น้ำหนักลดด้วยคีโตเจนิก ไดเอต
ในปัจจุบันมีรูปแบบการรับประทานอาหารมากมายที่ออกแบบมาเพื่อการลดน้ำหนัก บ้างก็พยายามลดแป้ง บ้างก็ลดปริมาณอาหาร หรือบ้างก็ควบคุมการทานเป็นช่วงเวลา แต่อีกหนึ่งทางที่คนนิยมทำกันเพื่อลดน้ำหนัก ก็คือ การกินอาหารแบบคีโตเจนิก ซึ่งมีผลต่อการลดน้ำหนักอีกหนึ่งวิธี
การลดน้ำหนักแบบนี้จะมีรายละเอียดระยะเวลาในการกินอย่างไร รวมถึงผลดีและเสียของการทำเช่นนี้ ลองศึกษาให้ละเอียดขึ้นกันหน่อยดีกว่า
การกินอาหารแบบคีโตเจนิก ไดเอต หมายถึง การกินอาหารที่เน้นอาหารที่มีไขมันสูง โปรตีนพอสมควร และเน้นการลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้น้อยมากที่สุด เพื่อปรับให้ร่างกายสร้างสารบางตัวที่จะเร่งการเผาผลาญไขมันให้มากขึ้น เป็นผลให้น้ำหนักลดลงอย่างฮวบฮาบนั่นเอง
ด้วยความที่วิธีการกินแบบคีโตฯ เป็นวิธีที่คุณสามารถรับประทานอาหารไขมันสูงได้เต็มที่ ไม่ว่าจะหมูกรอบ, หมูสามชั้น, หนังปลาทอดกรอบ เป็นต้น ทำให้กลุ่มคนที่ยังรักการทานของอร่อยเลือกที่จะลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้เป็นส่วนมาก เพราะทรมานน้อยกว่า แต่ได้ผลที่คุ้มค่านั่นเอง

หลายคนน่าจะรู้สึกสงสัยว่าการกินแบบนี้คืออะไร แล้วการรับประทานไขมันเข้าไปมากๆจะเข้าไปช่วยเบิร์นไขมันสะสมในร่างกายได้อย่างไร ทำไมการกินแบบนี้ถึงช่วยทำให้น้ำหนักลงอย่างรวดเร็ว เรามีคำตอบให้คุณ
คำตอบของคำถามนี้ก็คือ…เมื่อเราพยายามลดการบริโภคคาร์โบไฮเดรต ซึ่งเดิมทีเป็นสารอาหารหลักที่เรารับประทานและเป็นสารอาหารอย่างแรกที่จะทำให้เกิดพลังงาน ร่างกายจะตอบสนองต่อการหายไปของสารอาหารตัวนี้ เพราะกลัวจะไม่มีพลังงานไปเลี้ยงร่างกาย โดยสิ่งที่ร่างกายจะทำก็คือ ร่างกายจะไปดึงเอาไขมันที่สะสมไว้ในร่างกายมาเผาผลาญเพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานแทน กระบวนการเผาผลาญนี้เรียกว่า คีโตสิส ซึ่งทำให้เกิดสารที่เรียกว่า คีโตน ในตับตามมา
หลังจากที่เรารับประทานอาหารแบบคีโตเจนิกหลายๆวัน ร่างกายและสมองอาจรู้สึกล้า เหนื่อยง่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวจนสามารถดึงเอาไขมันและคีโตนมาใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เริ่มสนใจการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้ขึ้นมาบ้างหรือยังค่ะ? หากคุณอยากเริ่มต้นการลดน้ำหนักแบบคีโตเจนิก สิ่งสำคัญที่ควรรู้คือ จำเป็น
1. การจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้น้อยมากที่สุด ซึ่งคาร์โบไฮเดรตจะอยู่ในอาหารจำพวก ข้าวเจ้า, ข้าวบาร์เลย์, ข้าวสาลี, ข้าวไรย์, ข้าวโพด, ข้าวโอ๊ต, พาสต้า, เส้นก๋วยเตี๋ยว, แป้ง, น้ำตาลทราย, พิซซ่า, คุกกี้, ขนมปัง, เค้ก เป็นต้น
