การฝึกโยคะ เป็นอีกหนึ่งการออกกำลังกายที่ผู้คนในยุคปัจจุบันหันมาให้ความสนใจกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผลต่อความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ รูปร่างที่ผอมเพรียว ผลต่อฮอร์โมนภายในร่างกาย หรือผลต่ออวัยวะต่างๆทั้งภายในและภายนอก การเล่นโยคะก็สามารถเยียวยาความผิดปกติทั้งหมดทั้งปวงได้ทั้งสิ้น นอกจากนี้ การเล่นโยคะยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เน้นความรุนแรง แต่เน้นการฝึกลมหายใจและการใช้สมาธิแทน ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็สามารถบริหารร่างกายด้วยวิธีดังกล่าวได้ทั้งสิ้น

ศาสตร์การเล่นโยคะถือกำเนิดมาอย่างยาวนานกว่า 2000 ปีแล้ว แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เองที่เริ่มได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จักของบรรดาผู้ที่อยากมีสุขภาพที่ดีกันมากขึ้น ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ เรามาไขข้อข้องใจไปพร้อมๆกันได้เลยค่ะ
การฝึกโยคะไม่ใช่เพียงการออกกำลังกายที่ใครๆก็สามารถทำได้ แต่ต้องผ่านการฝึกฝนที่ดีทั้งรูปแบบในการเคลื่อนไหวและการกำหนดรูปแบบของการหายใจ ทำให้การออกกำลังกายแบบนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่น่าค้นหา และถ้าหากใครได้มาลองดูแล้ว ก็จะพบว่าสิ่งที่ได้กลับไปนั้นดีต่อสุขภาพจริงๆ
ประโยชน์ด้านแรกที่พบ ก็คือ ประโยชน์ที่ดีต่ออวัยวะ กล้ามเนื้อ หรือข้อต่อ การฝึกบริหารร่างกายด้วยโยคะอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นที่ดีต่อร่างกายได้ ในด้านของผลต่ออวัยวะภายใน พบว่า การฝึกโยคะมีผลดีต่อการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ ส่วนผลต่ออวัยวะภายนอกที่เห็นได้ชัดก็คือ จะช่วยให้ข้อต่อต่างๆทั่วร่างกายเคลื่อนไหวได้ดีและไม่ติดขัด สามารถชะลอความเสื่อมต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับข้อต่อได้ ที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจาก ผู้ถูกฝึกจะต้องฝึกยืดเหยียดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้ออยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการเพิ่มความแข็งแรงที่ดีให้แก่กล้ามเนื้อไปด้วยในตัว เนื่องจากท่าบริหารหลายๆท่าจะต้องอาศัยการแบกรับน้ำหนักของตัวเอง ทำให้กล้ามเนื้อได้สัดได้ส่วนมากขึ้น จึงถือได้ว่า การเล่นโยคะเป็นการบริหารตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าเลยก็ว่าได้ ส่วนในด้านของกระดูก ก็พบว่าการเล่นโยคะจะช่วยให้คุณมีความหนาแน่นของมวลกระดูกเพิ่มขึ้น เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผู้หญิงวัยทองที่เสี่ยงต่อโรคกระดูกพรุน และกระดูกบาง
