การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ

ทำหมันชายไปแล้วยังแก้ได้อย่างไร

ทำหมันชายไปแล้วยังแก้ได้แก้ไขได้อย่างไร

ว่ากันว่า…ผู้ชายเป็นเพศแห่งความแข็งแกร่ง และต้องการดำรงเผ่าพันธุ์ด้วยกันสืบพันธุ์ เพื่อเป็นการขยายจำนวนประชากรโลก ทำให้เพศชายมักจะหวงแหนความสามารถในการสืบพันธุ์ และคงจะมีความรู้สึก ไม่ดีหากสิ่งที่หวนแหนนี้ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ

อย่างไรก็ตาม มีหลากหลายปัจจัยที่ทำให้เพศชายไม่สามารถที่จะสืบพันธุ์ได้ตามปกติ หรือในบางกรณีก็เกิดขึ้นจากการตัดสินใจระหว่างคู่สามีภรรยา ที่ต้องการที่จะวางแผนครอบครัวและหยุดการมีลูก โดยอาจจะมีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งก็มีหลายคู่ที่สามีตัดสินใจที่จะทำหมันแทนภรรยา เนื่องมาจากการทำหมันในเพศชายนั้นเจ็บน้อยกว่า

และถึงแม้ว่าการสูญเสียความสามารถในการสืบพันธุ์จะเป็นสิ่งที่ไม่มีชายคนใดต้องการอยากจะให้เป็น แต่สำหรับบางกรณีก็อาจจำเป็นจะต้องทำ อย่างไรก็ตาม เรายังสามารถที่จะแก้หมันชายได้ เพื่อทำให้ ผู้ชายคนนั้นสามารถที่จะกลับมามีบุตรได้อีกครั้ง ซึ่งในวันนี้เราจะอธิบายกันถึงวิธีการ รวมไปถึงความเสี่ยงต่างๆจากการแก้หมันในเพศชายกันค่ะ

ทำหมันชายไปแล้วยังแก้ได้อย่างไร
ทำหมันชายไปแล้วยังแก้ได้อย่างไร — ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/attractive-man-feeling-disappointed-depressed-because-erectile-dysfunction_9879276.htm#page=1&query=man%20sex%20problem&position=33

ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่าการแก้หมันชายคืออะไร ?

การแก้หมันชาย (Vasectomy Reversal) คือ การพยายามผ่าตัดเพื่อต่อท่อน้ำเชื้ออสุจิกลับเข้าไปด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยตัดท่อน้ำเชื้อออกจากกัน แล้วผูกปลายทั้งสองข้างเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเดินทางของอสุจิและทำให้เกิดเป็นการตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งในวิธีการคุมกำเนิดแบบถาวรที่หลายคนนิยมกัน

การทำหมันชายจะช่วยทำให้อัตราการมีบุตรลดลง และการแก้หมันชายจะทำให้อัตราการมีบุตรกลับมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าความสามารถที่จะกลับมามีบุตรไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องขึ้นอยู่กับประเภทของการผ่าตัด ความชำนาญของแพทย์ผู้ผ่าตัด และระยะเวลาในการทำหมันด้วย

สำหรับความเสี่ยงในการแก้หมันชายให้กลับมาเป็นปกติ ก็ต้องบอกว่าโอกาสในการประสบความสำเร็จก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าการทำหมันในเพศชายเกิดขึ้นมานานมากแค่ไหนแล้ว เพราะหากมีระยะเวลาในการทำหมันมานานแล้ว อาจจะทำให้น้ำเชื้ออสุจิมีโอกาสการอุดตันมากขึ้น และทำให้การแก้หมันชายยากมากขึ้นกว่าเดิม

ทั้งนี้ ก็จะพบว่าสำหรับผู้ชายบางคนที่มีการแก้หมันชายไปแล้ว อาจจะเกิดปฏิกิริยาการต่อต้านอสุจิของตนเองได้ ซึ่งจะทำให้โอกาสในการกลับมาตั้งครรภ์อีกครั้งของเพศหญิงลดน้อยลง และหากเกิดการอุดตันของท่อน้ำเชื้อหรือท่ออสุจิ ก็จะยิ่งทำให้การผ่าตัดเพื่อแก้ไขหมันชายใช้เวลานาน หรือใช้ความซับซ้อนมากขึ้นกว่าเดิม

