การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สมุนไพรน่ารู้, อาหารเพื่อสุขภาพ

น้ำกระเทียม

น้ำกระเทียม

มีนักอ่านท่านใดชอบรับประทานกระเทียมอยู่เป็นประจำบ้างหรือไม่ค่ะ? เมื่อพูดถึงกระเทียม หลายท่านคงจะรู้จักกันดีในแง่ของการเป็นเครื่องเทศในครัวที่ช่วยเสริมให้อาหารอร่อยเด็ด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แต่อีกหนึ่งสิ่งที่คุณต้องรู้ก็คือ กระเทียมถือเป็นสุดยอดสมุนไพรที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นได้ เพราะในกระเทียมมีประโยชน์ มีสารอาหารที่หลากหลาย และเป็นที่ต้องการของร่างกาย การบริโภคกระเทียมจึงไม่ได้ตอบโจทย์เพียงแค่ความอร่อยเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป แต่จะต้องตอบโจทย์การรักษาสุขภาพไปด้วยในเวลาเดียวกัน

กระเทียมเป็นเครื่องเทศ ยา และเครื่องรางที่คนโบราณแต่เก่าก่อนมีความเชื่อว่ามีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตของคน มีพลัง มีความสามารถในการป้องกันภูตผีปีศาจ ป้องกันโรคร้าย สะเดาะเคราะห์ หรือเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวได้เวลาทหารออกรบ แต่เมื่อพูดถึงสรรพคุณทางยา แน่นอนว่ากระเทียมมีดีไม่แพ้กับสมุนไพรไหนๆทั้งช่วยบำรุงไฟธาตุ บำรุงกำลัง แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้ลม ลดการปวดเกร็ง แก้ปวดเมื่อยตามร่างกายและอวัยวะต่างๆ ลดอาการไอ และไล่เสมหะได้เป็นอย่างดี

ทำไมกระเทียมถึงมีดีมากมายขนาดนี้? เป็นเพราะกระเทียมมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากกว่า 400 ชนิด การบริโภคกระเทียมอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดความดัน ลดโคเลสเตอรอล ลดการสะสมของไขมันในเส้นเลือด ลดการแข็งตัวของเลือด ช่วยกระตุ้นน้ำย่อย และทำลายของแบคทีเรีย รา และไวรัสได้เป็นอย่างดีโดยไม่เป็นอันตรายต่อเชื้อแบคทีเรียที่เป็นประโยชน์ในร่างกาย

ด้วยเหตุนี้ ในปัจจุบันจึงมีการใช้กระเทียมเป็นทั้งอาหารและเป็นยาสมุนไพรอย่างแพร่หลาย ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายไปทั่วโลก หากคุณเบื่อที่จะนำกระเทียมมาประกอบอาหารเพียงอย่างเดียว ลองมาใช้วิธีที่เราจะนำเสนอนี้เพื่อประยุกต์และดึงเอาสรรพคุณที่ดีอย่างน่าเหลือเชื่อออกมาจากกระเทียมให้ได้มากที่สุด ด้วยการทำน้ำส้มสายชูหมักกระเทียม วิธีง่ายๆที่จะช่วยบำรุงสุขภาพได้ด้วยตนเอง

วัตถุดิบที่ต้องเตรียมก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก โดยเราจะใช้กระเทียมสดประมาณ 500 กรัม, น้ำส้มสายชูขาว 500 กรัม และน้ำตาลทรายขาวอีกประมาณ 40 กรัม แค่เพียง 3 อย่างนี้ก็เพียงพอต่อการสร้างสุขภาพที่ดีแล้ว ถ้าพร้อมแล้วมาลองกันเลย

วิธีทำเริ่มจากการล้างกระเทียมให้สะอาดก่อน จากนั้นผึ่งกระเทียมให้แห้ง ปอกเปลือกกระเทียมให้หมดแล้วเก็บกระเทียมที่ปอกเปลือกแล้วใส่ไว้ในขวดโหลสะอาด (แนะนำให้ใช้เป็นโหลแก้ว) จากนั้นให้เติมน้ำส้มสายชูและน้ำตาลทรายขาวลงไป กวนผสมให้เข้ากัน ก่อนจะปิดฝาให้ใช้พลาสติกแรปซีลปิดปากขวดเสียก่อน จากนั้นจึงปิดฝาตามปกติ ส่วนสำคัญเลยคือต้องระวังไม่ให้วัตถุดิบต่าง ๆ ในขวดโหลสัมผัสกับน้ำ เพราะจะทำให้น้ำหมักบูดเน่าได้ หมักกระเทียมในน้ำส้มสายชูปรุงรสนี้ไว้ 3 เดือนขึ้นไป โดยการหมักในช่วงแรกๆอาจจะสังเกตว่ากระเทียมเปลี่ยนเป็นสีเขียวอ่อนและตกตะกอน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามธรรมชาติไม่ถือว่าผิดปกติแต่อย่างใด ถ้าไม่สังเกตเห็นเป็นการเกิดเชื้อจุลินทรีย์ถือว่าเตรียมได้สมบูรณ์ เมื่อครบเวลาจึงนำออกมาจิบกินทุกวัน วันละ 1 แก้วช้อต

