ดูดไขมันเฉพาะส่วนเป็นอย่างไร
ต้องยอมรับว่าการลดไขมันเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะต้องควบคุมทั้งการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยากที่จะปฏิบัติได้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การสะสมของไขมันตามส่วนต่างๆของร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดาย
แต่ในเวลาที่ต้องการจะกำจัดไขมันออกไป กลับไม่สามารถที่จะเลือกส่วนเพื่อที่จะกำจัดไขมันออกไปได้ การออกกำลังกายอาจจะไม่ใช่คำตอบของการกำจัดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายในจุดที่เราต้องการสำหรับใครบางคน เช่น ต้องการกำจัดไขมันส่วนหน้าท้อง แต่เมื่อเราเร่งออกกำลังกายอย่างหนัก อาจจะไม่ใช่เพียงแค่ไขมันส่วนหน้าท้องอย่างเดียวที่ถูกกำจัดออกไป แต่ไขมันในส่วนอื่นๆ อย่างไขมันส่วนหน้าอกอาจจะหายไปด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราอาจจะไม่ต้องการ และเป็นสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
ด้วยเหตุนี้เอง เทคโนโลยีทางการแพทย์จึงได้มีการพัฒนาวิธีการในการดูดไขมันเฉพาะส่วน เพื่อที่จะกำจัดเอาไขมันส่วนที่เราไม่ต้องการออกไปได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว เข้ามาช่วยแก้ปัญหารูปร่างที่ไม่สมส่วน ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพ และเพิ่มความมั่นใจในการสวมใส่เสื้อผ้าให้แก่มนุษย์ได้มากขึ้น
ทั้งนี้ การดูดไขมันไม่ได้เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ในทุกๆส่วนของร่างกาย และจำเป็นจะต้องมีการ ควบคุมดูแลภายใต้ความชำนาญของศัลยแพทย์อย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะเลือกวิธีการในการกำจัดไขมันที่ เหมาะสมกับตัวของคุณมากที่สุด ภายใต้ภาวะแทรกซ้อนที่ต่ำที่สุด และได้ผลลัพธ์ในรูปแบบที่คุณต้องการ

การดูดไขมัน (Liposuction) หมายถึง การใช้เครื่องมือในการสอดเข้าไปใต้ผิวหนัง เครื่องมือจะมีลักษณะคล้ายๆกับท่อเพื่อดูดเอาไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็น หน้าท้อง ต้นขา สะโพก ก้น ต้นแขน เป็นต้น เพื่อที่จะลดปริมาณไขมันที่สะสมอยู่ในส่วนต่างๆของร่างกายให้น้อยลง
อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันยังไม่สามารถแก้ปัญหาผิวเปลือกส้มจากเซลลูไลท์ได้ และการดูดไขมัน ก็ไม่สามารถที่จะดูดไขมันออกมาในปริมาณมากๆในครั้งเดียวกันได้ด้วย เพราะการดูดไขมันยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้คุณเสียเลือด และจำเป็นที่จะต้องได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิด
สำหรับการดูดไขมันแล้วอาจจะไม่ได้เหมาะสมกับบุคคลทุกคน แล้วใครบ้างล่ะที่เหมาะกับการเข้ารับการดูดไขมัน ศัลยแพทย์กล่าวไว้ว่าคนที่เหมาะสมกับการดูดไขมัน คือ คนที่ไม่ได้มีภาวะอ้วนแบบทั้งตัว ไม่ได้มีน้ำหนักมากเกินกว่าปกติ แต่มีการสะสมของไขมันเฉพาะที่ หรือเหมาะกับคนที่มีไขมันที่สะสม แต่ไม่สามารถลดลงได้ด้วยการออกกำลังกายหรือควบคุมอาหาร หากเป็นคนกลุ่มเหล่านี้จึงจะเหมาะกับการเข้ารับการรักษาด้วยการดูดไขมัน
