อายุไม่ใช่แค่ตัวเลข
ความแก่ที่เพิ่มขึ้นทุกปีทำให้คุณเหนื่อยง่ายมากขึ้นหรือเปล่า? อ้วนมากขึ้นบ้างมั๊ย? สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณปฏิเสธไม่ได้ เพราะอย่างไรก็ต้องพบเจอมันตลอด และยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่ความเสื่อมของร่างกายก็จะเพิ่มมากขึ้นๆทุกปี เมื่อร่างกายมีการเติบโตจนเข้าสู่วัยกลางคน อายุที่เพิ่มมากขึ้นจะกลายเป็นอุปสรรคที่ทำให้ร่างกายของเราอาจจะไม่แข็งแรงดังเดิม จากที่เคยเป็นคนไม่อ้วนก็อาจจะอ้วนขึ้นได้ แม้ว่าจะยังคงรับประทานอาหารในปริมาณเท่าเดิม โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีอายุเข้าสู่เลข 3 ปัญหาที่เกิดขึ้นจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะประสิทธิภาพการทำงานของระบบเผาผลาญอาหารของร่างกายจะลดลงเรื่อยๆ ด้วยเหตุนี้เองเราจึงต้องหาวิธีการดูแลตัวเอง เพื่อจะทำให้ร่างกายเสื่อมช้าที่สุด ด้วยกลวิธีต่างๆเหล่านี้ เราเชื่อแน่ว่าจะทำให้คุณยังดูแข็งแรงได้แม้จะมีอายุที่มากขึ้นแล้วก็ตาม เพราะมันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบการเผาผลาญอาหารในร่างกาย จนดูอ่อนเยาว์แบบที่คุณคาดไม่ถึง
วัยกลางคนที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปจะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงทั้งการดำเนินชีวิตและสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะในคุณผู้หญิงแล้ว ย่อมเป็นเพศที่ใช้ร่างกายกายภายในอย่างหนัก เช่น จากการตั้งครรภ์ การให้นมบุตร เป็นต้น ดังนั้น เมื่อมีอายุมากขึ้นแม้เราจะรับประทานอาหารไม่ต่างจากเดิม แต่กลับกลายเป็นอาการอ้วนลงพุง หรือป่วยเป็นโรคต่างๆได้ง่ายขึ้น และการลดน้ำหนักได้กลายเป็นเรื่องยากลำบาก เพราะประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารของร่างกายที่ลดลง
การที่ร่างกายจะต้องเผชิญหน้ากับปัญหาที่กล่าวข้างต้นนี้ ย่อมทำให้การลดน้ำหนักเป็นสิ่งที่ยากขึ้นกว่าเดิม และด้วยความที่อายุที่มากขึ้น หน้าที่การงานก็มักจะมากขึ้นตามไปด้วย การจะหาเวลาออกกำลังกายก็คงจะเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายอีกต่อไปแล้ว เราจะทำยังไงที่จะควบคุมไม่ให้น้ำหนักของเรามากเกินกว่ามาตรฐานแม้ว่าจะมีเวลาการออกกำลังกายที่ลดลง วันนี้เราจะมาลองพูดถึงเทคนิคการควบคุมน้ำหนัก เพื่อเพิ่มระบบการเผาผลาญอาหารของร่างกายให้ดีขึ้นกันค่ะ
เทคนิคในการเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายมีอยู่หลากหลายวิธี ลองทำตาม Step ต่อไปนี้แล้วคุณ ก็ลองสังเกตการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ว่าวิธี ไหนที่เหมาะสมกับคุณมากที่สุด ทั้งนี้ เทคนิคสำคัญ คือจะต้องเพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารให้ดีขึ้น เพื่อให้อาหารที่รับประทานเข้าไปถูกใช้ให้พอดีกับความต้องการของร่างกาย ไม่เหลือสะสมไปเป็นไขมัน ด้วยวิธีการง่ายๆที่ช่วยให้ร่างกายเบิร์นพลังงานได้มากขึ้น ดังต่อไปนี้
