ทำไมต้องผายลม
การผายลม คือ ปฏิกิริยาธรรมชาติที่ผู้คนทั้งหลายสามารถเกิดขึ้นได้ สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติ แต่เป็นเรื่องของการตอบสนองของร่างกาย การผายลมสามารถเกิดขึ้นได้แต่ต้องเกิดขึ้นให้ถูกที่ เพราะนอกจากเสียงที่เกิดขึ้นแล้วยังมีกลิ่นที่อาจจะเกิดขึ้นและไปรบกวนคนรอบข้างได้อีกด้วย
ทั้งนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าแล้วทำไมมนุษย์ต้องมีการผายลมออกมาด้วย สามารถระบายของเสียในรูปแบบอื่นๆได้หรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบในเชิงวิทยาศาสตร์มาตอบคุณให้หายสงสัยเกี่ยวกับอาการผายลมกันค่ะ
ก่อนอื่นต้องมารู้กันก่อนว่าการผายลมคืออะไร?
การผายลม คือ การที่ร่างกายเกิดแก๊สสะสมอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งเกิดมาจากการที่แบคทีเรียหรือยีสต์ที่อาศัยอยู่ในระบบทางเดินอาหารของเรานั้นมีการหมักและเกิดแก๊สขึ้น แก๊สที่เกิดขึ้นจะถูกดันออกจากร่างกายผ่านทางทวารหนัก ซึ่งหากมีในปริมาณมากก็ย่อมทำให้เกิดเสียงดังหรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกมา ซึ่งก็คือการผายลมหรือการตดนั่นเอง
โดยปกติแล้วคนเราทุกคนสามารถผายลมได้ และจะมีปริมาณผายลมโดยเฉลี่ย 0.5 ถึง 1.5 ลิตรต่อวัน ซึ่งมนุษย์สามารถผายลมได้หลายครั้ง อาจจะสูงถึง 25 ครั้งต่อวันก็เป็นได้ ทั้งนี้ องค์ประกอบหลักที่ออกมาจากการผายลมจะเป็นแก๊สไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ไฮโดรเจน ออกซิเจน และมีเทน ซึ่งกลิ่นผายลมที่เกิดขึ้นจะมาจากแก๊สมีเทนเป็นหลัก ซึ่งสร้างมาจากการที่จุลินทรีย์ที่เกิดการหมักของสิ่งต่างๆในร่างกายนั่นเอง
ปัจจัยการเกิดกลิ่นของการผายลมจะรุนแรงหรือไม่รุนแรงก็ขึ้นอยู่กับว่าอาหารที่คุณกินเข้าไปในร่างกายนั้นคืออะไร เพราะการรับประทานอาหารที่แตกต่างกันย่อมส่งผลให้การผายลมมีความแตกต่างกันออกไป หากอาหารเหล่านั้นมีการเกิดแบคทีเรียในปริมาณมากก็จะมีโอกาสที่จะมีกลิ่นที่เหม็นมากกว่าปกติ
นอกจากนี้อาหารบางอย่างจะยิ่งส่งผลให้การผายลมเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งกว่าปกติ โดยหากเป็นอาหารในกลุ่มที่มีโพลีแซคคาไรด์ในปริมาณสูง จะส่งผลให้เกิดการผายลมได้มากกว่าอาหารที่มีพอลิแซคคาไรด์ในปริมาณต่ำ ทั้งนี้ อาหารที่มีโพลีแซคคาไรด์สูงก็มีอยู่หลายประเภท เช่น ถั่ว หอมใหญ่ บล็อคโคลี่ กะหล่ำปลี ยีสต์ในขนมปัง นม ชีส มันเทศ เป็นต้น
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบทานถั่วเป็นประจำ ถั่วจะเป็นอาหารที่ค่อนข้างย่อยยาก ทำให้เมื่อส่วนของอาหารชนิดนี้ผ่านการย่อยมาจนถึงลำไส้ตอนล่าง จะมีแบคทีเรียเข้ามาย่อยสลายต่อและทำให้เกิดเป็นแก๊สในกระเพาะออกมาในจำนวนมาก รวมไปถึงกรณีของบุคคลที่ชื่นชอบการบริโภคนมหรืออาหารที่มีแลคโตสเป็นส่วนประกอบเป็นประจำ จะทำให้แบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในลำไส้เข้าไปย่อยสลายแลคโตส และทำให้เกิดเป็นแก๊สในปริมาณมากออกมาได้ ซึ่งเมื่อแก๊สต่างๆเหล่านี้สะสมขึ้นมามากในระดับหนึ่ง ก็จะเกิดเป็นอาการอย่างผายลมได้นั่นเอง
