ห่างไกลกรดไหลย้อน
สภาวะความทรมานที่เกิดขึ้นกับระบบทางเดินอาหาร เป็นอีกหนึ่งความทรมานของมนุษย์ที่หลายคนต้องพบเจอ และเมื่อเป็นหรือเกิดขึ้นกับใครคนใดคนหนึ่งแล้ว มันจะอยู่ติดตัวคุณไปอีกนาน การรักษา อาจจะทำได้เพียงแค่การบรรเทาอาการเจ็บปวดเพียงเท่านั้น แต่ไม่อาจจะทำให้อาการดังกล่าวหายไปตลอด
เราจึงจำเป็นจะต้องเรียนรู้และก็รับมือกับความเจ็บปวดนั้นๆ ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่เราจะมาแนะนำเพื่อการบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจากระบบทางเดินอาหารในวันนี้ จะเป็นวิธีการในการบรรเทาโรค “กรดไหลย้อน” ซึ่งเชื่อว่ามีผู้คนจำนวนมากต้องพบเจอและทรมานกับโรคนี้มานานแสนนาน จะต้องทำอย่างไรบ้างเพื่อที่จะทำให้โรคนี้เกิดขึ้นกับเราน้อยลงกว่าเดิม ความเจ็บปวดทรมานที่เคยเกิดขึ้นลดลง ลองมาอ่านบทความดังต่อไปนี้กันได้เลยค่ะ
โรคกรดไหลย้อนนี้สามารถเกิดได้กับคนหลายๆช่วงวัย ซึ่งเป็นภาวะที่น้ำย่อยจากระบบกระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นไปจนถึงหลอดอาหาร ซึ่งอวัยวะส่วนที่เป็นหลอดอาหารค่อนข้างจะอ่อนแอ เมื่อโดนกรดที่มีความเข้มข้นสูงจากกระเพาะอาหาร จึงทำให้เกิดการกัดกร่อนและแสบร้อนบริเวณหน้าอก และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของคุณ ทำให้เกิดความไม่สงบสุขได้

โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนก็มีหลายๆสาเหตุด้วยกัน ส่วนแรกเลยมาจากความผิดปกติของอวัยวะบริเวณหูรูดปลายหลอดอาหาร ซึ่งเดิมทีแล้วหูรูดตัวนี้จะต้องมีการปิดเพื่อป้องกันไม่ให้กรดจากกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นมา แต่เมื่อเกิดความผิดปกติของหูรูดบริเวณส่วนปลายหลอดอาหารแล้ว จะทำให้ไม่สามารถกักเก็บน้ำย่อยไว้ในบริเวณกระเพาะอาหารเพียงอย่างเดียวได้ ความผิดปกติเหล่านี้อาจมีปัจจัยเร่งมาจากการดื่มแอลกอฮอล์มากจนเกินไป การสูบบุหรี่อย่างหนัก หรือรวมไปถึงการรับประทานยาบางชนิด ก็มีผลให้หูรูดส่วนนี้ผิดปกติได้เช่นกัน
อีกหนึ่งสาเหตุคือ การบีบตัวของหลอดอาหาร เมื่อหลอดอาหารมีการบีบตัวผิดปกติจะทำให้อาหาร ที่รับประทานเข้าไปในร่างกายไหลลงไปอย่างช้าๆ และทำให้กรดไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะอาหารและค้างอยู่ในหลอดอาหารนานกว่าปกติ นอกจากนี้ อาจจะเป็นความผิดปกติจากการบีบตัวของกระเพาะอาหารด้วยเช่นกัน ทำให้เพิ่มโอกาสการไหลย้อนของกรดจากกระเพาะอาหารมากขึ้น ซึ่งกรณีนี้อาจจะมีปัจจัยเร่งมาจากการที่เรารับประทานอาหารที่มีไขมันในปริมาณที่สูงมากจนเกินไปนั่นเอง
ต่อมาเรามาลองเรียนรู้ถึงวิธีการในการปฏิบัติตัวเองเพื่อป้องกันโรคกรดไหลย้อน หรือบรรเทาให้มันเกิดอาการต่างๆน้อยลงกันดีกว่าค่ะ