สำหรับขั้นตอนคร่าวๆของการดูดไขมัน ศัลยแพทย์ต้องมีการทำเครื่องหมายบนร่างกายของเรา เพื่อที่จะระบุตำแหน่งที่ต้องการจะดูดไขมันออกไป จากนั้น ก็จะมีการเจาะรอยเล็กๆเอาไว้ที่บริเวณผิวหนัง ขนาดแค่ประมาณ 0.5 ถึง 1 เซนติเมตร เพื่อที่จะสอดเอาท่อเรียวยาวเข้าไปภายใต้ชั้นผิวหนังและดูดไขมันออกมา ซึ่งท่อนี้จะต่อกับเครื่องปั๊มสุญญากาศและเครื่องอัลตราซาวด์
ปริมาณไขมันที่ดูดออกมาจะมากหรือน้อยก็ต้องขึ้นอยู่กับตำแหน่ง หรือปริมาณของไขมันที่สะสมอยู่ในบริเวณนั้นๆ สิ่งที่ต้องระวัง ก็คือ การดูดไขมันไม่ได้มีเพียงเฉพาะไขมันอย่างเดียวที่หลุดออกมา แต่จะมีการเสียเลือดออกมาด้วย ดังนั้น ผู้ถูกดูดไขมันก็จะต้องมีการใช้ผ้าพันแผล เพื่อพันบริเวณที่ดูดไขมันอย่างดี และต้องอยู่ภายใต้การดูแลของศัลยแพทย์ รวมทั้งจะต้องมีการใช้เครื่องมือในการดูดไขมันที่เหมาะสม ไม่เป็นอันตรายต่อเส้นเลือดหรือเส้นประสาทภายในร่างกาย อีกทั้ง ต้องไม่ไปกระทบต่อผิวหนัง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องมีการวางแผนและเลือกรูปแบบในการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล

แน่นอนว่าการผ่าตัดดูดไขมันมีความเสี่ยง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากการที่ผิวอาจจะไม่เรียบ มีความรู้สึกชาบริเวณแผลผ่าตัด เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการที่ดูดเอาไขมันออกมากจนเกินไป มีการติดเชื้อจากแผล ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับโรคประจำตัวที่คุณมี การรับประทานยาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจำเป็นจะต้องให้ข้อมูลต่างๆแก่แพทย์อย่างละเอียด เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้น
หลังการดูดไขมันประมาณ 24-48 ชั่วโมง คุณอาจจะรู้สึกปวด แสบร้อน เขียวช้ำในบริเวณที่มีการดูดไขมัน ถึงแม้จะมีการให้ยาบรรเทาอาการปวดและมีการประคบเย็น รวมไปถึงจะต้องมีการใส่ชุดรัดรูปเพื่อกระชับผิวบริเวณที่มีการดูดไขมันออกไป เพื่อกระชับบริเวณที่ทำการรักษาอยู่
บริเวณที่ดูดไขมันจะเริ่มเข้าที่ในระยะเวลาประมาณ 3-6 เดือน ขึ้นอยู่กับรูปแบบในการรักษา และการดูแลตัวเองของคุณ ที่สำคัญคือ ในระยะเวลา 1 เดือนหลังจากมีการดูดไขมันจะต้องงดออกกำลังกายโดยเด็ดขาด แต่ในระยะยาวคุณยังคงจำเป็นที่จะต้องมีการควบคุมอาหาร และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะรักษาหุ่นหลังจากการดูดไขมันนั้นเอาไว้ไม่ให้กลับไปอ้วนเป็นเหมือนเดิม
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่สนใจอยากที่จะลดไขมันด้วยการดูดไขมัน จำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลที่ละเอียดแน่ชัด และเลือกแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เพื่อที่จะให้มั่นใจได้ว่าการดูดไขมันของคุณจะมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ไม่เกิดเป็นความเสี่ยงอื่นๆตามมาในภายหลัง
แต่หากใครยังไม่อยาก สี่ยงที่จะรับความเจ็บปวด ก็จงเลือกวิธีการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร เพื่อลดไขมันอย่างค่อยเป็นค่อยไป วิธีการนี้เป็นวิธีที่ได้ผลที่สุดในระยะยาว และจะช่วยทำให้คุณมีความแข็งแรงมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันการเกิดโรคอื่นๆได้อด้วย