ล้างเนื้อไก่ไม่ดี?

คนที่ชอบทำอาหารต้องอ่านบทความนี้ค่ะ เพราะเป็นธรรมดาที่การทำอาหารจะต้องมีการเตรียมวัตถุดิบให้สะอาด เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารที่นำไปปรุงสุกและเป็นอาหารให้คนรับประทานจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ทั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญบางท่านกล่าวถึงประเด็นของการล้างเนื้อไก่ว่า กรรมวิธีการล้างเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือไม่ควรล้างเนื้อไก่ก่อนที่จะนำไปปรุงอาหาร เพราะการล้างเนื้อไก่อาจจะทำให้คุณได้รับเชื้อโรคจากเนื้อไก่มากขึ้นไปกว่าเดิม

เหตุผลใดผู้เชี่ยววชาญท่านนั้นจึงพูดเช่นนี้ ลองมาฟังเหตุผลกันดีกว่าค่ะ

เป็นธรรมดาที่เราจะต้องล้างวัตถุดิบทุกอย่างก่อนที่จะนำวัตถุดิบเหล่านั้นไปปรุงอาหาร ไม่ว่าจะเป็นข้าว ผัก ผลไม้ หรือเนื้อสัตว์ หากไม่มีการล้างที่ดีอาจจะทำให้อาหารที่คุณทำออกมานั้นมีรสชาติที่ผิดเพี้ยนหรือเสื่อมเสียได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้น ทุกคนจึงต้องเรียนรู้วิธีการในการล้างวัตถุดิบก่อนที่จะทำอาหารมาอยู่เสมอและทำด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าอาหารที่ผู้บริโภคจะได้รับประทาน มีความปลอดภัย มีประโยชน์ และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว

แต่มีหนึ่งสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเอาไว้ว่า “ไม่ควรที่จะล้างเนื้อไก่” เพราะยิ่งล้างก็จะยิ่งสกปรก สิ่งนั้นก็คือ “เนื้อไก่” นั่นเอง โดยเหตุผลที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวไว้ว่าการล้างเนื้อไก่เป็นสิ่งไม่จำเป็น ก็เนื่องมาจากว่าการล้างหน้าไก่ก่อนปรุงอาหารจะทำให้เป็นการเพิ่มโอกาสในการแพร่เชื้อ หรือการกระจายโรคในเนื้อไก่ได้มากกว่าการไม่ล้างเนื้อไก่

ขยายความเข้าใจกันนิดนึงค่ะ…เหตุผลที่เราไม่ควรที่จะล้างเนื้อไก่..ตามที่กล่าวไว้ข้างต้นก็เนื่องมาจากว่า โดยปกติเนื้อไก่ที่ซื้อมาจากห้างร้านต่างๆมักจะผ่านการทำความสะอาดมาในระดับหนึ่งแล้ว การที่เราเอาเนื้อไก่นั้นมาล้างอีกครั้งจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้น้ำที่ใช้ในการล้างไก่กระเด็นไปในบริเวณโดยรอบ และอาจจะทำให้สิ่งต่างๆรอบตัว ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า ซิงค์ จานชาม หรืออุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในห้องครัว ซึ่งน้ำที่สัมผัสกับเนื้อไก่จะทำให้มีเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในเนื้อไก่เจือปนออกมาในน้ำมากขึ้น เมื่อน้ำกระเด็นไปในบรรยากาศก็จะยิ่งเป็นการเพิ่มการกระจายของเชื้อโรคให้กว้างไปกว่าเดิม จากเดิมที่จะอยู่เพียงแค่ในชิ้นไก่เท่านั้น

โดยเชื้อโรคที่เรากำลังพูดถึงนี้มีชื่อว่าซาลโมเนลลา (salmonella) ซึ่งถือเป็นแบคทีเรียที่อันตรายเป็นอย่างมากต่อคน โดยเฉพาะคนที่มีภูมิต้านทานโรคที่น้อยกว่าอย่างเด็กเล็กและคนชรา ซึ่งหากได้รับเชื้อโรคตัวนี้เข้าไป จะทำให้เกิดอาการอาเจียน ท้องร่วง เป็นตะคริว และมีไข้ได้