ประการแรก คือ การดื่มน้ำ ขอแนะนำให้ดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหารประมาณ 30 นาที โดยอาจจะเป็นน้ำเปล่าหรือเป็นน้ำที่มีการผสมกับน้ำสกัดสมุนไพรก็ยิ่งดี เพราะจะช่วยในเรื่องของระบบการย่อยอาหารให้ดีขึ้นได้มากกว่าเดิมด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ควรที่จะดื่มน้ำมากจนเกินไปหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เป็นเพียงแค่การจิบน้ำซุปอุ่นๆหรือดื่มน้ำเปล่าหลังอาหารก็เพียงพอแล้ว
นอกจากน้ำแล้วยังสามารถรับประทานกล้วยเพื่อช่วยบรรเทาได้ด้วย ซึ่งกล้วยที่รับประทานจะต้องเป็นกล้วยที่ไม่สุกจนเกินไปแต่เป็นกล้วยค่อนข้างห่าม เนื่องจากกล้วยจะมีคุณสมบัติในการเคลือบกระเพาะอาหารเอาได้ เมื่อเรารับประทานอาหารมื้อหลักร่างกายก็จะดูดซึมสารอาหารได้อย่างดี และไม่ทำให้กรดไปกัดกร่อนอวัยวะส่วนอื่นๆที่อ่อนแอได้
ในส่วนของอาหารที่เราจะต้องรับประทาน ก็ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่ายหรือไม่ใช่อาหารรสจัด โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่คุณกำลังมีอาการของกรดไหลย้อนอยู่ ยิ่งควรที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ย่อยยาก อาหารที่มีรสชาติจัดจนเกินไป มันจนเกินไป รวมถึงการพยายาม บดเคี้ยวอาหารให้เป็นชิ้นเล็กมากที่สุดก่อนที่อาหารนั้นจะไหลลงสู่กระเพาะอาหาร เพื่อให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงมากขึ้น ก็จะสามารถช่วยลดการทำงานของกระเพาะอาหาร และช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้เป็นอย่างดี
และอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญมากที่สุดก็คือ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว อย่าเข้านอนทันที! หรือแม้กระทั่งการเอนกายลงบนเก้าอี้เอนหลังก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้โรคกรดไหลย้อนนี้เกิดขึ้นกับคุณได้ง่ายมากขึ้น ถ้าจะให้ดีควรปล่อยให้ร่างกายมีการย่อยอาหารไปอย่างน้อยประมาณ 3 ชั่วโมงก่อน ถึงจะเข้านอนได้
และถ้าหากคุณเป็นคนที่มักเกิดอาการกรดไหลย้อนอยู่บ่อยๆ ก็ควรเลือกนอนหมอนที่มีความสูงมากกว่าปกติ เนื่องจากหมอนจะช่วยป้องกันอาการของกรดไหลย้อนในขณะที่คุณกำลังนอนหลับได้ หรืออีกวิธีก็คือ การให้นอนตะแคงไปทางด้านซ้าย ก็จะสามารถช่วยป้องกันโรคกรดไหลย้อนได้ดีเช่นเดียวกัน
โรคกรดไหลย้อนแม้จะทำให้คุณเกิดความทรมานอย่างแสนสาหัส แต่หากมีการป้องกันหรือปฏิบัติตัวที่ดี คุณก็จะสามารถที่จะหายจากอาการเหล่านี้ได้ และทำให้อาการที่เป็นอยู่บรรเทาลงไปได้อย่างมากมาย เพียงแต่ต้องเรียนรู้วิธีการรับประทานอาหาร หรือการใช้ชีวิตที่ถูกต้องและทำมันจนเป็นนิสัย
เพียงเท่านี้คุณก็จะสามารถกลับมามีชีวิตที่มีความสุขต่อไปได้ ทานอาหารอะไรก็อร่อย รวมไปถึง ไม่จำเป็นต้องพบเจอกับโรคที่แสนทรมานนี้อีกเลยก็เป็นได้