1. สร้างกล้ามเนื้อเพื่อลดไขมัน ตามทฤษฎีแล้ว คนที่มีมวลกล้ามเนื้อมากกว่า จะมีความสามารถในการเผาผลาญพลังงานได้มากกว่า ดังนั้น ต้องเริ่มจากการสร้างกล้ามเนื้อก่อน ดังนั้น แม้คุณจะออกกำลังกายเท่าเดิม แต่ถ้าใครมีปริมาณของกล้ามเนื้อในร่างกายมากกว่า ก็ย่อมช่วยให้เกิดการเผาผลาญได้ดีกว่า
2. ดื่มน้ำเพื่อลดไขมัน ในส่วนต่อมาก็คือการดื่มน้ำ เนื่องจากในปัจจุบันคนเรามักจะให้เวลากับการดูแลตัวเองน้อยลง แค่การดื่มน้ำระหว่างวันบางคนอาจจะยังไม่สามารถที่จะทำได้เลย เพราะฉะนั้น ถ้าอยากจะเริ่มต้นควบคุมน้ำหนักที่ดี การดูแลร่างกายด้วยการดื่มน้ำจึงเป็นสิ่งที่ควรทำก่อน เมื่อร่างกายขาดน้ำจะทำให้คุณขาดพลังงานและทำให้รู้สึกหิวได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้น หากรู้สึกหิวเมื่อไรลองดื่มน้ำก่อนบางทีแล้วร่างกายอาจจะไม่ได้ต้องการพลังงาน แต่แค่ต้องการน้ำทิ้งเท่านั้น ถ้าคุณตอบโจทย์ร่างกายได้ถูกต้อง การควบคุมน้ำหนักก็เป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป

3. ออกท่าทางเพื่อลดไขมัน ต่อมาจะเป็นในเรื่องของการฝึกท่าทางให้เหมาะสม ว่ากันว่าการนั่งหรือการเดิน ในชีวิตประจำวันมีผลต่อระดับพลังงานใดทั้งสิ้น เพียงแค่คุณลองออกกำลังกายในตอนเช้าหรือเพิ่มการออกกำลังกายระหว่างวัน เช่น การเดินขึ้นลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ เป็นต้น ก็จะช่วยให้เกิดการกระตุ้นการเผาผลาญพลังงานระหว่างวัน และช่วยให้คุณมีน้ำหนักที่ลดลงได้
4. ควบคุมคาเฟอีนเพื่อลดไขมัน สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟ ต้องรู้ไว้สักหน่อยว่าคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ อาจจะมีผลให้คุณเกิดอาการขาดน้ำหรือรู้สึกอ่อนเพลียระหว่างวันได้ ดังนั้น หากเป็นไปได้ก็ควรที่จะควบคุมปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวันไม่ให้เกินไปกว่าร่างกายต้องการ หรือพยายามควบคุมปริมาณการดื่มกาแฟให้ไม่เกินวันละ 1-2 แก้วนั่นเอง
5. เลือกทานอาหารเช้าเพื่อลดไขมัน หลายคนบอกว่าอาหารเช้าสำคัญ แต่คุณรู้หรือไม่ว่าการที่เรารับประทานอาหารเช้าในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงปริมาณแคลอรี่ในร่างกายได้ การที่คุณทานอาหารเช้าหนักๆอาจจะทำให้คุณรู้สึกขี้เกียจไปตลอดวัน หรืออยากจะนอนมากกว่าที่จะทำกิจกรรมอื่นๆก็เป็นได้
6. ออกกำลังกายเพื่อลดไขมัน สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้สำหรับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักก็คือ การออกกำลังกาย การออกกำลังกายที่ดีไม่จำเป็นต้องหนักจนเกินกว่าร่างกายจะรับไหว แต่ควรจะเป็นการออกกำลังกายที่ทำเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง และเป็นการออกกำลังกายด้วยท่าทางที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้ทำลายอวัยวะบางอย่างในร่างกายถูกทำร้าย
หากคุณยังสามารถดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่ว่าอายุจะมากเท่าไหร่ การมีสุขภาพที่ดีก็สามารถเกิดขึ้นได้กับคนในทุกวัย…รวมถึงคุณด้วยค่ะ