สาวๆที่กลัวอ้วน หากคิดจะรับประทานอะไรสักอย่างแล้ว ก็มักจะเลือกสิ่งที่มีไขมันต่ำกว่าอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวมันไก่ไม่เอาหนัง ขาหมูไม่ติดมัน มันฝรั่งอบแทนการทอด รวมไปถึงนมขาดมันเนยหรือนมพร่องมันเนยก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มอาหารยอดฮิตของสาวๆที่กำลังลดหุ่น อาจจะจริงอยู่ที่ว่า นมประเภทนี้จะมีองค์ประกอบของส่วนที่เป็นไขมันน้อยกว่านมปกติทั่วไป แต่คุณค่าทางสารอาหารบางอย่างก็มักจะถูกลดทอนตามไปด้วยอยู่เสมอ

นมทั่วๆไปที่เราสามารถหาซื้อรับประทานกันได้ในท้องตลาดแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามสัดส่วนขององค์ประกอบในน้ำนม ได้แก่ 1)นมสด 100% ได้มาจากนมที่รีดจากแม่วัวและจัดจำหน่ายโดยตรง 2) นมพร่องมันเนย เป็นการนำเอานมสด 100% มาแยกเอามันเนยออกเพียงบางส่วน นมประเภทนี้จะมีมันเนยอยู่ไม่เกิน 15% 3) นมขาดมันเนย เป็นการนำเอานมสด 100% มาแยกเอามันเนยออกเกือบหมดทั้ง 100% โดยมันเนยที่แยกออกมาจากนมทั้งประเภทที่ 2 และประเภทที่3 จะถูกนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์นมอื่นๆต่อไป

    ถ้าใครเคยลองชิมนมทั้ง 3 ชนิดเทียบกัน ก็อาจจะรับรู้ถึงความเข้มข้นและความเอร็ดอร่อยที่แตกต่างๆกันแน่ๆ ตามปกติแล้วนมพร่องมันเนยและนมขาดมันเนยจะมีรสชาติไม่มันและไม่เข้มข้นเท่ากับนมชนิดธรรมดา ทั้งนี้ก็เป็นเพราะองค์ประกอบของไขมันมีส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อรสชาติ และความรู้สึกมันลื่นในปากนั่นเอง และนอกจากความเอร็ดอร่อย หอม มัน ที่ขาดหายไปแล้ว ยังมีสารอาหารบางอย่างที่ถูกเจือจางหายไปด้วยเช่นกัน

เมื่อมาลองพิจารณาถึงปริมาณปริมาณสารอาหารในนมสดธรรมดา 100% จะพบว่ามีปริมาณของไขมันอยู่มากถึง 3-5% ดังนั้นการรับประทานอย่างต่อเนื่องในปริมาณมากจึงมีผลต่อระดับคอเลสเทอรอลในเลือด และส่งผลทำให้เส้นเลือดอุดตันและเกิดโรคหัวใจได้ ในขณะที่นมพร่องมันเนยหรือนมขาดมันเนยจะมีไขมันต่ำกว่าจนเกือบเป็นศูนย์

นมไขมันต่ำหรือนมพร่องมันเนย คือนมที่ผ่านการแยกไขมันออกไปบางส่วน ทำให้เหลือไขมันอยู่ในนมในปริมาณที่น้อยลง และเมื่อมีไขมันน้อยก็ย่อมให้พลังงานต่ำตามไปด้วย แต่ทราบหรือไม่ค่ะว่า การดึงเอาไขมันส่วนนี้ออกไป จะกระทบต่อสารอาหารบางอย่างที่มีคุณสมบัติละลายได้ดี ในไขมัน ซึ่งได้แก่ วิตามินเอ วิตามินอี วิตามินดี และวิตามินเค แน่นอนว่าเมื่อไขมันลดวิตามินเหล่านี้ก็จะลดลงตามไปด้วย ประโยชน์ที่ร่างกายควรจะได้รับก็จะหายไปตามสัดส่วนของไขมันที่หายไป แต่ถ้าพูดถึงแร่ธาตุ อย่างพวกแคลเซียมและฟอสฟอรัส ก็ถือว่ามีปริมาณที่ใกล้เคียงกับนมสด 100% ไม่แตกต่างอย่างชัดเจนมากนัก

