ทางออกสำหรับคนอยาก Move on
ในยุคสมัยนี้ เชื่อว่าทุกคนน่านะเคยได้ยินหรือเข้าใจกับคำว่า Move on เป็นอย่างดี เพราะเป็นคำพูดที่ดารานักแสดงมักจะใช้กันเวลาที่ต้องการเปลี่ยนแปลงจากสิ่งใดสิ่งหนึ่งและก้าวไปสู่สิ่งใหม่ เพื่อให้ชีวิตก้าวต่อไปข้างหน้า ไม่จมปลักอยู่กับอดีตที่มีแต่ความเศร้าตรม
มีข้อมูลงานวิจัยที่น่าสนใจชี้ว่า เมื่อความสัมพันธ์กับคนรักจบลง สมองของเราจะมีอาการคล้ายกับคนที่หยุดเสพเฮโรอีนไปดื้อๆ ทำให้รู้สึกคิดถึงและเสพติดความเจ็บปวดกับความสัมพันธ์ที่ไม่เป็นไปอย่างตั้งใจ และโดยส่วนใหญ่จะใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ในการ move on ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละบุคคลและความลึกซึ้งของความสัมพันธ์
ในชีวิตความเป็นจริงแล้ว การจะ Move on จากสิ่งแวดล้อมเดิมๆ หรือความเคยชินเดิมๆที่เราเคยมีความผูกพันที่ลึกซึ้งคงจะทำได้ยาก และเชื่อว่าคงจะเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ของใครบางคน ในบทความนี้จึงอยากจะนำเสนอทางออกที่น่าจะช่วยให้การ Move on เป็นไปได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. ยอมรับกับมัน
หากคุณทำข้อนี้ไม่ได้ก็ยากที่จะ Move on ออกจากวังวนของความรู้สึกเดิมๆ เพราะการยอมรับความจริงเป็นสิ่งแรกที่จะต้องทำ เมื่อความสัมพันธ์จบลงเราคงไม่อาจย้อนวันเวลาไปแก้ไขอะไรได้ การยอมรับและพร้อมจะก้าวเดินต่อไปต่างหากที่เราควรที่จะทำ อย่าพยายามเชื่อหรือหลอกตัวเองว่าทุกๆสิ่งจะสามารถกลับมาเหมือนเดิมได้ เพราะมันจะยิ่งทำให้คุณจมดิ่งจนหาทางออกไม่เจอ และต้องใช้เวลากับความเศร้าที่นานมากขึ้นกว่าเดิม

2. อยู่กับตัวเองให้มากขึ้น
การที่เราอกหักจากคนรักเก่าอาจเป็นเพราะเหตุผลต่างๆมากมาย ลองใช้เวลานี้ทบทวนตัวเอง เรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และปล่อยอดีตที่ขมขื่นให้ผ่านพ้นไป ให้เลือกนำเอาความผิดหวังจากคนในอดีตมาใช้แก้ไขความสัมพันธ์กับคนในอนาคต เพื่อให้ความรักในครั้งต่อไปมีความสมบูรณ์แบบ และห่างไกลจากคำว่าล้มเหลวให้ได้มากที่สุด
3. อยู่กับเพื่อน
คนรักอาจจะไม่ได้อยู่กับเราตลอดชีวิต แต่เพื่อนรักจะเป็นคนที่สามารถอยู่ข้างเราได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นวันที่สุขหรือเศร้า ดังนั้น หากเมื่อไรที่ต้องผิดหวังกับความรัก การได้อยู่กับเพื่อนที่สนิท ทำกิจกรรมร่วมกัน หรือใช้เวลากับเพื่อนที่ไว้ใจ จะช่วยให้ใจของเราดีขึ้นและการ Move on ก็จะง่ายมากขึ้นด้วย
4.เลิกติดต่อ
ปัญหาสำคัญที่ทำให้คุณไม่สามารถ move on ได้ ก็คือ การที่คุณไม่สามารถตัดเยื่อใยจากคนรักเก่าได้ ยังคอยวนเวียนติดตามความเป็นไปของชีวิตเขาอยู่ตลอด คอยแอบไปส่องดูชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ดูว่าเขาสมหวังกับความรักครั้งใหม่หรือไม่? คนใหม่ของเขาดีกว่าเราตรงไหน? การกระทำแบบนี้ล้วนแต่ทำให้เราไม่สามารถจะละทิ้งเขาไปได้สักที และทำให้เราจมอยู่กับความเศร้าโดยที่เขาก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร
5. รักตัวเองดีที่สุด
เมื่อความรักครั้งเก่าต้องจบลง ต้องหันกลับมารักตัวเองให้มากขึ้น อย่าทำร้ายตัวเอง ทรมานตัวเอง เพียงเพื่อหวังจะให้เขาสงสารและกลับมารักเรา เพราะมันคือการลดคุณค่าในตัวเอง และไม่มีทางทำให้คุณได้ความรักที่ดีกลับคืนมาแน่นอน ลองกลับมารักตัวเอง ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น เปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ พัฒนาสิ่งที่ยังอ่อนแอให้แข็งแกร่ง นั่นจะทำให้คุณกลับมาเป็นที่รักของใครอีกหลายคนได้อย่างแน่นอน

6. หากิจกรรมทำ
เมื่อต้องผิดหวังกับความรัก การจะลืมเรื่องราวที่ยังเป็นแผลในใจสามารถทำได้ด้วยการกลบภาพเก่าที่เคยมี ออกไปหากิจกรรมใหม่ๆที่ไม่เคยทำ ออกไปเที่ยว ออกไปเปิดหูเปิดตากับโลกกว้าง เรียนรู้ประสบการณ์ครั้งใหม่ การหากิจกรรมที่สร้างสรรค์แบบนี้จะช่วยให้คุณลื้เรื่องที่เคยเสียใจ และไม่แน่ว่าอาจจะเจอกับเรื่องดีๆเรื่องใหม่ในชีวิตก็ได้
7. อย่าพยายามลืม
คุณอาจจะคิดว่าการลืมให้ได้เร็วที่สุดจะเป็นทางออกที่ทำให้คุณสามารถเดินต่อไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วกลไกของมนุษย์จะพยายามแสดงออกในทางตรงข้ามเสมอ ยิ่งพยามลืมเท่าไหร่ กลับยิ่งจำได้ และคิดถึงสุดหัวใจ เพราะฉะนั้นการบังคับสมองให้ลืมจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
8. เริ่มต้นรักครั้งใหม่
อาจจะฟังดูเหมือนเป็นคนโลเล ไม่รักเดียวใจเดียว แต่นักจิตวิทยาหลายคนก็ให้ความเห็นตรงกันว่า การเริ่มต้นรักครั้งใหม่สามารถช่วยทำให้การ Move on เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เพราะความรักครั้งใหม่จะเป็นตัวการเพิ่มความสุข ทำให้สมองหลั่งสารเอ็นโดรฟิน และลดความเจ็บปวดจากแผลของความรักครั้งเก่าให้ลดน้อยลงได้
การ Move on หรือพยายามเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปเป็นสิ่งที่ทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับความผิดหวังควรที่จะทำ ลองนำเอาเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยเหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อดึงตัวเองออกจากความเศร้าให้ได้เร็วที่สุด กลับมายิ้มอีกครั้งให้สดใสขึ้นกว่าเดิม และเรียนรู้กับโลกใบนี้ในมุมมองที่หลากหลาย เมื่อใดก็ตามที่คุณสามารถทำได้ คุณจะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กล้าจะก้าวออกมาจากความเศร้าโศก และกลายเป็นคนที่เข็มแข็งขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน