วิธีเคลียจมูก

ในภาวะที่ประเทศไทยต้องเผชิญกับฝุ่นพิษที่แสนอันตราย หน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ทิชชู่เปียกอาจจะไม่เพียงพอที่จะปกป้องคุณต่ออากาศที่โหดร้ายแบบนี้ ฝุ่นละอองสามารถทำให้คุณรู้สึกหายใจไม่สะดวก หายใจติดขัด หรืออาจจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้มากมาย การดูแลตัวเองด้วยวิธีต่างๆจึงมีความจำเป็นที่จะทำให้คุณสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้นกว่าเดิม

หนึ่งในวิธีที่วันนี้เราจะขอนำเสนอ คือ การเคลียร์ช่องลำคอและจมูก เพื่อทำให้การหายใจเป็นไปได้อย่างสะดวกมากขึ้น หรือทำให้เสมหะในลำคอจางหายไปได้นั่นเอง ซึ่งคงจะทำให้คุณสามารถที่จะหายใจได้อย่างสดชื่นได้มากยิ่งขึ้น หากใครที่มักจะมีอาการคันคอ มีเสมหะข้นเหนียวอยู่ตลอดเวลา เราขอแนะนำให้คุณลองปฏิบัติตามวิธีการต่อไปนี้ดูค่ะ มันอาจจะช่วยให้คุณหายใจได้สะดวกมากขึ้นกว่าเดิมได้

1. การดื่มน้ำเปล่า น้ำเปล่าเป็นเสมือนยาวิเศษที่สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ เพียงแค่ดื่มน้ำเปล่าในปริมาณมากก็จะทำให้คุณสามารถที่จะละลายเสมหะในลำคอลงได้บ้าง โดยอุณหภูมิของน้ำก็ควรจะเลือกดื่มเป็นน้ำอุณหภูมิห้องหรืออุณหภูมิที่สูงขึ้นมาเล็กน้อย ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะดื่มน้ำเย็น เพราะ อุณหภูมิของน้ำที่สูงขึ้นจะช่วยละลายเสมหะที่ติดค้าง และกระตุ้นการทำงานของภูมิคุ้มกันร่างกายได้อีกด้วย หรือหากใครไม่อยากดื่มน้ำเปล่าอย่างเดียว อาจจะดื่มเป็นชาอุ่นๆหรือน้ำซุปอุ่นๆก็ได้เช่นกัน เพราะนอกจากจะได้ความสดชื่นแล้ว ยังได้วิตามินหรือสารอาหารต่างๆที่สำคัญในเครื่องดื่มเหล่านั้นอีกด้วย เรียกว่าดูแลตัวเองทั้งทีต้องทำให้ได้ประโยชน์หลายๆส่วน

2. การรับประทานอาหารรสชาติเผ็ดร้อน การรับประทานอาหารที่มีรสชาติที่จัดจ้านเผ็ดร้อนจะช่วยเปิดทางเดินของระบบหายใจให้กว้างขึ้น สังเกตง่ายๆอย่างเช่นเวลาที่เรารับประทานอาหารที่มีรสจัด เช่น น้ำขิง ต้มยำ น้ำพริก เราจะรู้สึกเผ็ดร้อน น้ำหูน้ำตาไหล และทำให้หายใจได้ดีหรือโล่งมากขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะสรรพคุณในส่วนผสมบางอย่างที่ถูกใส่ลงไปในอาหารนั่นเอง อย่างไรก็ตาม อาหารเผ็ดร้อนอาจไม่เหมาะกับบุคคลทุกๆคน หากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่รับประทานเผ็ดไม่ได้ มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร ก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการปฏิบัติในข้อนี้ไป และลองใช้วิธีการอื่ยๆ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า