สำหรับคนที่เริ่มไปฝึกใหม่ๆ คงจะต้องมีความรู้สึกปวดเนื้อปวดตัวไปตามๆกัน เพราะไม่เคยที่จะต้องมาบิด เกร็ง หรือยืดกล้ามเนื้อขนาดนี้มาก่อน แต่เมื่อร่างกายฝึกจนเกิดความคุ้นชินและเริ่มมีความอ่อนตัวมากขึ้น อาการปวดตามส่วนต่างๆในร่ายกายก็จะลดลง และกลับกลายเป็นความแข็งแรงและความยืดหยุ่นที่เพิ่มมากขึ้นแทน

การฝึกโยคะ นอกจากจะเป็นผลที่ดีต่อร่างกายแล้ว ยังส่งผลเชิงบวกต่อจิตใจด้วย การบริหารลมหายใจเข้าและออกจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายและหายจากความตึงเครียดได้เป็นอย่างดี เพราะเราจำเป็นต้องเพ่งสมาธิไปที่จุดใดจุดหนึ่งขณะฝึก ซึ่งการที่เราเพ่งจิตไปไปจดจ่อกับสิ่งนั้นๆ ก็จะทำให้เราคลายความกังวลที่แอบอยู่ในจิตใจไปได้
คนส่วนมากมักจะไม่ให้ความสำคัญกับการหายใจเท่าที่ควร การหายใจในชีวิตประจำวันจึงไม่ลึก และเป็นการหายใจที่ใช้ปอดได้ไม่เต็มกำลังความสามารถ การฝึกโยคะจะมาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหายใจของคุณให้ลึกมากขึ้นทั้งลมหายใจเข้าและลมหายใจออก ซึ่งการกระทำเช่นนี้ จะส่งผลให้ร่างกายทุกๆส่วนได้รับประโยชน์จากการหายใจอย่างเต็มที่ ทำให้เกิดผลที่ดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ
อีกสิ่งหนึ่งที่โยคะสามารถพัฒนาคุณได้ ก็คือ บุคลิกภาพ เนื่องมาจาก ท่าโยคะโดยส่วนใหญ่จะต้องมีการจัดระเบียบท่าทางของร่างกายอย่างละเอียดอ่อน การฝึกโยคะเป็นระยะเวลานานจึงส่งผลให้ผู้ถูกฝึกมีบุคลิกภาพและท่าทางของร่างกายที่ดีขึ้น และช่วยเสริมความมั่นใจในตัวเองให้มากขึ้นได้ด้วย
ในด้านของโรคภัยไข้เจ็บหรือโรคร้ายแรง แทบจะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยพบเจอในผู้ที่เล่นโยคะอย่างเป็นประจำเลย
ผู้ที่ฝึกโยคะสามารถลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลงได้ เนื่องจาก เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงทุกส่วนของร่างกายได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ยังช่วยให้มีอัตราการเต้นของหัวใจที่ต่ำลง และคอเรสเตอรอลลดลงได้ด้วย นอกจากนี้ การฝึกโยคะเป็นประจำยังช่วยเพิ่มปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายแข็งแรงมากขึ้น ไม่ป่วยง่าย หรือหากเกิดอาการป่วยขึ้นมา ก็สามารถหายหรือฟื้นตัวได้เร็วขึ้น รวมไปถึงใครที่ป่วยเป็นโรคไมเกรนที่มักจะปวดหัวอยู่บ่อยๆ ลองหันมาเล่นโยคะกันดูสิค่ะ รับรองว่าอาการปวดหัวที่เคยเป็นจะทุเลาลงได้อย่างแน่นอน
ใครที่หวังจะลดน้ำหนักด้วยการบริหารร่างกายแบบโยคะคงไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน เพราะถึงแม้การเล่นโยคะจะดูเหมือนว่าแทบจะไม่ได้เคลื่อนไหวหรือเคลื่อนที่ไปไหนเลย แต่การฝึกลมหายใจประกอบกับการทำท่าทางต่างๆ ก็สามารถช่วยให้ร่างกายเผาผลาญพลังงานได้เป็นอย่างดี
รู้ประโยชน์ของโยคะกันอย่างนี้แล้ว อาจจะทำให้ใครหลายๆคนเริ่มเข้าใจกันแล้วใช้ไหมว่า ทำไมคนสมัยใหม่จึงนิยมหันมาฝึกโยคะกันมากขึ้น แล้วคุณล่ะ…เริ่มรู้สึกสนใจอยากฝึกโยคะขึ้นมาบ้างหรือยัง?