การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ

ตับอ่อน อวัยวะที่เรามองข้าม

ตับอ่อน อวัยวะที่เรามองข้าม

ในร่างกายของเรามีอวัยวะมากมาย แต่ละส่วนก็ทำหน้าที่ในแต่ละรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป แต่ทุกอย่างก็มีวัตถุประสงค์เดียวกัน นั่นคือ เพื่อที่จะทำให้ร่างกายของเราสามารถที่จะทำกิจกรรมได้ตามปกติ ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข อวัยวะทุกส่วนจะทำงานสนับสนุนสอดคล้องกันไป เพื่อที่จะทำให้ ร่างกายสามารถทำกิจกรรมได้ในทุกๆสิ่งที่สมองต้องการได้

บ่อยครั้งที่เราอาจจะลืมดูแลอวัยวะบางส่วนของเรา หรือไม่รู้ถึงความสำคัญที่มีในแต่ละอวัยวะ ซึ่งในวันนี้เราจะพูดถึงอวัยวะส่วนหนึ่งที่คนส่วนใหญ่แทบจะไม่รู้เลยว่ามันมีหน้าที่ในการดูแลร่างกายอย่างไร มันทำงานอะไรในร่างกาย หากขาดมันไปหรือบกพร่องจะทำให้ร่างกายเผชิญหน้ากับปัญหาใดบ้าง ในบทความนี้จะช่วยให้คุณเห็นความสำคัญของ “ตับอ่อน” กันค่ะ

ตับอ่อน อวัยวะที่เรามองข้าม
ตับอ่อน อวัยวะที่เรามองข้าม — ภาพจาก : https://www.freepik.com/free-photo/woman-health-female-model-holding-card_12786601.htm#page=1&query=Pancreas&position=36

ตับอ่อน (Pancreas) เป็นอวัยวะที่มีความสำคัญมากๆเกี่ยวข้องกับกระบวนการในการย่อยอาหารและการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ดังนั้น หากตับอ่อนมีความผิดปกติไป ก็ย่อมมีผลกระทบต่ออวัยวะส่วนอื่นๆที่ทำงานในระบบการย่อยอาหาร

ความผิดปกติปกติของตับอ่อนมักจะไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน จนทำให้ยากต่อการสังเกต หรือจะรู้ว่ามีอาการก็ต่อเมื่อเกิดเป็นความรุนแรงไปแล้ว

ที่สำคัญ…มีหลายคนสับสนระหว่างตับอ่อนกับตับเพราะชื่อที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอวัยวะทั้งสองนี้ทำงานแตกต่างกันอย่างมาก และอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันด้วยเช่นกัน

ในส่วนของตับอ่อนจะเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่อยู่ในช่องท้องส่วนบน วางตัวแนวขวาไปซ้าย และอยู่ในตำแหน่งค่อนไปทางด้านหลังเมื่อเทียบกับอวัยวะในส่วนอื่นๆที่อยู่ภายในท้องของเรา ตับอ่อนมีหน้าที่สำคัญดังต่อไปนี้

1 ผลิตเอนไซม์ ตับอ่อนผลิตเอนไซม์ที่ใช้ในการย่อยอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน ก็ล้วนเป็นเอนไซม์ที่ผลิตมาจากตับอ่อนทั้งสิ้น

2 ผลิตฮอร์โมน ตับอ่อนผลิตฮอร์โมนสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างอินซูลิน เป็นต้น

ตับอ่อน อวัยวะที่เรามองข้าม
ตับอ่อน อวัยวะที่เรามองข้าม — ภาพจาก: https://www.freepik.com/premium-photo/close-up-man-suffering-from-abdominal-pain_3590171.htm#page=1&query=Pancreas&position=8

เมื่อใดก็ตามที่ตับอ่อนมีความผิดปกติหรือเกิดเป็นโรค โดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถเกิดเป็นความผิดปกติได้ดังต่อไปนี้

