อาการภาวะตาแห้งเป็นอย่างไร
ดวงตาเป็นสิ่งสำคัญในการมอง เมื่อไม่ได้ก็ตามที่ดวงตาไม่สามารถที่จะมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน ก็ย่อมจะทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการใช้ชีวิตได้ง่าย
หลายๆคนมักจะเกิดภาวะอาการตาแห้งได้บ่อยๆ ซึ่งการเกิดอาการแบบนี้ส่งผลกระทบกับการมองเห็น ทำให้คุณรู้สึกหงุดหงิด และอาจจะทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่ได้ลดลงได้
ภาวะตาแห้งสามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่มีการใช้ยาบางอย่าง สวมใส่คอนแทคเลนส์นานๆ รวมไปถึงพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้รับการแก้ไข เพื่อป้องกันไม่ให้ดวงตาเป็นอันตรายในอนาคต
อาการตาแห้งก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยหลักแล้วก็จะเกิดขึ้นมาจากการที่ต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถที่จะผลิตน้ำตาไปหล่อเลี้ยงลูกตาได้เพียงพอ หรืออาจจะเกิดขึ้นมาจากการที่มีการระเหยของน้ำตาลที่มากเกินไป อาการตาแห้งสามารถพบได้ทั้งในเพศชายและหญิง และในทุกช่วงอายุ
แม้ว่าอาการตาแห้งจะไม่ใช่อาการรุนแรงจนนำไปสู่การมองไม่เห็น แต่ก็คงเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรจะปล่อยทิ้งไว้ เพราะยิ่งปล่อยไว้อาจจะทำให้เกิดเป็นอาการข้างเคียงที่รุนแรงมากขึ้น เช่น เกิดเป็นอาการเคืองตา เป็นแผลที่ดวงตาหรือกระจกตา สุดท้ายก็ต้องจบด้วยกันผ่าตัดดวงตาเพื่อรักษาอยู่ดี
อาการตาแห้งจะมีภาวะที่เกี่ยวเนื่องกันไม่ว่าจะเป็น อาการแสบตา ระคายเคือง แพ้ลม แพ้แสง ตามัวบางขณะรู้สึกไม่สบายตาเมื่อตื่นนอน หรือรู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมคล้ายๆกับฝุ่นหรือทรายอยู่ในดวงตา
อาการที่กล่าวไว้ข้างต้นนี้ควรที่จะเริ่มเข้าไปหาจักษุแพทย์เพื่อตรวจดวงตาและหาความผิดปกติ สำหรับสาเหตุที่จะทำให้คุณเกิดอาการตาแห้งนั้นสามารถที่จะแบ่งออกได้เป็น 3 สาเหตุหลัก คือ
1 อากาศแห้งหรือออกซิเจนไม่เพียงพอ จะทำให้ระบบไหลเวียนเลือดไม่ดีและจะทำให้ต่อมน้ำตาผิดปกติ
2 การใช้ดวงตาต่อเนื่องนานๆ สำหรับการที่คุณจำเป็นจะต้องมีการใช้ดวงตาในการทำงานหรือจดจ้องในสิ่งต่างๆอย่างยาวนาน แต่ไม่มีการพักสายตาในช่วงเวลาที่เหมาะสม ทำให้คนนั้นเกิดอาการตาแห้งๆ ซึ่งมักเกิดในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย
3 การทำศัลยกรรมที่หนังตา เช่น การทำตาสองชั้น ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่จะทำให้อาการตาแห้งเกิดขึ้นตามมาได้ด้วย เนื่องจากต่อมไขมันที่เปลือกตาผิดปกติไป ทำให้การระเหยของน้ำตาเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นกว่าเดิม และเป็นสาเหตุสำคัญของการตาแห้ง
สาเหตุหลักๆที่กล่าวถึงข้างต้นทำให้คุณจำเป็นที่ต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมบางอย่างดังต่อไปนี้ เพื่อที่จะช่วยลดโอกาสของการเกิดตาแห้งได้ไม่ว่าจะเป็น
1 ลดความเสี่ยงในการอยู่สภาวะแวดล้อมที่มีฝุ่นควันหรือมลภาวะเป็นพิษ
2 ไม่สวมใส่คอนแทคเลนส์นานเกิน 8 ชั่วโมง หรือเลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่ไม่มีคุณภาพ
3 ไม่จ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ แทปเลท หรือสมาร์ทโฟนอย่างต่อเนื่องมากจนเกินไป ให้มีการพักผ่อนสายตาตามช่วงเวลาที่เหมาะสมบ้าง
4 รู้จักวิธีการใช้ยาบางประเภท เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า ยาลดความดัน เป็นต้น
หากเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณเกิดอาการตาแห้ง แต่ไม่คิดจะทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหา อาจจะทำให้คุณเกิดเป็นอาการอื่นๆเพื่อเติม เช่น เกิดอาการแสบตา เคืองตา อาจจะดึงรั้งให้ขนตาตกลง ทำให้ขนตาทิ่มดวงตาจนเกิดเป็นอาการกระจกตาเป็นแผล ซึ่งควรที่จะเข้าพบจักษุแพทย์เพื่อวินิจฉัยถึงความรุนแรงของอาการ รวมไปถึงประวัติการใช้ยาของคุณ เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นอาการตาแห้งที่คุณเป็นอยู่
ทางแพทย์จะมีเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจวัดคุณภาพของน้ำตา รวมไปถึงวัดปริมาณน้ำตา เพื่อดูความเสียหายก่อนที่จะวินิจฉัยและทำการรักษา โดยส่วนของการรักษาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยหากเป็นอาการเบื้องต้นที่ยังไม่รุนแรงมาก จะแนะนำให้มีการใช้เป็นน้ำตาเทียม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดวงตา และลดการอักเสบของผิวในตา อีกทั้ง น้ำตาเทียมยังช่วยในการลดอาการระคายเคืองได้ด้วย รวมไปถึงการพยายามเพิ่มออกซิเจนเข้าไปในร่างกายและให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้นโดยการใช้การประคบร้อนหรือนวดบริเวณเปลือกตา
หากมีอาการรุนแรงมากขึ้นหรือมีภาวะการติดเชื้อ ก็จะมีการใช้น้ำยาพิเศษในการทำความสะอาดเปลือกตาของเรา กำจัดเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกที่เป็นต้นเหตุนั้นออกไป ซึ่งจะทำให้อาการอักเสบของเราลดน้อยลงได้
แต่อย่างไรก็ตาม คนที่มีอาการตาแห้งทุกคน ต้องพยายามปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตด้วยการลดการจ้องมองคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนให้น้อยลง หรือหลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม มีแดดจ้า หรือลดการคอนแทคเลนส์ที่จะมีผลทำให้เกิดเป็นอาการตาแห้งได้ง่ายกว่าเดิม เน้นการออกกำลังกายให้มากขึ้น หรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อดวงตา วิตามินเอสูง มีลูทีนสูง และซีแซนทีนสูง เพื่อช่วยในการบำรุงสายตา
สาเหตุสำคัญของอาการตาแห้งมักเกิดจากที่คุณไม่ได้ดูแลดวงตาอย่างถูกวิธี แต่ปัญหานี้จะหมดไปหากเปลี่ยนพฤติกรรม และหันกลับมาดูแลสุขภาพดวงตาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งย่อมเป็นผลดีกับการมองเห็นอย่างแน่นอน
