การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี

สมองล้าต้องบำรุงอย่างไร

สมองล้าต้องบำรุงอย่างไร

คนที่ต้องทำงานอย่างหนัก ทำงานทุกวัน ไม่มีวันหยุด หรือแม้กระทั่งเวลาดึกดื่นค่ำมืดก็ต้องคอยรับโทรศัพท์เพื่อแก้ไขปัญหาหรือตอบอีเมล์ตลอดเวลา การที่คุณใช้ร่างกายอย่างหนักในการทำงาน เพื่อหวังการเติบโตในหน้าที่การงาน อาจจะทำให้ความเสื่อมของร่างกายเกิดขึ้นกับคุณได้เร็วกว่าใครเพื่อน โดยเฉพาะการทำงานที่หนักจนขาดการพักผ่อนหรือมีความเครียดสะสม ยิ่งส่งผลให้สมองมีความเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ และเมื่อสมองล้าก็จะยิ่งส่งผลให้ระบบความจำของคุณลดลง จนอาจจะทำให้เกิดโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน หรือความจำเสื่อมก่อนวัยได้

แน่นอนว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของคุณ ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเอาใจใส่และบำรุงสมองตั้งแต่ตอนนี้

ภาวะสมองล้า คือ ภาวะเครียดที่เป็นการสะสมในระยะเวลานาน ซึ่งมักเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว อาจจะเกิดจากการที่คุณเร่งรีบในการทำงาน พักผ่อนน้อย และใช้สมองในการทำงานมากจนเกินไป จนทำให้สารสื่อประสาทในสมองซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการเชื่อมต่อข้อมูลต่างๆเข้าด้วยกัน เกิดภาวะเสียสมดุล และทำให้ประสิทธิภาพในการคิดหรือการทำงานของสมองต่ำลง คิดงานไม่ออก สมองตื้อ และหลายๆครั้งก็มักจะเป็นบ่อเกิดของการเกิดโรคอื่นๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ภาวะอ้วน โรคกระเพาะอาหาร ภาวะประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือโรคเบาหวาน เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีสาเหตุอื่นๆที่บ่มเพาะให้เกิดอาการสมองล้า ไม่ว่าจะเป็น คลื่นแม่เหล็กจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือแท็บเล็ต อุปกรณ์ต่างๆเหล่านี้จะรบกวนการหลั่งของสารสื่อประสาทในสมอง ซึ่งจะมีผลทำให้คุณมีสมองที่ล้าได้ง่ายมากขึ้น

ประกอบกับความเครียดที่คุณสะสมมาจากการทำงาน การใช้ชีวิต หรือจากครอบครัวคนรอบข้าง ก็จะยิ่งทำให้การไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองได้น้อยลง จนทำให้ภาวะสมองล้าเกิดขึ้นกับคุณได้มากขึ้น ยิ่งหากคุณพักผ่อนไม่เพียงพอ หรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้สารอาหารไม่ครบถ้วน หรือได้รับสารพิษจากมลภาวะต่างๆรอบละรอบตัวคุณ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุของการทำลายสมองและทำให้เกิดภาวะของสมองล้าได้มากขึ้นไปกว่าเดิม

สมองล้าต้องบำรุงอย่างไร
สมองล้าต้องบำรุงอย่างไร — ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/woman-trying-focus-searching-solutions-brain-being-great-strategist-portrait-intense-businesswoman-trying-concentrate-frowning-holding-hands-temples-thinking-hard-find-solution_9865840.htm#page=1&query=brain%20tried&position=37

แล้วเมื่อไหร่คุณจะรู้ว่ากำลังเผชิญหน้าอยู่กับภาวะของสมองล้า?

