เครียดเรี่องงานมีผลเสียอะไรบ้าง
คนในวัยทำงานจำเป็นจะต้องทุ่มแรงกายแรงใจสุดตัว เพื่อที่จะทำให้งานที่รับผิดชอบอยู่ประสบความสำเร็จหรือเป็นไปในรูปแบบที่ต้องการ ซึ่งในบางเวลาที่เราพยายามที่จะทำงานให้ดีที่สุด อาจจะทำให้เราเกิดเป็นความเครียด ยิ่งทำงานมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเครียดมากเท่านั้น ซึ่งความเครียดจะนำพาให้เกิดเป็นปัญหาต่างๆตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะแสดงออกทางผิวกาย หรือเป็นความไม่สดชื่นทางอารมณ์
เราจะมาลองเช็คกันไหมว่า…คุณนั้นกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความเครียดจากงานมากจนเกินไปหรือเปล่า? เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณมีอาการต่างๆเหล่านี้มากกว่า 3 ข้อ ก็ให้คุณรับรู้ได้เลยว่ากำลังเผชิญหน้ากับความเครียดในเรื่องงานที่มากจนเกินไปแล้ว และจำเป็นอย่างยิ่ง
ข้อ 1 อ่อนเพลีย
ทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนที่มีความแข็งแรงอยู่เสมอ ร่างกายกำยำ สันทัด แต่ช่วงหลังมานี้กลับรู้สึกอ่อนเพลีย หมดแรง กลับถึงบ้านก็ไม่อยากจะทำอะไรเลย นอกจากความต้องการทิ้งตัวลงบนที่นอน หรือบางครั้งอาจจะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มป่วยง่ายกว่าเดิม ภูมิต้านทานร่างกายน้อยลง หรือร่างกายไม่แข็งแรงเท่าเดิม
หากเริ่มเป็นแบบนี้ก็แสดงว่าคุณกำลังเผชิญหน้ากับความเครียดในการทำงานมากจนเกินไปเสียแล้ว

ข้อ 2 อาการปวดขมับในช่วงเวลาที่กดดัน
ในการทำงานจะมีช่วงเวลาที่ทั้งตึงและทั้งผ่อนคลาย หากเป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างตึงเครียด เราอาจจะจำเป็นต้องแบกรับความกดดันจากการทำงาน จากหัวหน้าที่สั่งงานอย่างหนัก และจากลูกน้องที่ทำงานไม่ถูกใจ ซึ่งหากเมื่อใดก็ตามที่ความกดดันบ่มเพาะให้คุณเกิดความรู้สึกในการปวดหัวอย่างรุนแรงขึ้นมาแบบทันทีทันใด นั่นก็หมายความว่าคุณกำลังมีความเครียดกับเรื่องนั้นๆมากจนเกินไปแล้ว จำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายสมองเสียบ้าง มิฉะนั้นอาจจะทำให้เกิดเป็นอาการที่รุนแรงมากไปกว่านี้
ข้อ 3 รับประทานอาหารไม่เหมือนเดิม
ลองเช็คดูหน่อยว่าหลังมื้ออาหารแต่ละมื้อ อาหารในจานของคุณเหลือมากขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า? หากรู้สึกว่ากินได้น้อยลงหรือแทบจะไม่อยากจะรับประทานอาหาร จนทำให้เกิดเป็นอาการผอม หมดเรี่ยวแรง อาจจะเป็นเพราะว่าคุณนั้นคิดเรื่องงานมากจนเกินไป เก็บมาคิดอย่างหนักจนไม่เป็นอันกินอันนอน จนทำให้ไม่มีความสุขในการรับประทานอาหารอีกต่อไป
หรือในกรณีกลับกันอาจจะเกิดเป็นความเครียดที่มากเกินไป จนทำให้รับประทานอาหารมากจนไม่รู้ตัว เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เพราะมัวแต่ครุ่นคิดเรื่องงานไปด้วย หรือต้องรับประทานอาหารให้รวดเร็วที่สุด เพื่อเอาเวลาพักที่มีอยู่ไปทำงานแทน การกระทำในทางกลับกันเช่นนี้จะทำให้น้ำหนักพุ่งพรวดอย่างรวดเร็ว และอาจจะเกิดเป็นโรคร้ายโรคอื่นๆตามมา
