สมองดีด้วยอาหาร
ใครๆก็อยากจะมีสมองที่ดี มีความจำที่เป็นเลิศ คิดไว เรียนรู้เร็วกันทั้งนั้น เพราะสมองเป็นสิ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของอวัยวะอื่นๆทั่วทั้งร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของระบบประสาท การเคลื่อนไหวร่างกาย การทรงตัว รวมไปถึงความจำ ซึ่งหากคุณมีการดูแลสมองได้เป็นอย่างดี ก็ย่อมจะทำให้คนนั้นเป็นคนที่ฉลาด และมักจะประสบความสำเร็จในการทำงานต่างๆได้อย่างง่ายดาย
ทราบหรือไม่ว่า…ในปัจจุบันนี้คนไทยมีความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับประสาทและสมองเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นมาจากสาเหตุของวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป การทำงานที่หนักมากขึ้น สัดส่วนของผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม ซึ่งไม่ต่างเลยกับประเทศอื่นๆที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุ
ในประเทศไทยเคยบันทึกสถิติของผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งอยู่ในกลุ่มของโรคระบบประสาทสูงถึง 4 นาทีต่อคน หรือเฉลี่ยชั่วโมงละ 6 คน ซึ่งถือเป็นโรคร้ายที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตเป็นอันดับ 2 รองจากการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง

ด้วยเหตุนี้เอง การที่เราจำเป็นที่จะต้องรักษาสมองให้มีประสิทธิภาพที่คงทนถาวรไปกับเราให้นานที่สุดจึงเป็นสิ่งสำคัญ และหนึ่งในวิธีง่ายๆในการดูแลสมองที่ง่ายดายและเชื่อว่าสามารถทำได้ง่ายที่สุด ก็คือ การเลือกอาหารให้แก่สมอง การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซลล์สมองและป้องกันการเสื่อมถอยของสมองในเวลาที่เร็วกว่าวัยอันควรได้
อาหารที่จะช่วยให้สมองได้รับการดูแลที่ดีมากขึ้นจะมีอะไรบ้างลองมาศึกษากันดูได้เลย ทั้งนี้เราจะแบ่งอาหารที่สมองต้องการเป็นกลุ่มๆ ดังต่อไปนี้
1 ไขมัน
แม้เราอาจจะเคยมีความรู้มาก่อนหน้านี้ว่า…เราไม่ควรรับประทานไขมัน เพราะจะทำให้เกิดเป็นปัญหาโรคอ้วนและโรคอื่นๆอีกมากมาย แต่ไขมันก็ยังเป็นอาหารของสมองที่ควรที่จะรับประทานเข้าไป เนื่องมาจากโครงสร้างของสมองมีไขมันสูงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้การรับประทานไขมันจำเป็นจะต้องเลือกไขมันที่ดีเพื่อเป็นอาหารที่สำคัญให้แก่สมอง
ไขมันที่ดี คือ ไขมันประเภทที่มีโอเมก้าสูง ซึ่งอยู่ในอาหารประเภทปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า หรือปลาทู รวมไปถึงปลาน้ำจืดในบางชนิด เช่น ปลาจะละเม็ด ปลาดุก เป็นต้น แต่หากใครไม่ถนัดรับประทานปลาก็อาจจะรับประทานเป็นพืชต่างๆ เช่น เมล็ดฟักทอง เมล็ดเซีย น้ำมันทานตะวัน น้ำมันงา เป็นต้น ธัญพืชเหล่านี้ก็สามารถมอบไขมันดีๆ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สมองต้องการได้เช่นเดียวกัน
2 คาร์โบไฮเดรต
สมองจำเป็นต้องการคาร์โบไฮเดรตเพื่อสร้างพลังงาน เพราะเมื่อใดก็ตามที่สมองขาดพลังงานหรือไม่รับพลังงานไม่เพียงพอ ซึ่งอาจเกิดจากการอดอาหารหรือทานอาหารไม่ครบตามความต้องการของร่างกาย ร่างกายก็จะรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน ใจสั่น และทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่
ทั้งนี้ ก็จำเป็นจะต้องเลือกคาร์โบไฮเดรตที่ดี ซึ่งรับได้จากการรับประทานอาหารประเภทข้าวกล้องหรือธัญพืชที่ไม่ขัดสี เป็นต้น เพราะนอกจากจะได้คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยและดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างช้าๆแล้ว ไม่เป็นอันตรายต่อกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงด้านระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว อาหารในกลุ่มนี้ยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบขับถ่ายของร่างกายด้วย

3 ไข่แดง
เวลาที่รับประทานไข่ไม่ว่าจะเป็นไข่จากสัตว์ประเภทใดก็ตามหลายคนเลือกที่จะเขี่ยไข่แดงทิ้ง เพราะคิดว่าไข่แดงจะทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารประเภทไขมันที่มากเกินไป แต่จริงๆแล้วไข่แดงถือเป็นอาหารที่มีสารอาหารที่สมบูรณ์และเหมาะสมอย่างยิ่งต่อสมอง
การรับประทานไข่แดงจะทำให้ได้รับทั้งโปรตีน วิตามิน และเกลือแร่ ทำให้จำเป็นที่ต้องรับประทานไข่แดงเข้าไปอยู่เสมอ ทั้งนี้ อาจจะต้องมีการกำหนดปริมาณการรับประทานไข่ในผู้ป่วยที่มีระดับไขมันหรือคอเลสเตอรอลในเลือดสูง เพราะผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่สามารถได้รับไขมันในปริมาณที่สูงเกินไปในแต่ละวันได้ ในขณะที่เด็กๆหรือผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง การได้รับสารอาหารจากไข่ไก่ ถือเป็นแหล่งพลังงานและสารอาหารราคาถูกที่ควรรับประทานเป็นอย่างยิ่ง

4 วิตามินต่างๆ
วิตามินสามารถแบ่งออกได้หลายกลุ่ม แต่หากกล่าวถึงวิตามินที่เหมาะสมสำหรับการดูแลสมองก็ต้องเป็นกลุ่มวิตามินบี เพราะวิตามินบีจะเข้าไปช่วยสนับสนุนการทำงานและชะลอการเสื่อมของสมองได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะวิตามินบี 1 บี 6 และบี 12 ซึ่งอยู่ในอาหารหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ถั่วเหลือง จมูกข้าวกล้วย เป็นต้น
การได้รับวิตามินบีควรที่จะรับประทานในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายสามารถดึงเอาสารอาหารเหล่านี้ไปใช้กับร่างกายให้ได้รับประโยชน์สูงสุด
จะเห็นว่ามีอาหารหลากหลายประเภทที่ช่วยในการบำรุงสมอง แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะรับประทานให้หลากหลายและสมดุล ไม่รับประทานอาหารใดอาหารหนึ่งมากจนเกินไป จนลืมที่จะรับประทานอาหารประเภทอื่นๆที่ก็มีความสำคัญต่อร่างกายไม่แพ้กัน
เพียงแค่การเลือกรับประทานอาหารที่ดี สมองก็จะได้รับการดูแลจากโภชนาการที่เหมาะสม และได้รับสารอาหารที่เหมาะสมที่เป็นประโยชน์ต่อสมองและส่วนต่างๆของร่างกาย เพื่อพร้อมต่อการทำงานหรือทำกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวันแล้ว ซึ่งก็จะช่วยให้คุณมีสมองที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพที่สูงและอยู่กับเราไปได้อีกนานแสนนาน