คุณสามารถสังเกตตัวเองได้ว่าหากคุณนั้นเริ่มนอนไม่หลับ รู้สึกปวดศีรษะแบบเรื้อรัง สายตาอ่อนเพลียอยู่เสมอ อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย ขี้หลงขี้ลืม หรือมีความจำในระยะสั้นที่แย่ลง รวมถึงสมาธิที่เคยมีก็หดหาย ความคิดสร้างสรรค์ที่เคยเกิดก็เปลี่ยนแปลงไป รู้สึกไม่สดชื่นเหมือนอย่างที่เคยเป็น สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่บ่งบอกได้เลยว่า “คุณกำลังเกิดภาวะสมองล้าขึ้นแล้ว”

หากคุณเกิดภาวะนี้ขึ้นมาก็ยังไม่ต้องกังวลมากเกินไปนัก เพราะในความเป็นจริงแล้วคุณยังสามารถที่จะแก้ไขปัญหานี้ได้ วิธีการในการรักษาอาการสมองล้าจำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตทั้งส่วนของพฤติกรรมการใช้ชีวิต การรับประทานอาหาร การดูแลจิตใจ การออกกำลังกาย รวมไปถึงการล้างสารพิษต่างๆออกจากร่างกาย หากคุณสามารถทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้ควบคู่กัน ก็จะยิ่งทำให้สมองของคุณกลับมาใช้ได้อีกครั้งหนึ่ง

คุณต้องหยุดพักสมองในช่วงเวลาที่จำเป็นบ้างในบางครั้ง คลายเครียด หรือหาความรื่นเริงให้กับสมองบ้าง นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการได้รับสารพิษต่างๆจากการสูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

สมองล้าต้องบำรุงอย่างไร
สมองล้าต้องบำรุงอย่างไร — ภาพจาก : https://www.freepik.com/premium-photo/how-can-i-fight-this-upset-focused-young-woman-looking-shocked-while-examining-her-x-ray-picture-trying-figuring-out-problem_12715174.htm#page=1&query=brain%20tried&position=39

การพยายามรักษาไม่ให้สมองอ่อนล้าสามารถทำได้ด้วยตัวของคุณเอง อีกหนึ่งในวิธีการที่สำคัญที่คุณควรจะทำ ก็คือ การรับประทานอาหารเพื่อบำรุงสมองซึ่งมีสารอาหารหลากหลายประเภทที่มีคุณสมบัติในการบำรุงสมองได้เป็นอย่างดี ขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้

1 สารสกัดจากแปะก๊วย หลายคนมักจะถูกไล่ให้ไปทานแป๊ะก๊วยเมื่อเริ่มมีอาการหลงๆลืมๆ ก็เพราะว่าสารตัวนี้จะช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ด้วยดี เมื่อเลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองต่างๆได้ดี จะส่งผลต่อความจำที่ดีตามมาด้วย และช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ได้

2 น้ำมันปลา ในน้ำมันชนิดนี้จะประกอบไปด้วย DHA หรือกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า 3 ซึ่งมีความสามารถในการป้องกันความจำเสื่อม และช่วยเสริมสร้างทักษะในการทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท รวมถึงระบบการมองเห็นของประสาทตา

3 สารสกัดจากจมูกข้าว มีความสำคัญในการทำหน้าที่เป็นสารสื่อประสาทในระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยให้สมองเกิดความผ่อนคลาย และนอนหลับให้สบาย ช่วยป้องกันสมองล้าได้ดี

4 สารสกัดจากโสม เรารู้ดีว่าโสมเป็นสมุนไพรจีนที่มีประโยชน์สารพัดนึก ซึ่งอีกหนึ่งประโยชน์ที่ช่วยร่างกายได้ก็คือการบำรุงสมอง ต้านความเครียด และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย

5 โคลีน choline โคลีนเป็นหนึ่งในสารสำคัญในกลุ่มวิตามินบี ช่วยให้การส่งกระแสประสาทเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันภาวะความจำเสื่อมได้เป็นอย่างดี

การได้รับประทานอาหารที่มีคุณประโยชน์จะช่วยให้สมองได้รับสารที่สำคัญ จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ช่วยป้องกันภาวะสมองล้า และทำให้คุณมีความคิดที่ลื่นไหลได้ตลอดทั้งวัน

ลองหันมาดูแลตัวเองด้วยกิจกรรมต่างๆที่เราแนะนำดังที่กล่าวไปแล้ว น่าจะช่วยให้คุณมีสมองที่สดใสได้ในทุกๆวัน