ใครว่า…ไมโครเวฟ อันตราย ?
เชื่อว่าเกือบทุกบ้านจะต้องมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไมโครเวฟติดบ้านเป็นอย่างแน่นอน เพราะอุปกรณ์ชิ้นนี้ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่ต้องการใช้ชีวิตให้ง่ายมากขึ้น สะดวกมากขึ้น และประหยัดเวลามากขึ้น ไมโครเวฟสามารถที่จะใช้ในการปรุงหรืออุ่นอาหารได้มากมาย เพียงแค่คุณเสียบปลั๊ก และกดปุ่มต่างๆ ที่ออกแบบมา คุณก็สามารถที่จะเอร็ดอร่อยกับอาหารจานโปรดของคุณได้ในเวลาไม่นาน แถมยังไม่เสียเวลาการรอคอยอีกด้วย
ถึงแม้ว่าใครว่า…ไมโครเวฟ อันตราย ?จะเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย แต่ยังมีข้อสงสัยกันมาโดยตลอดว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนี้จะมีผลเสียต่อร่างกายหรือไม่ จะมีสารตกค้างที่เกิดขึ้นจากการแผ่รังสีไมโครเวฟเข้าสู่อาหารบ้างหรือเปล่า และหากรับประทานเข้าไปเป็นเวลานานๆ ร่างกายจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง คุณค่าทางอาหารอย่างครบถ้วนเหมือนกับการปรุงอาหารด้วยวิธีการอื่นๆหรือไม่ ลองมาหาคำตอบกันได้เลย
ไมโครเวฟเป็นอุปกรณ์ให้ความร้อนที่ออกแบบมาใช้กับอาหาร โดยจะมีการแผ่คลื่นในย่านความถี่ไมโครเวฟออกไป เพื่อทำให้โมเลกุลน้ำที่อยู่ในอาหารเกิดการสั่นสะเทือนจนเกิดเป็นความร้อน เพื่อทำให้อาหารอุ่นหรือสุกมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในการย่นระยะเวลาในการปรุงอาหารนั่นเอง

ในส่วนของคำถามที่ถามว่าการใช้ไมโครเวฟในการปรุงอาหารจะทำให้สูญเสียคุณค่าทางสารอาหารหรือไม่ ก็ต้องตอบว่า…โดยทั่วไปแล้ว ไม่ว่าเราจะใช้วิธีการใดในการปรุงอาหาร หากมีการใช้ความร้อนก็ย่อมเกิดการสูญเสียของสารอาหารใดๆทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการใช้เตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือไมโครเวฟก็ตาม
จากการศึกษา พบว่า การใช้ไมโครเวฟไม่ได้ทำให้อาหารเสียคุณค่าทางอาหารมากขึ้น แต่กลับจะช่วยถนอมให้สูญเสียคุณค่าทางสารอาหารได้น้อยกว่าการใช้วิธีการหุงต้มแบบธรรมดา ทั้งนี้ เนื่องจากการใช้ไมโครเวฟจะใช้ระยะเวลาในการทำความร้อนที่สั้นกว่า การสูญเสียของสารอาหารจึงน้อยลงนั่นเอง
นอกจากนี้ การอุ่นอาหารด้วยไมโครเวฟไม่จำเป็นต้องใช้น้ำในปริมาณที่มากเหมือนกับการต้มในหม้อน้ำเดือดทั่วไป ดังนั้น ไมโครเวฟจึงช่วยรักษาวิตามินที่อยู่ในอาหารได้ดีมากขึ้นกว่าวิธีการปกติที่จะสูญเสียสารอาหารที่ละลายน้ำออกไป
