช่วยให้รากผมหรือรากขนมีความแข็งแรงมากขึ้น แน่นอนว่าหากรากมีความแข็งแรงก็ย่อมทำให้ขนคิ้วมีความแข็งแรงเช่นเดียวกัน

มาต่อกันที่พืชหรือต้นไม้ที่มีคุณสมบัติรอบด้านอย่าง ‘ว่านหางจระเข้’ กันบ้าง ว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติที่ดีหลายประการ ไม่ว่าจะนำไปรับประทานเพื่อแก้โรคต่างๆ หรืออีกด้านหนึ่งของความสวยงามก็คือ การนำเจลว่านหางจระเข้มาทาที่คิ้วเพื่อเพิ่มความดกดำ แต่ข้อควรระวังที่คุณควรที่จะรู้ก็คือ ก่อนที่จะนำเอาเจลมาใช้จะต้องล้างเอาน้ำยางออกให้หมดก่อน มิเช่นนั้นอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองและแพ้ได้ นอกจากคิ้วจะไม่สวยแล้วอาจจะทำให้เกิดแผลเป็นบริเวณคิ้วก็เป็นได้

เมื่อดูแลภายนอกกันไปแล้ว ก็ต้องหันมาดูแลตัวเองจากภายในด้วย ซึ่งวิธีการดูแลตัวเองจากภายในก็คือ การหาอาหารที่มีคุณภาพประโยชน์มารับประทานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งก็มีวิตามินและแร่ธาตุหลายๆอย่างที่มีผลต่อการบำรุงเส้นขน ยกตัวอย่างเช่น วิตามินเอ วิตามินซี หรือวิตามินอี วิตามินเหล่านี้เป็นวิตามินที่มีอยู่ในอาหารซึ่ งคุณจำเป็นจะต้องศึกษาว่าอาหารตัวไหนที่มีวิตามินเหล่านี้สูงก็ให้หามารับประทานซะ จะได้ช่วยบำรุงเส้นขนทั้งขนคิ้วและเส้นผมให้แข็งแรงและสวยงามตลอดทั้งร่างกาย

นอกจากนี้ สิ่งหนึ่งที่คุณสามารถทำได้ทุกวันก็คือการทำความสะอาดคิ้ว โดยเราแนะนำให้ทำความสะอาดคิ้วเป็นประจำทุกวันระหว่างการอาบน้ำ แม้ว่าจะผ่านการเขียนหรือไม่เขียนคิ้วก็ตาม เพราะคิ้วเป็นส่วนที่รองรับความสกปรกจากเหงื่อไคลและฝุ่นละอองมาตลอดทั้งวัน การทำความสะอาดที่คิ้วเป็นประจำนอกจากจะช่วยให้ผิวหนังสะอาดและยังทำให้ขนคิ้วเจริญเติบโตได้มากขึ้นด้วย และหลังจากขั้นตอนการอาบน้ำแล้วก็อย่าลืมที่จะเช็ดให้สะอาดและแห้งหมาด พร้อมหวีขนาดเล็กเพื่อหวีขนให้เป็นไปตามแนว ห้ามหวีทวนแนวเพราะจะทำให้ขนคิ้วหลุดร่วงง่ายขึ้นได้ แค่การหวีสางขนคิ้วเป็นประจำก็จะช่วยให้คิ้วดกดำขึ้นได้อย่างง่ายดายแล้ว

สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงวิธีการคร่าวๆที่เราอยากจะแนะนำให้คุณนำไปใช้กันดู เพราะเชื่อว่าหากมีการบำรุงที่ถูกวิธี บำรุงด้วยความเอาใจใส่อย่างดี ก็ย่อมจะช่วยให้คุณได้รับสิ่งตอบแทนที่สมกับความตั้งใจที่วางเอาไว้ ขอให้ทุกคนมีความสุขกับดูแลตัวเองในทุกๆวันนะคะ พวกเราเป็นกำลังใจให้พวกคุณดูแลสุขภาพของตัวเองให้ดีขึ้นในทุกๆวันนะคะ

Sending
User Review
0 (0 votes)