เลือดกำเดาไหล ภัยใกล้ตัว
เชื่อว่าในชีวิตของทุกคนน่าจะเคยประสบพบเจอกับปัญหาเลือดกำเดาไหลกันมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งคุณก็อาจจะคิดว่ามันก็เป็นแค่เพียงหนึ่งอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้ และไม่ได้เป็นอันตรายใดๆแก่ชีวิตของเรา เพราะมีสาเหตุมากมายที่จะช่วยส่งผลให้เกิดอาการเลือดกำเดาไหลได้ แต่จริงๆแล้ว…คุณอาจจะต้องทำความรู้จักกับสาเหตุของการเกิดเลือดกำเดาไหลให้ลึกซึ้งมากขึ้น เพราะว่าในบางเหตุการณ์อาจจะทำให้คุณนั้นต้องเจอกับอันตรายที่มากขึ้น หากประเมินตัวเองไม่มากเพียงพอ
อาการเลือดกำเดาไหลเป็นภาวะที่มีเลือดออกมาทางจมูก ซึ่งสามารถที่จะแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วนหลักๆด้วยกัน ก็คือ 1) ภาวะเลือดออกทางจมูกด้านหน้า ซึ่งมันจะเป็นปัญหาที่ไม่ได้รุนแรงมากนัก 2) ภาวะเลือดออกทางจมูกด้านหลังโพรงจมูก ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดที่มีขนาดใหญ่กว่า และปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะมีความรุนแรงที่มากกว่า ซึ่งอาจจะรุนแรงในลักษณะที่ทำให้เกิดเป็นเลือดออกทางปากโดยได้เช่นกัน เช่น อาการอาเจียนเป็นเลือดไอเป็นเลือด เป็นต้น
ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดกำเดาไหลก็สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 สาเหตุหลักๆ ได้แก่ 1 ภาวะโรคในจมูก และ 2 ภาวะร่างกายมีความผิดปกติ
1 ภาวะโรคในจมูก
หากเป็นสาเหตุแรกที่เกิดขึ้นมาจากภาวะโรคในจมูก ก็อาจจะเกิดมาจากการที่คุณมีความผิดปกติบางอย่าง เช่น การมีก้อนเนื้อในจมูก การมีก้อนเนื้องอกหลังโพรงจมูก หรืออาจจะเป็นในส่วนของการติดเชื้อต่างๆ ที่จะทำให้เกิดเป็นแรงดันขึ้นมา ทำให้เมื่อมีอาการคัดจมูกจะทำให้เส้นเลือดฝอยที่จมูกแตก และเกิดเป็นเลือดที่ไหลออกมา หรือการเกิดเลือดกำเดาไหลนั่นเอง
นอกจากนี้ อาจจะเกิดมาจากการได้รับอุบัติเหตุจากการกระแทก ทำให้เกิดเป็นการไหลของเลือดในจมูกมาได้เช่นเดียวกัน อีกหนึ่งวิธีที่สามารถเกิดเลือดกำเดาไหลได้ก็เกิดจากการใช้ยาพ่นนสเตียรอยด์ที่ใช้ในการรักษาโรคภูมิแพ้ ก็จะทำให้ผนังจมูกบางลงและเป็นเหตุให้เลือดออกง่ายขึ้นได้เช่นเดียวกัน
2 ภาวะเลือดกำเดาไหลจากความผิดปกติของร่างกาย
สำหรับสาเหตุนี้จะเกิดขึ้นกับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเลือดออกง่าย หยุดไหลยาก รวมถึงคนที่ป่วยเกี่ยวกับความดันโลหิตสูงหรือป่วยเป็นโรคตับ ก็อาจจะทำให้เกิดเป็นอาการโรคเลือดกำเดาไหลง่ายกว่าคนปกติทั่วๆไป
ทั้งนี้ การที่เส้นเลือดฝอยในจมูกแตกจนเกิดเป็นเลือดกำเดาไหลออกมาถือเป็นอาการปลายเหตุที่เกิดขึ้นมาจากความผิดปกติใดอย่างหนึ่งในร่างกาย ซึ่งจำเป็นจะต้องหาสาเหตุนั้นๆให้เจอ เพื่อที่จะรู้ว่าความเจ็บป่วยที่แท้จริงของคุณว่าคืออะไรกันแน่