การบริโภคน้ำส้มสายชูหมักกระเทียมเป็นประจำทุกวันจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากหลายๆทาง อาการป่วยที่เคยเป็นอาจจะดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆ หรือการป่วยจากโรคร้ายอย่างโรคมะเร็ง ก็มักจะดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดด้วยเช่นกัน สุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรงมากขึ้นกว่าเดิมได้ ทั้งนี้ มีงานวิจัยหลายๆที่ศึกษาและสนับสนุนประโยชน์ของกระเทียม ดังต่อไปนี้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ น้ำกระเทียม
น้ำกระเทียม — ภาพจาก : https://www.xn--42cg8cuanoj5b9czdzg.com/

กระเทียมมีสารอาหารที่มีประโยชน์มากกว่า 400 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดล้วนแต่ช่วยเสริมให้กระเทียมกลายเป็นสมุนไพรที่โดดเด่น และสามารถช่วยรักษาโรคได้อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยตัวหลักๆ ของกระเทียมที่มีคุณสมบัติพิเศษในการทำลายหรือยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ได้ก็คือสาร​ Alliin และ Allinase​ สาร 2 ตัวนี้ถูกพูดถึงอย่างมากว่าเป็นสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อย่างไรก็ตาม สารทั้งสองมีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถทนต่อความร้อนสูงๆได้ ดังนั้น หากเรานำกระเทียมไปผ่านกระบวนการทำสุก ก็ย่อมทำให้ร่างกายได้รับสาร 2 ตัวนี้น้อยลง ดังนั้น หากคุณต้องการที่จะได้รับสารทั้งสองให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก็ควรรับประทานแบบสดๆจึงจะได้คุณประโยชน์อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ สาร 2 ตัวนี้ยังไม่ถูกกับเกลือ ดังนั้น จึงไม่ควรรับประทานอาหารที่มีส่วนผสมของกระเทียมและเกลือผสมกัน เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ด้อยลง

เคล็ดลับในการทำให้สารสำคัญสามารถออกฤทธิ์ที่เป็นประโยชน์แก่ร่างกายได้อย่างเต็มที่มากที่สุด จะต้องนำเอากระเทียมมาบดให้ละเอียด และควรรับประทานทันที อย่าปล่อยทิ้งเอาไว้นานเกินไป เพราะแน่นอนว่าสารตัวนี้สามารถที่จะสลายตัวได้

ที่สำคัญ…ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับการรับประทานกระเทียมไปเสียทั้งหมด เพราะในผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการแพ้กระเทียม เมื่อรับประทานกระเทียมเข้าไปอาจทำให้เกิดอาการแพ้ทั้งทางผิวหนัง โดยเฉพาะคนที่มักมีอาการหอบหืดหรือแพ้ละอองเกสรดอกไม้ จะยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพ้กระเทียมมากกว่าคนปกติโดยทั่วๆไป ส่วนคนที่จำเป็นจะต้องรับประทานยาป้องกันการแข็งตัวของเลือดอยู่เสมอ การรับประทานกระเทียมก็อาจจะไม่เหมาะสมสำหรับคุณเท่าไหร่นัก เพราะกระเทียมมีฤทธิ์ทำให้เลือดไม่แข็งตัว ซึ่งหากรับประทานยาอยู่แล้วและเป็นคนที่ชอบรับประทานกระเทียมในปริมาณมาก กระเทียมจะเข้าไปเสริมฤทธิ์ยา ทำให้อาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้ ดังนั้น จำเป็นจะต้องแจ้งแพทย์ให้ทราบว่าคุณนั้น รับประทานกระเทียมเป็นประจำหรือไม่ด้วย

อีกปัญหาหนึ่งของคนที่ชอบรับประทานกระเทียมเป็นประจำ ก็คือ การทำให้เกิดกลิ่นปากที่รุนแรง แต่ไม่ต้องห่วงเพราะกลิ่นกระเทียมสามารถดับได้ด้วยวิธีง่ายๆเพียงแค่การ ดื่มน้ำชาแก่ๆ หรือใช้น้ำชาบ้วนปาก ก็ช่วยให้กลิ่นกระเทียมที่เคยเกิดขึ้นในปากของคุณจางลงได้แล้ว

กระเทียมถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมาย จะรับประทานเป็นอาหารหลักหรือรับประทานเสริมเป็นยาต้านโรคก็ มีคุณประโยชน์เช่นกัน

Sending
User Review
0 (0 votes)
error

Enjoy this blog? Please spread the word :)