แล้วแบบนี้เราจะสามารถกำจัดเชื้อซาลโมเนลลา (salmonella)

ในเนื้อไก่ได้อย่างไรหากไม่มีการล้างทำความสะอาด? หากไม่ต้องมีการล้างเนื้อไก่แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าอาหารที่เราทำนั้นสะอาดเพียงพอแล้ว และสามารถรับประทานได้โดยไม่เกิดโรค ผู้เชี่ยวชาญบอกเพิ่มเติมว่า…การจะทำให้เนื้อไก่สะอาดควรจะต้องใช้ความร้อนในการกำจัดเชื้อโรค เนื่องจากเชื้อตัวนี้สามารถทำลายได้ง่ายด้วยความร้อน วิธีการก็คือการนำเอาไก่สดไปผ่านความร้อน ซาลโมเนลลา (salmonella) ถูกทําลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส นาน 4-5 นาที หรืออุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส นาน 1 นาที ความร้อนจะสามารถฆ่าเชื้อโรคต่างๆที่อยู่ในเนื้อไก่ได้โดยไม่จำเป็นต้องเอาไก่ไปล้าง ทำให้สามารถลดการกระจายตัวของเชื้อแบคทีเรียในเนื้อไก่ได้

ทั้งนี้หากใครยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจที่ไม่ได้ล้างเนื้อไก่ก่อนที่จะนำมาทำอาหาร เรามาอ่านคำอธิบายของผู้เชี่ยวชาญเพิ่มเติมดังนี้ค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้ววัตถุดิบเนื้อสัตว์ควรจะเก็บเอาไว้ในช่องแช่เย็นหือแช่แข็งเมื่อนำออกมาแล้วก็ควรจะนำมาทำอาหารเลยทันที การแช่เย็นที่อุณหภูมิต่ำกว่า 4 องศาเซลเซียส จะเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อซาลโมเนลลาได้

ส่วนการล้างด้วยน้ำเปล่าไม่เพียงพอในการที่ทำให้เนื้อไก่นั้นสะอาดไปกว่าเดิม แต่การล้างกลับเป็นการกระจายเชื้อโรคออกไปสู่บรรยากาศโดยรอบ ซึ่งเราไม่สามารถสังเกตเห็นได้เลยว่าเชื้อโรคนั้นกระจายไปได้ไกลมากแค่ไหนแล้วเพราะน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆเหล่านั้นไม่มีสี และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเราจะมีการเช็ดน้ำอยู่ทำความสะอาดน้ำที่กระเด็นไปรอบๆอย่างดีแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่จะยับยั้งการแพร่ของเชื้อที่เกิดขึ้นจากไก่ที่ไม่สะอาดได้

ดังนั้น หากคุณคิดที่จะล้างเนื้อไก่สดจริงๆ ก็สามารถล้างได้ แต่จำเป็นจะต้องมีขั้นตอนในการล้างเนื้อไก่ดัที่ดี เช่น การจัดลำดับการล้างที่ถูกต้อง โดยควรล้างวัตถุดิบที่สกปรกน้อยที่สุดก่อนล้างวัตถุดิบที่สกปรกมากขึ้น เพื่อลดการปนเปื้อนให้มากที่สุด และต้องใช้ผ้าเช็ดมือที่สะอาดหรือหมั่นเปลี่ยนผ้าเช็ดมือบ่อยๆ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกบริเวณผ้าเช็ดมือ และแยกอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นอุปกรณ์สำหรับเด็กเล็กหรือทารกออกจากบริเวณการทำอาหาร

การปนเปื้อนของเชื้อโรคอาจเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ แต่เป็นสิ่งที่เราสามารถป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นได้โดยวิธีการต่างๆที่กล่าวไปข้างต้นนี้ หากเราเรียนรู้วิธีการที่ถูกต้องและหมั่นรักษาความสะอาด ก็สามารถช่วยทำให้โอกาสในการเกิดโรคลดลงได้