หรือหากเปรียบเทียบการใช้ไมโครเวฟกับเตาอบธรรมดาที่ใช้ลมร้อนในการทำให้อาหารสุก เตาอบธรรมดาจะเป็นการทำสุกจากข้างนอกเข้าสู่ข้างใน ซึ่งทำให้ผิวนอกของอาหารได้รับความร้อนที่มากเกินไปและเป็นการสูญเสียสารอาหารมากขึ้น ต่างจากไมโครเวฟที่จะเป็นการทำให้สุกได้มั่วทั้งชิ้นอาหารในเวลาเดียวกัน จึงเป็นการสูญเสียสารอาหารที่น้อยกว่า
ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ไมโครเวฟไม่ได้เป็นเครื่องมือที่ทำให้สารอาหารสูญเสียมากไปกว่าการปรุงด้วยวิธีการอื่นๆเลย ในทางกลับกัน ยังจะช่วยถนอมสารอาหารได้ดีขึ้นด้วยซ้ำ

อีกหนึ่งคำถามที่เป็นที่สงสัยกันอย่างมากว่า การรับประทานอาหารที่มีการอุ่นร้อนด้วยไมโครเวฟ จะเป็นสาเหตุของการก่อมะเร็งได้จริงหรือไม่? ก็ต้องตอบว่า…ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยใดๆที่ยืนยันอย่างชัดเจนว่าอาหารที่ผ่านการให้ความร้อนด้วยไมโครเวฟจะก่อให้เกิดมะเร็งได้
เพียงแต่ผู้บริโภคจะต้องระมัดระวังการใช้ภาชนะที่ใช้ในการอุ่นอาหารในไมโครเวฟ เพราะหากใช้ภาชนะที่ไม่เหมาะสม ภาชนะเหล่านั้นจะมีการปล่อยสารเคมีออกมา ซึ่งเมื่อสัมผัสกับอาหารแล้วเรารับประทานเข้าไป ก็จะก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหรือโรคร้ายแรงอื่นๆได้ดังนั้น การเลือกภาชนะที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ต้องการใช้ไมโครเวฟ
ในส่วนของรังสีไมโครเวฟที่ใช้ในการสร้างความร้อน ก็ไม่ได้เป็นรังสีที่จะมีการตกค้างในอาหารจนเป็นอันตรายต่อร่างกาย เนื่องจากไมโครเวฟจะทำงานด้วยการปล่อยรังสีเป็นคลื่นและพุ่งลงไปที่อาหารโดยตรง ช่วยทำให้น้ำในอาหารเกิดการสั่นสะเทือนจนเป็นความร้อน ก่อนที่พลังงานเหล่านั้นจะสลายตัวไป จึงไม่ได้เกิดเป็นการตกค้างในอาหารแต่อย่างใด
ทั้งนี้ การปรุงอาหารด้วยไมโครเวฟ ก็ยังมีข้อควรระวังในเรื่องของการปรับตั้งค่าความร้อน และระยะเวลาในการทำงานของไมโครเวฟอย่างเหมาะสมต่ออาหารแต่ละชนิด เพื่อให้ได้คุณภาพของอาหารที่ดีที่สุด รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงภาชนะที่อาจจะมีการปล่อยสารอันตรายออกมาเมื่อเจอกับความร้อนได้
สรุปได้ว่าไมโครเวฟถือเป็นอุปกรณ์ที่น่าจะช่วยให้ชีวิตของมนุษย์เรามีความสะดวกสบายในการอุ่นหรือทำสุกอาหารได้มากขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ต้องเรียนรู้วิธีการในการใช้งานอย่างถูกต้อง ซึ่งโดยส่วนใหญ่ ผู้ใช้งานสามารถศึกษาวิธีการปรับเครื่องไมโครเวฟได้จากข้อมูลบนบรรจุภัณฑ์ที่ห่อหุ้มอาหาร ซึ่งมักจะระบุอยู่แล้วว่าจะต้องมีการอุ่นร้อนด้วยพลังงานกี่วัตต์และใช้เวลากี่วินาที ถึงจะได้คุณภาพของอาหารที่ดีที่สุด
หากผู้บริโภคำเลือกวิธีทำได้อย่างถูกต้อง ก็เชื่อว่าผู้บริโภคทุกท่านจะสามารถใช้ไมโครเวฟได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณแน่นอน