จากปริมาณไขมันที่ลดลง จึงอาจกล่าวได้ว่า การดื่มนมที่มีไขมันต่ำหรือไม่มีไขมันนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนอ้วน หรือผู้ป่วยที่มีไขมันในเลือดสูง และคนที่มีอายุมากกว่า 25 ปีขึ้นไป เพราะบุคคลในวัยนี้ไม่จำเป็นต้องใช้พลังงานมากนัก แต่สำหรับคนปกติทั่วไปไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือวันรุ่นที่ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไขมันก็ไม่ควรรับประทานนมประเภทนี้ให้มากนัก เพราะปริมาณสารอาหารที่ได้รับนับว่าน้อยกว่าความต้องการที่ร่างกายควรบริโภคต่อวัน การเลือกดื่มที่เหมาะสมจึงควรดื่มสำหรับเป็นอาหารเสริม และก็อย่าหลงลืมที่จะต้องรับประทานอาหารหลักให้ครบถ้วนด้วย

อีกหนึ่งกลุ่มคนที่ไม่ควรรับประทานนมไขมันต่ำอย่างยิ่ง ก็คือ เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี เนื่องจาก เด็กในช่วงอายุนี้กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาสมอง การรับประทานนมประเภทนี้เป็นอาหารหลักจะส่งผลต่ออัตราการเจริญเติบโตของสมองในเด็กเล็กได้ต่ำลง เนื่องด้วยความจำกัดทางด้านสารอาหาร

เนื่องจากการที่นมพร่องมันเนยและนมขาดมันเนย จำเป็นต้องผ่านกระบวนการในการดึงไขมันออก ดังนั้นจึงส่งผลให้เนื้อสัมผัสของนมเปลี่ยนแปลงไป สิ่งที่ผู้ผลิตสามารถทำได้คือการพยายามหาสารบางอย่างเติมลงไปในน้ำนมเพื่อคงลักษณะความข้นเหลวของนมให้คล้ายคลึงกับนมสด 100% มากที่สุด ซึ่งโดยส่วนใหญ่ก็นิยมที่จะเพิ่มน้ำตาลเข้าไปแทนที่ไขมัน ดังนั้น ใครที่ชอบดื่มนมที่มีไขมันต่ำๆบ่อยๆคงจะรับรู้ได้ถึงความหวานที่มากกว่านมสดปกติ และแน่นอนว่าถึงแม้นมประเภทนี้จะทำให้เราปลอดภัยจากการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด แต่ถ้ารับประทานบ่อยเข้าๆ ก็อาจจะเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานได้เหมือนกันนะ

ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าหากคุณเป็นคนที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว และอายุต่ำกว่า 25 ปี การรับประทานนมไขมันเต็มไม่ส่งกระทบต่อความอ้วนมากสักเท่าไรหรอกค่ะ แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับปริมาณไขมันในเส้นเลือดการรับประทานนมไขมันต่ำก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นและควรบริโภค อย่างไรก็ดี การดื่มนมประเภทนี้ไม่สามารถตอบโจทย์ถึงสารอาหารที่ครบถ้วนได้ หากเป็นไปได้ การหาอาหารเสริมอื่นๆโดยเฉพาะกลุ่มสารอาหารที่ละลายในไขมันมารับประทานเสริม ก็จะช่วยเติมเต็มให้คุณมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงมากขึ้นได้อย่างแน่นอน

รักใครให้ดื่มนม…แต่ก็อย่าลืมเลือกนมให้ถูกประเภทด้วยละกันนะค่ะ จะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่มากที่สุดไปเลย