สำหรับใครที่รู้สึกอายหรือต้องการอยากจะให้การผายลมของตัวเองลดน้อยลง วิธีการหรือข้อแนะนำที่เราสามารถแนะนำได้ ก็คือ การที่พยายามเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม หรือเลือกทานอาหารที่จะทำให้เกิดแก๊สในร่างกายน้อยลง ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าอาหารกลุ่มใดบ้างที่เสี่ยงทำให้เกิดแก็สในระบบทางเดินอาหารจำนวนมาก
นอกจากนี้ เรายังแนะนำให้เลือกรับประทานผักที่มีการปรุงสุกแทนการรับประทานผักดิบ เพราะผักที่มีการปรุงสุกแล้วจะช่วยให้การย่อยเป็นสารอาหารก่อนดูดซึมเข้าสู่ร่างกายเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงก็มีส่วนสำคัญที่จะลดอาการผายลมได้เช่นกัน เนื่องจากอาหารประเภท้ที่มีไขมันสูงจะถูกย่อยในระบบทางเดินอาหารได้นานกว่าอาหารทั่วๆไป เมื่อมีการย่อยนานก็ย่อมทำให้เกิดการย่อยของแบคทีเรียและกลายเป็นแก๊สสะสมในร่างกาย จนเกิดอาการอยากผายลมได้
ที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรปฏิบัติ ก็คือ การหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีการค้างคืนในตู้เย็นแล้วนำกลับมาอุ่นซ้ำ เพราะกระบวนการเก็บอาหารแบบนี้สามารถกระตุ้นให้แบคทีเรียในอาหารผลิตแก๊สขึ้นมาได้ เมื่อเรามีการนำอาหารค้างคืนมาอุ่นรับประทานอาหารจะทำให้เราได้รับแก๊สต่างๆมากกว่าปกติิ และเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดอาการผายลมได้
อีกหนึ่งสิ่งที่เราอาจจะลืมไปว่ามีความสำคัญ และมันเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอาการผายลมได้เช่นกัน ก็คือ การที่เรามีการอมลูกอม เคี้ยวหมากฝรั่ง หรือสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการพูดมากๆด้วย เพราะกิจกรรมต่างๆเหล่านี้อาจจะทำให้เราเผลอกลืนอากาศเข้าไปในปริมาณที่มากกว่าปกติ ซึ่งอากาศที่เข้าไปในร่างกายในส่วนนี้ ก็จะต้องถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของการผายลมได้เช่นเดียวกัน
ทั้งหมดนี้คือที่มาของการผายลม พร้อมๆกับเคล็ดลับการควบคุมหรือลดปริมาณการผายลมวง่ายๆ ที่จะช่วยทำให้คุณสามารถควบคุมการผายลมของตัวเองได้ดีมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าการผายลมไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ เพียงแต่จะต้องทำให้ถูกที่ ถูกเวลา และหากสามารถที่จะควบคุมปริมาณของมันได้ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า ซึ่งการควบคุมก็สามารถทำได้ด้วยหลากหลายวิธี ตั้งแต่การเลือกรับประทานอาหารที่มีการย่อยที่ง่ายขึ้น รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงการกลืนเอาอากาศเข้าไปในร่างกายมากจนเกินไป ก็จะทำให้การผายลมของเรานั้นลดน้อยลงได้แล้ว
หวังว่าบทความนี้จะเป็นหนึ่งในเคล็ดลับดีๆที่ทำให้คุณรู้จักร่างกายของตัวเองมากขึ้น สามารถควบคุมร่างกายในบางสิ่งได้ดีขึ้นกว่าเดิม และคงจะทำให้คนอื่นรอบข้างไม่ต้องมาลำบากที่จะต้องมาดมกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้อีกต่อไป บรรยากาศการอยู่ร่วมกันกับคนที่คุณรักจะได้สดใสในทุกวัน