เวลาที่คุณมีเลือดกำเดาไหลก็มักจะต้องมีการอุดจมูกและรอให้เลือดกำเดาอยู่ไหล แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณมีอาการต่างๆดังต่อไปนี้ มันจะเป็นสัญญาณที่จะคอยเตือนภัยว่าคุณจำเป็นที่จะต้องเดินไปพบแพทย์ได้แล้ว เพราะหากคุณยังปล่อยไว้อาจจะทำให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรงมากขึ้นกว่าเดิม
สำหรับวิธีในการสังเกตว่าเลือดกำเดาที่ไหลออกมามีความรุนแรงหรืออันตรายมากแค่ไหน ให้ดูได้จากลักษณะการไหลและสีของเลือด โดยหากพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้เมื่อไหร่ ต้องรีบไปพบแพทย์โดยด่วนๆ
1 เลือดกำเดาไหลบ่อยและเกิดซ้ำๆที่บริเวณเดิม ทุกครั้งที่มีเลือดกำเดาไหลจะเป็นที่จมูกข้างเดิมและข้างเดียว
2 เลือดกำเดาไหลปริมาณมาก
3 นอกจากเลือดที่ไหลออกมาแล้ว ยังมีลิ่มเลือดไหลออกมากับเลือดกำเดาด้วย
4 เลือดกำเดาไหลต่อเนื่องและไม่หยุดภายใน 10 นาที
5 เลือดกำเดามีสีแดงสด
6 นอกจากมีเลือดกำเดาไหลแล้วมักจะมีอาการอื่นๆร่วมด้วยเสมอ เช่น หูอื้อ หรือรู้สึกเหมือนมีก้อนในโพรงจมูกหรือในลำคอ
หากมีอาการต่างๆใน 6 ข้อที่กล่าวมา ก็แสดงว่าอาการเลือดกำเดาไหลของคุณไม่ธรรมดาแล้วละคะ คุณจำเป็นต้องเข้าไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอย่างชัดเจน และแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพื่อไม่ให้เกิดสิ่งร้ายๆกับร่างกายของคุณต่อไป

ในส่วนของวิธีการในการดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการเลือดกำเดาไหลก็สามารถทำได้ง่ายๆ ดังต่อไปนี้
1 หยุดกิจกรรมที่กำลังทำอยู่ เพื่อป้องกันอาการหน้ามืดเป็นลม และจัดท่าทางของตัวเองในลักษณะนอนเอียง ไม่ให้ศีรษะต่ำจนเกินไป และต้องป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนลงไปที่จมูกโดยห้ามแหงนหน้าโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการสำลักเลือดได้
2 ใช้มือบีบจมูกและหายใจทางปาก
3 ในกรณีที่เลือดออกน้อยให้ห้ามเลือดด้วยการประคบเย็นหรืออมน้ำแข็งเอาไว้ในปาก แต่หากเป็นกรณีที่เลือดไหลมาก ก็ควรที่จะรีบนำตัวส่งแพทย์โดยทันที
ปัญหาเลือดกำเดาไหลหากมองเป็นเรื่องธรรมดา ก็คงสามารถหายได้เองและดูเหมือนจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่แต่อย่างใด แต่หากเมื่อไหร่ก็ตามที่เราใส่ใจและคอยสอดส่องหาสัญญาณอันตรายจริงๆ เราก็อาจจะพบอาการผิดปกติที่ซ่อนอยู่ และเมื่อหาเจอเมื่อไหร่ ก็ต้องไม่มองเฉยและควรรีบดูแลตัวเองโดยด่วน ก่อนที่จะเกิดอันตรายที่เกี่ยวข้องกับร่างกายของเรามากไปกว่านี้ ซึ่งหากเรารีบตรวจเจอร่องรอยของปัญหาและดูแลมันก่อนที่จะลุกลาม ทุกปัญหาก็ย่อมแก้ไขได้เสมอ