1 โรคตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน

โรคนี้มีความรุนแรงตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่มีสาเหตุหลักมาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ หรือเป็นภาวะแทรกซ้อนเนื่องมาจากนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการปวดท้องตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงมาก และถ้ามีความรุนแรงมากขึ้นไปกว่าเดิมก็จะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของอวัยวะอื่นๆทั่วร่างกายตามไปด้วย และเมื่อรุนแรงมากที่สุดก็จะทำให้เกิดอาการเน่าของตับอ่อน และนำไปสู่การเสียชีวิตได้

2 ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง

อาการนี้จะเป็นโรคที่เกี่ยวเนื่องมาจากอาการตับอ่อนอักเสบที่เกิดซ้ำไปซ้ำมาเป็นเวลานาน จนทำให้ตับอ่อนแปลงสภาพและมีพังผืดเกิดขึ้น รวมไปถึงการเกิดแคลเซียมในตับอ่อน และพบนิ่วร่วมด้วย อาการตับอ่อนอักเสบเรื้อรังนี้เป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษา และอาจจะทำให้เกิดเป็นภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น โรคมะเร็งตับอ่อน เป็นต้น ได้อีกด้วย

3 มะเร็งตับอ่อนส่วนต้น

โรคนี้ถือเป็นตำแหน่งของมะเร็งตับอ่อนที่เกิดขึ้นได้บ่อย ปัจจุบันยังอาจจะไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ แต่คาดว่าเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ การเป็นตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง หรือการเป็นเนื้องอกในท่อตับอ่อนบางชนิด มะเร็งตับอ่อนสามารถตรวจในระยะเริ่มต้นได้ยาก ส่วนใหญ่มักจะตรวจพบเมื่อผู้ป่วยอยู่ในระยะที่เป็นมานานพอสมควรแล้ว และผู้ป่วยจะมีอาการลำไส้เล็กส่วนต้นอุดตัน เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และมะเร็งอาจจะลุกลามและกระจายไปทั่วช่องท้องจนทำให้มีอาการท้องมานได้

4 มะเร็งตับอ่อนส่วนปลาย

โรคนี้เป็นมะเร็งตับอ่อนที่เกิดขึ้นอีกชนิดหนึ่ง แต่จะอยู่บริเวณส่วนปลายค่อนไปทางช่องท้องด้านซ้ายซึ่งไม่ได้อยู่ใกล้กับท่อน้ำดี โรคนี้จะต้องอาศัยความชำนาญแพทย์ในการวินิจฉัยและการรวบรวมข้อมูลจากประวัติผู้ป่วย หมายรวมไปถึงการใช้เครื่องมือ วิธีการ หรือการตรวจเลือดอย่างเหมาะสม เพื่อที่จะสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง

ในปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการตรวจวินิจฉัยตับอ่อนที่ค่อนข้างหลากหลาย และได้รับการพัฒนามาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเลือดเพื่อหาค่าเอนไซม์ตับอ่อน การเจาะเลือดหาค่ามะเร็ง การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือการใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การส่องกล้องและอัลตราซาวด์

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นวิธีการในการที่จะตามหาความผิดปกติที่อยู่ในตับอ่อน เพื่อที่จะช่วยให้แพทย์สามารถที่จะวินิจฉัยโรคและแก้ไขปัญหาให้กับผู้ป่วยได้ ก่อนที่ผู้ป่วยจะเจ็บปวดมากไปกว่านี้

ในส่วนของการรักษาก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณนั้นเกิดปัญหาใดๆที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อน หากเป็นการอักเสบก็อาจจะไม่ต้องใช้การผ่าตัด แต่หากเป็นมะเร็งหรือมีก้อนเนื้อก็ต้องมีการผ่าตัดด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากการผ่าตัดตับอ่อนถือเป็นการผ่าตัดที่มีความซับซ้อนสูงมาก

ถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าตับอ่อนทำงานหนักมากมายขนาดนี้ แต่โรคที่เกี่ยวข้องกับตับอ่อนก็ไม่ได้ไกลตัวเรามากไปกว่าโรคที่เกิดขึ้นจากอวัยวะส่วนอื่นๆเลย ดังนั้น การรักษาสุขภาพร่างกายของอวัยวะทั่วทั้งร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันความผิดปกติที่จะเกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกายนั่นเอง