3 การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือ น้ำเกลือนอกจากจะช่วยในการล้างจมูกได้แล้ว อาจจะใช้น้ำเกลือในการกลั้วปากกลั้วคอเพื่อชะล้างสิ่งสกปรกภายในระบบทางเดินหายใจได้อีกด้วย โดยอาจจะใช้น้ำเกลือ ขวดสเตอไนด์ที่มีขายตามร้านขายยาต่างๆหรือร้านค้าทั่วๆไป หรือถ้าอยากจะประหยัดค่าใช้จ่ายไปมากกว่านั้น ก็อาจจะลองผสมน้ำเกลือเองก็ได้เช่นกัน วิธีการก็คือการใช้เกลือประมาณ 1 ช้อนชา ละลายกับน้ำอุ่นสะอาดแก้วใหญ่ ผสมเกลือให้ละลายให้เข้ากันเพื่อใช้เป็นน้ำเกลือในการกลั้วคอก็ได้ น้ำเกลือนี้จะช่วยกำจัดแบคทีเรียที่อาจจะก่อให้เกิดการอักเสบในลำคอได้เป็นอย่างดี และแน่นอนว่าจะช่วยกำจัดเสมหะ เปิดช่องคอให้คุณรู้สึกหายใจได้อย่างโล่งมากขึ้นได้ด้วย

4. การกลั้วคอด้วยน้ำโซดาแช่เย็น นอกเหนือจากการใช้น้ำเกลือในการกลั้วคอแล้ว อาจจะใช้เป็นน้ำโซดาแช่เย็น เพื่อกำจัดเสมหะในลำคอก็ได้ หากใครรู้สึกว่าตัวเองมักจะมีอาการเสมหะค้างในลำคออยู่ตลอดเวลา ลองใช้น้ำโซดาที่แช่เย็นจัด เป็นตัวช่วยในการสลายเสมหะดูบ้างก็ไม่เสียหายอะไรนะคะ เพราะของสิ่งนี้ก็มีคุณสมบัติในการละลายเสมหะได้ดีอีกวิธีหนึ่งเลยทีเดียว ใครที่เริ่มรู้สึกระคายคอเดินออกไปหาซื้อโซดาแช่เย็นได้เลย น่าจะช่วยคุณได้ดีอีกทางหนึ่งเชียวละค่ะ

5. การไอเพื่อขับเสมหะ สำหรับใครที่มักจะมีเสมหะค้างอยู่ในลำคออยู่เสมอสามารถใช้วิธีการไอเพื่อขับเอาเสมหะออกมาได้ วิธีการก็คือการสูดลมหายใจเข้าไปและกั้นค้างเอาไว้ เพื่อให้มีแรงส่งในการไอและกระแทกเอาเสมหะที่ค้างอยู่ตามลมออกมา การไอเพื่อกำจัดเสมหะควรต้องไออย่างมีประสิทธิภาพ และควรบ้วนเสมหะที่ออกมาจากร่างกายให้ในที่ที่เหมาะสมให้เรียบร้อย

6. การกำจัดเสมหะด้วยสมุนไพร นอกจากยาสามัญต่างๆแล้ว การใช้สมุนไพรบางประการก็ช่วยให้คุณสามารถกำจัดเสมหะได้เช่นกัน โดยสมุนไพรที่แนะนำว่าสามารถที่จะช่วยลดเสมหะในลำคอได้ก็มีอยู่หลายอย่าง ตัวที่โดดเด่น ก็คือ มะนาว และมะขามป้อม เป็นต้น หากได้รับประทานสมุนไพรต่างๆเหล่านี้เข้าไปอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยให้การขับเสมหะเป็นเรื่องที่ง่ายลงกว่าเดิมอีก

วิธีทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เป็นวิธีการง่ายๆที่จะทำให้คุณสามารถที่จะเคลียร์ช่องปาก กำจัดเสมหะ และจะทำให้รู้สึกว่าการหายใจเป็นไปได้อย่างสะดวก โล่งคอ โล่งจมูกมากยิ่งขึ้นได้ หากว่าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเผชิญหน้ากับอากาศที่ไม่บริสุทธิ์อยู่เป็นประจำ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับเสมหะในลำคอ ลองใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้ในการทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้นดูสิคะ อาจจะทำให้คุณมีความสุขในการหายใจหายคอมากขึ้นกว่าเดิมก็เป็นได้ และเมื่อคุณได้รู้วิธีกำจัดเสมหะตามธรรมชาติแบบไม่ต้องพึ่งยากันไปแล้ว ก็คงจะช่วยให้คุณหายทรมานจากอาการหวัดได้ง่ายมากขึ้น