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะรับประทานอาหารมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็ล้วนแล้วแต่จะเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณทั้งนั้น เพราะฉะนั้นนอกจากเลือกชนิดอาหารที่เหมาะสมแล้ว จะต้องเลือกวิธีการรับประทานอาหารที่เหมาะสมด้วย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อร่างกายให้มากที่สุด
ข้อ 4 ทำเรื่องผิดพลาดบ่อยโดยเฉพาะเรื่องเล็กน้อย
ความผิดพลาดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ถ้าความผิดพลาดของคุณเกิดขึ้นโดยมีความถี่ที่มากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เมื่อก่อนก็ไม่เคยจะผิดพลาดในเรื่องง่ายๆแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะคุณเกิดความเครียดในการทำงานที่มากจนทำให้ขาดสติในการทำงาน ร้อนรนจนเกินไป และอาจจะเป็นที่มาของความผิดพลาดที่ใหญ่โตมโหฬาร หรืออาจจะทำให้มีผลกระทบอย่างยิ่งต่อตำแหน่งหน้าที่การงานที่คุณกำลังรับผิดชอบอยู่ในปัจจุบันได้ หรือแม้ว่าจะใช้เวลาในการคลุกอยู่กับงานมากแค่ไหน แต่ก็ยังไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบเสียที เพราะขาดสมาธิที่ดีในการทำงาน

ข้อ 5 ความอดทนต่ำ
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราเจอความกดดันจากที่ทำงานอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง อาจจะทำให้ความอดทนที่เคยมีอยู่ลดน้อยลง โกรธง่าย เสียใจง่าย และขึ้นเสียงกับเรื่องไม่เป็นเรื่องง่ายๆ ความอดทนต่ำๆแบบนี้ไม่เคยสร้างผลดีให้กับใคร ไม่ว่าจะเป็นตัวคุณหรือคนรอบข้าง เพราะฉะนั้น ต้องย้อนกลับมองดูตัวเองเสียบ้าง ก่อนที่จะไม่มีใครอยากเข้าใกล้คุณ
ข้อ 6 ฝันถึงเรื่องงาน
แค่ในชีวิตประจำวันก็เครียดเรื่องงานมากเกินพอแล้ว หากใครยังเก็บเรื่องงานไปฝันอยู่อีก นั่นหมายความว่า คุณกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาครั้งยิ่งใหญ่แล้ว คุณจำเป็นต้องปล่อยวางและพักผ่อนสมองเสียบ้าง ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการสติแตกมากไปกว่านี้
ข้อ 7 หมดไฟในการทำงาน
ความเครียดที่สะสมอาจจะทำให้คุณเกิดเป็นอาการหมดไฟในการทำงานได้ ไม่อยากตื่นขึ้นไปทำงาน ไม่อยากพบเจอผู้คน ไม่มีไอเดียในการที่จะนำเสนอหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ หากเริ่มมีอาการเช่นนี้นั่นหมายความว่าคุณได้เดินทางมาถึงความเครียดที่จุดสูงสุดแล้ว
ไม่ว่าคุณจะมีอาการใดๆใน 7 ข้อข้างต้นที่กล่าวมา นั่นก็คือสัญญาณสำคัญที่ทำให้คุณควรหันมามองตัวเอง และรับรู้แล้วว่า ณ ปัจจุบันนี้ กำลังเกิดความเครียดกำลังสะสมอยู่ในตัวของคุณ คุณจำเป็นต้องปลดปล่อยความเครียดให้ลดน้อยลงไปกว่าเดิมเสียบ้าง อย่าทำให้มันกลายเป็นปัญหาหลักในจิตใจ และทำให้กลายเป็นสิ่งที่จะฉุดรั้งความสำเร็จในชีวิตของคุณอย่างนี้ตลอดไปเลย
คนที่สามารถจัดการกับความเครียดได้เป็นอย่างดี ย่อมที่จะประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตได้ง่ายมากกว่าคนที่ยึดถือเอาแต่สิ่งเหล่านั้นเอาไว้ตลอดเวลา เมื่อความเครียดลดลง…เชื่อเลยว่าคุณจะสามารถทำงานได้ดีมากขึ้นอย่างแน่นอน