ดังนั้น คุณต้องมั่นใจจริงๆว่าหากตั้งใจแล้วว่าจะควบคุมและป้องกันการมีบุตรจริงๆ จึงค่อยตัดสินใจทำ เพราะหากมีการเปลี่ยนใจในภายหลัง อาจจะทำให้เกิดความซับซ้อนในการแก้ไขได้

ทำหมันชายไปแล้วยังแก้ได้อย่างไร
ทำหมันชายไปแล้วยังแก้ได้อย่างไร — ภาพจาก : https://www.freepik.com/premium-photo/sex-lovers-bed-big-surprise-delight-hot-intimate-life_10428885.htm#query=man%20sex&position=15

ทั้งนี้ ขั้นตอนในการผ่าตัดเพื่อเตรียมตัวเข้ารับการแก้หมันในเพศชาย ก็ไม่ได้มีความยุ่งยากอะไรมากนัก ทั้งนี้ ผู้ที่ต้องการเข้ารับการผ่าตัดควรที่จะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการงดรับประทานอาหารและน้ำดื่มก่อนการผ่าตัดอย่างน้อย 6 ชั่วโมง งดดื่มกาแฟ แล้วจะต้องเข้าพบวิสัญญีแพทย์เพื่อวางแผนในการใช้ยาระงับความรู้สึก

ในส่วนของวิธีการในการแก้หมันชาย แพทย์จะต้องมีการผ่าตัดโดยการใช้ยาระงับความรู้สึก และใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง ถึง 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยแพทย์จะทำการกรีดถุงอัณฑะทั้ง 2 ข้าง เพื่อหาท่อนำอสุจิที่เคยตัดและผูู้กเอาไว้ จากนั้น จึงขยายท่อและต่อท่อเข้าหากันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้อสุจิสามารถเดินทางจากอัณฑะผ่านช่องทางออกมาสู่โลกภายนอกได้

ทั้งนี้ การผ่าตัดเพื่อแก้หมันชายใช้การพักฟื้นไม่นาน และสามารถที่จะกลับมาทำงานหรือใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังการผ่าตัดประมาณ 1 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คุณผู้ชายที่อยู่ระหว่างการพักฟื้นจะต้องระมัดระวังการทำกิจกรรมต่างๆ เพราะการออกแรงอาจจะมีผลทำให้เกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับแผลผ่าตัดที่ดำเนินไปได้ และหลังจากการที่มีการผ่าตัดไปแล้วประมาณ 2 เดือน จะต้องกลับมาตรวจสอบผลลัพธ์ โดยทำการเก็บตัวอย่างน้ำอสุจิจากเพศชายเพื่อนำมาหาจำนวนตัวอสุจิ เพื่อตรวจว่าการผ่าตัดนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีหรือไม่ หากไม่ตรวจพบอสุจิก็แสดงว่าการแก้หมันชายนั้นล้มเหลว และอาจจะต้องอาศัยวิธีการอื่นๆในการที่จะทำให้กลับมามีบุตรอีกครั้งหนึ่งแทน

ในส่วนของภาวะแทรกซ้อนก็จะต้องระวังในเรื่องของการใช้ยาระงับความรู้สึก ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดภาวะเลือดออกมากหรือเลือดแข็งตัว รวมไปถึงอาจจะมีการบาดเจ็บบริเวณเส้นเลือดแดงหรือเส้นประสาทที่ถุงอัณฑะ ซึ่งเกิดขึ้นจากการผ่าตัดได้

ในส่วนของคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในการแก้หมันชาย หากคุณยังต้องการที่จะให้กำเนิดบุตร อาจจะต้องเปลี่ยนวิธีการไปเป็นวิธีอื่นแทน เช่น อาจจะพิจารณาการใช้อสุจิจากผู้บริจาครายอื่น หรืออาจจะต้องให้แพทย์ใช้เข็มดูดอสุจิออกมาจากอัณฑะ เพื่อนำมาปฏิสนธิกับไข่ในการทำเด็กหลอดแก้ว เป็นต้น

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำหมัน ไม่ว่าจะเป็นเพศชายหรือเพศหญิง ก็ต้องมั่นใจว่าต้องการที่จะยุติการมีบุตรแล้วจริงๆ เพราะการแก้ไขการทำหมัน แม้ว่าจะทำได้จริง แต่ก็มีความเสี่ยงและมีภาวะแทรกซ้อนที่คุณต้องระมัดระวัง และจำเป็นต้องศึกษาข้อมูลอย่างแน่นหนาก่อนที่จะลงมือ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยต่อร่างกายของคุณมากที่สุด