2. รับประทานไขมันได้ แต่ต้องเป็นไขมันที่มาจากธรรมชาติทั้งไขมันจากพืชและสัตว์ก็ได้ หากเลือกเป็นไขมันดีหรือไขมันที่มี HDL สูง จำพวกถั่ว อะโวคาโด เป็นต้น ก็จะยิ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย ส่วนการรับประทานอาหารทอดก็สามารถทำได้ ขอเพียงไม่มีการชุบแป้งทอด และทอดด้วยน้ำมันที่ดีต่อร่างกาย
3. เนื้อสัตว์หรือเนื้อสัตว์ติดมันก็สามารถทานได้เช่นกัน ยิ่งถ้าเน้นเนื้อสัตว์ออร์แกนิกก็ยิ่งดีต่อร่างกาย แต่ต้องระวังพวกเนื้อสัตว์ที่ผ่านการหมัก เพราะอาจจะมีส่วนผสมของแป้งหรือน้ำตาลที่ใช้เพิ่มความนุ่มหรือรสชาติ สามารถเลือกกินเนื้อสัตว์และไข่ได้ แต่ควรควบคุมในปริมาณที่เหมาะสมด้วย
4. เน้นการทานผักใบเขียว ถั่ว และธัญพืช แต่ต้องเลี่ยงพืชผักที่มีคาร์โบไฮเดรต เช่น เผือก มัน เป็นต้น
5. นมสามารถทานได้ในรูปแบบของนมไม่พร่องมันเนย แต่ไม่ควรนมเพียวๆควรเป็นเพียงองค์ประกอบในเครื่องดื่มอื่นๆเท่านั้น ส่วนชีสสามารถทานได้เต็มที่ จะเป็นชีสแบบไหนก็แล้วแต่ชอบเลย
6. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องเลิกเด็ดขาด เพราะโดยส่วนใหญ่จะมีส่วนประกอบของคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง หันมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำมะนาวที่ใช้หญ้าหวานเพิ่มความอร่อยแทนได้ แต่ถ้าให้ดีไม่เติมความหวานเลยจะดีที่สุด
7. หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แหนม หมูยอ ลูกชิ้น ปูอัด เป็นต้น เนื่องจากอาหารเหล่านี้จะต้องมีสารสังเคราะห์เพื่อทำให้เกิดเป็นผลิตภัณฑ์แปรรูปในรูปแบบต่างๆ และส่วนใหญ่มักมีแป้งเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งในการผลิต
8. งดผลไม้ เพราะผลไม้เกือบทุกชนิดล้วนแต่มีน้ำตาลเป็นองค์ประกอบทั้งนั้น ยิ่งถ้าเป็นผลไม้แปรรูปยิ่งทมีน้ำตาลมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ถ้าอยากจะได้วิตามินหรือใยอาหารต้องเลือกรับประทานจากผักหรืออาหารอื่นๆแทน

การรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิกอาจจะไม่เหมาะกับคนทุกๆคนที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะแม้ว่าจะสามารถรับประทานไขมันได้ในปริมาณสูง แต่ก็มีอีกหลายๆกลุ่มอาหารที่จำเป็นต้องลดหรืออดไปเลย ดังนั้น วิธีนี้อาจจะเหมาะกับคนที่ค่อนข้างแข็งแรง ยังคงรักในการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง และไม่อยากเลี่ยงของอร่อย ที่โดยส่วนใหญ่มันจะมีไขมันเป็นองค์ประกอบอยู่มาก แต่ไม่เหมาะกับสายหวานหรือสายคลีนสักเท่าไหร่
การรับประทานอาหารแบบคีโตเจนิกเองค่อนข้างทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภายในระบบย่อยอาหารในร่างกายพอสมควร และอาจจะทำให้ระบบร่างกายรวนหากเตรียมตัวได้ไม่ดีเพียงพอ ซึ่งนำไปสู่อาการเจ็บป่วยอื่นๆได้ ดังนั้น ร่างกายของคุณต้องสมบูรณ์แข็งแรงก่อนที่จะตัดสินใจเลือกลดหุ่นด้วยวิธีนี้ และควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเสียก่อน เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง