วิธีนอนหลับให้ดีขึ้นแบบเท่าตัวทำอย่างไร
ช่วงเวลาประมาณ 1 ใน 3 ของชีวิตคน จะต้องใช้ชีวิตกับการนอนหลับพักผ่อนอยู่บนเตียงนอน เพราะร่างกายไม่สามารถที่จะ ลืมตาได้ตลอด 24 ชั่วโมงไปตลอดชีวิต จำเป็นต้องมีช่วงเวลาบางส่วนที่จะทำให้ร่างกายได้ฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไป หากใครสามารถที่จะใช้ชีวิตในช่วงของการนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ก็จะทำให้อีก 2 ใน 3 ของชีวิตที่เหลือประสบความสำเร็จได้ง่ายมากกว่า และย่อมส่งผลให้คุณมีสุขภาพที่แข็งแรงหรือเป็นโรคได้น้อยกว่าคนที่นอนหลับไม่เพียงพอ หรือไม่ใส่ใจกับการนอนหลับอย่างที่ควรที่จะเป็น
ถึงแม้ว่าเราอยากจะนอนหลับให้นานเท่านานเพียงใดก็ตาม แต่ก็ต้องยอมรับว่าการนอนหลับยังเป็นปัญหาของใครหลายๆคนอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นพฤติกรรมการนอนดึกที่เคยติดมาในอดีต หรือไม่มีเวลาที่จะพักผ่อนให้เพียงพอ เนื่องจากจำเป็นที่จะต้องเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน หรือทำงานที่จะต้องคอยรับโทรศัพท์หรือตอบคำถามกับลูกน้องที่ทำงานเกือบตลอด 24 ชั่วโมง
ไม่ว่าจะเป็นปัญหาใดก็ตามที่กล่าวถึงข้างต้น พฤติกรรมต่างๆทั้งหมดนี้ล้วนแต่มีผลที่จะทำให้คุณนอนหลับไม่ดี หรือเป็นการนอนหลับที่ไร้คุณภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบในเรื่องอื่นๆตามมาอีกมากมาย และเป็นภัยต่อสุขภาพ
ในบทความนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการในการที่จะทำให้คุณสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นง่ายขึ้น และมีคุณภาพในการนอนหลับที่ดีมากขึ้นด้วย ซึ่งเชื่อเหลือเกินว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการให้เกิดขึ้นกับตัวเอง ซึ่งหากคุณได้ปฏิบัติตามวิธีการเหล่านี้ มันจะเป็นผลสำคัญที่ทำให้คุณสามารถนอนหลับได้ดีขึ้นแบบเท่าตัวแน่ๆ ไม่เชื่อต้องลองทำดู

ทั้งนี้เราจะกล่าวถึงวิธีการนอนหลับให้ดีและมีคุณภาพใน 2 ช่วงเวลา ก็คือ ช่วงก่อนที่จะเข้านอน และช่วงที่คุณบังเอิญตื่นขึ้นมากลางดึก เพื่อทำให้สามารถข่มตานอนหลับได้อีกครั้งหนึ่งอย่างมีคุณภาพที่ดี
สำหรับกรณีแรก ก็คือ การปฏิบัติตัวที่ดีในช่วงก่อนเข้านอน เพื่อให้การนอนหลับในช่วงกลางคืนเป็นไปอย่างมีความสุข ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ควรทำมีดังต่อไปนี้
1 การรับแสงแดดยามเช้า
มีผลวิจัยชี้ชัดออกมาว่าการที่คุณได้รับแสงแดดในยามเช้า ซึ่งเป็นแสงแดดอ่อนๆที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ จะทำให้ร่างกายของคุณหลั่งสารแห่งความสุขหรือสารเอ็นโดรฟินออกมา จึงย่อมที่จะทำให้ชีวิตทั้งวันของคุณมีแต่ความสดชื่น สดใส นอกจากนี้ แสงแดดยังเป็นเหมือนนาฬิกาชีวภาพที่คอยปลุก หรือคอยเตือนให้เรารู้ว่าตอนนี้ คือ ช่วงเวลาไหน หากเราได้รับแสงแดดในยามเช้าอย่างสม่ำเสมอทุกวัน จะทำให้ช่วงเวลากลางคืนของเราหลับได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิม
2 ออกกำลังกาย
การออกกำลังกายในช่วงเย็นหรือหัวค่ำที่ห่างจากช่วงเวลาการเข้านอนมากกว่า 3 ชั่วโมง โดยเป็นการออกกำลังกายแบบเบาๆ จะทำให้ร่างกายของเรามีความเหนื่อยล้าเพิ่มขึ้น และจะทำให้การนอนหลับเป็นไปอย่างง่ายดายมากกว่าเดิม อย่างไรก็ตาม อย่าเลือกวิธีการออกกำลังกายที่หนักจนเกินไป จนร่างกายไม่สามารถอดทนได้ เพราะบางทีอาจจะทำให้เกิดเป็นการกระตุ้นให้ตื่นตัว และอาจจะทำให้เกิดเป็นอาการนอนไม่หลับไปได้แทน
3 การฝึกลมหายใจก่อนเข้านอน
การฝึกลมหายใจในช่วงเวลาก่อนเข้านอนเป็นวิธีการง่ายๆที่เชื่อว่าทุกคนสามารถทำได้ แลtจะมีผลทำให้คุณนอนหลับได้สบายมากกว่าปกติด้วย นอกจากนี้ ยังทำให้คุณเกิดสมาธิ หรือมีช่วงเวลาที่จะได้คิดทบทวนบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ตรึกตรองและใคร่ครวญว่าสิ่งใดที่ควรที่จะพัฒนา หรือสิ่งใดที่ควรที่จะลบมันออกไปจากชีวิต

สำหรับกรณีต่อไป หากเมื่อใดก็ตามที่คุณเผลอตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วจะสามารถทำตัวอย่างไรที่จะสามารถกลับไปนอนหลับได้เหมือนเดิมตามปกติ วิธีการที่เราอยากจะแนะนำก็คือ เมื่อใดตามที่คุณเผลอตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วรู้สึกว่าไม่สามารถนอนหลับได้ในทันที ให้พยายามเปลี่ยนอิริยาบถ เช่น ลุกขึ้นมานั่งเดินเบาๆภายในห้องนอน และค่อยกลับลงไปนอนมาอีกครั้งหนึ่ง การที่เราได้เปลี่ยนอิริยาบถเล็กๆน้อยๆแบบนี้จะทำให้เราง่ายต่อการนอนหลับในช่วงเวลาที่เราตื่นขึ้นมากลางดึกได้ดีกว่า
อีกสิ่งหนึ่งที่คล้ายกันกับวิธีการข้างต้นก็คือ การกำหนดลมหายใจ หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกมาลึกๆ การกำหนดลมหายใจแบบนี้จะทำให้เราสามารถที่จะนอนหลับกลับไปได้อีกครั้งหนึ่งอย่างง่ายดาย และไม่เป็นปัญหาของการนอนหลับไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ตาม สำหรับบางคนอาจจะมีอาการนอนไม่หลับอาจจะมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ เช่น การเป็นโรคกรดไหลย้อน เป็นต้น ซึ่งมีความจำเพาะไม่เหมือนกันในแต่ละบุคคล ซึ่งหากมีอาการดังกล่าวนี้ก็จำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขที่สาเหตุของโรคร่วมด้วย เพื่อที่จะแก้ไขที่ต้นตอของปัญหา และทำให้สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนไม่หลับของคุณให้จางหายไปได้
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า หากได้นำเอาคำแนะนำเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ไปลองปรับใช้ในชีวิตประจำวันของคุณ คืนนี้คุณจะเข้านอนอย่างมีความสุข นอนหลับสบาย และไม่ตื่นขึ้นมากลางดึกกันทุกคนเลยนะคะ เพื่อเช้าวันใหม่ที่สดชื่น สดใส และพร้อมสู้ต่อไปในวันข้างหน้า