เคล็ดลับน้ำส้มสายชู
เชื่อว่าในทุกๆบ้านจะมีน้ำส้มสายชูเป็นเครื่องปรุงที่ติดบ้านเอาไว้ เพราะว่าน้ำส้มสายชูมีความสามารถในการที่จะปรุงรสชาติให้มีความเปรี้ยว และเพิ่มความอร่อยให้กับอาหารหลายๆจานได้ แต่นอกเหนือจากความสามารถในการชูรสชาติของอาหารแล้ว น้ำส้มสายชูยังมีความสามารถในการช่วยถนอมอาหาร หรือช่วยป้องกันการบูดเน่าของอาหารได้อีกด้วย
มากไปกว่านั้น ยังสามารถนำเอาน้ำส้มสายชูมาใช้ในการบำรุงสุขภาพร่างกาย หรือบำรุงรักษาสิ่งของต่างๆภายในบ้านได้อีกด้วย ซึ่งคงจะเป็นการดีมาก หากว่าคุณได้รู้ถึงคุณประโยชน์ของน้ำส้มสายชูที่มากไปกว่าแค่การชูรสชาติอาหาร และสามารถที่จะนำเอาน้ำส้มสายชูมาใช้ได้อย่างถูกต้องถูกวิธี
ต้องยอมรับว่าในฤดูร้อน อุณหภูมิและความชื้นจะมีผลอย่างยิ่งที่จะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ง่ายมากขึ้น แล้วย่อมจะมีผลทำให้อาหารบูดเน่าได้หากไม่ได้มีการเก็บเอาไว้ในสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม ซึ่งย่อมส่งผลให้เกิดเป็นโรคอาหารเป็นพิษในคนง่ายเช่นเดียวกัน
ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีวิธีการในการที่จะถนอมอาหาร เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเหล่านี้บูดเน่า ชาวญี่ปุ่นเล็งเห็นถึงความสำคัญของน้ำส้มสายชู ที่สามารถใช้ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และป้องกันการเกิดโรคอาหารเป็นพิษ ดังจะเห็นได้ว่าอาหารญี่ปุ่นหลายๆประเภทจะมีการนำเอาน้ำส้มสายชูมาใช้ในการถนอมอาหาร และทำให้เกิดเป็นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ยกตัวอย่างเช่น ซูชิ เป็นต้น
โดยปกติแล้ว…น้ำส้มสายชูของญี่ปุ่นจะเป็นเครื่องปรุงรสที่ได้มาจากการเอาข้าวหรือแป้งมาย่อยเป็นน้ำตาลแล้วเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์โดยยีสต์ น้ำส้มสายชูถูกผลิตขึ้นโดยแบคทีเรียแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้น้ำส้มมีส่วนผสมของกรดอะซิติก มีค่าความเป็นกรดด่างค่อนข้างสูง มี pH อยู่ในช่วง 2-3 ซึ่งช่วงความเป็นกรดเช่นนี้ จะสามารถช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดอาหารเป็นพิษได้เป็นอย่างดี

การนำเอาน้ำส้มสายชูมาถนอมอาหารสามารถทำได้หลากหลายเมนู ยกตัวอย่างดังต่อไปนี้
1 ใช้หมักเนื้อสัตว์
คนญี่ปุ่นชอบรับประทานปลาดิบ และถือเป็นอาหารประจำชาติที่หาทานได้แทบทุกครัวเรือน ปลาที่มีไขมันสูงจะอุดมไปด้วยสารอาหารที่อาจจะทำให้เกิดการเน่าเสียได้ง่าย คนญี่ปุ่นจึงได้มีการนำเอาวิธีถนอมอาหารปลาดิบด้วยการนำมาหมักกับน้ำส้มสายชู เกลือ และน้ำตาล ซึ่งจะมีความสามารถในการยืดอายุของปลาดิบให้ยาวนานมากขึ้น และคงความอร่อยของเนื้อปลาได้ดีขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การใช้น้ำส้มสายชูไปเป็นส่วนผสมของเครื่องปรุงในการประกอบอาหารเกี่ยวกับเนื้อสัตว์อื่นๆเพื่อช่วยในการยืดอายุอาหารได้เช่นกัน สามารถช่วยป้องกันไม่ให้อาหารบูดเน่าเสีย และช่วยให้เจริญอาหารได้มากขึ้นด้วย
2 ใช้หมักผัก
ในผักก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่อาจจะมีการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ปนเปื้อนมาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้น การนำเอาผักสดที่ล้างสะอาดแล้วมาหมักกับน้ำส้มสายชูในตู้เย็นประมาณ 30 นาที ก็จะทำให้สามารถที่จะรับประทานผักเหล่านั้นได้อร่อย สะอาด และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
3 ใช้หุงข้าว
ข้าวสุกที่ผ่านการหุงแล้วจะประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรต ซึ่งง่ายต่อการเสื่อมเสีย และเป็นอาหารชั้นดีของจุลินทรีย์ โดยเฉพาะในฤดูร้อน หากเก็บข้าวสุกไว้นอกตู้เย็น ก็จะทำให้มีโอกาสเน่าเสียได้ง่ายกว่า ดังนั้น ชาวญี่ปุ่นจึงมีการเติมน้ำส้มสายชูลงไปในข้าว เพื่อช่วยไม่ให้ข้าวบูดง่าย และยังมีข้อดีที่จะทำให้ข้าวนุ่มอร่อยมากขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ น้ำส้มสายชูยังสามารถนำไปใช้ในการดูแลความสะอาดอื่นๆในบ้านอีกด้วย เช่น
1. ขจัดคราบในตู้เย็น เพียงเจือจางน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่า ความเข้มข้น 1:1 แล้วนำเอาส่วนผสมที่ได้ไปขัดถูตรงบริเวณที่มีรอยเปื้อน แล้วเช็ดอีกรอบด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด คราบสกปรกที่เกาะตามผนังตู้เย็นก็จะหลุดออกได้ง่าย และช่วยให้กลิ่นต่างๆในตู้เย็นจางหายไปได้ด้วย
2. กำจัดเชื้อรา การฉีดน้ำส้มสายชูลงไปที่บริเวณที่มีเชื้อรา แล้วเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ จะสามารถขจัดคราบเชื้อราได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ต้องมีการป้องกันตัวเองให้ดีทั้งการสวมถุงมือและใส่ผ้าปิดจมูกในระหว่างที่มีการกำจัดเชื้อราด้วย
3. กำจัดคราบสกปรกในชักโครก เพียงราดน้ำส้มสายชูลงไปให้ทั่วชักโครก ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5 – 6 ชั่วโมง หรือข้ามคืน จากนั้นขัดคราบสกปรกออกด้วยแปรงขัด และล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะทำให้คราบฝังลึกในโถชักโครกหายไปได้อย่างง่ายดาย
4. กำจัดตะไคร่น้ำ หากบริเวณก๊อกน้ำหรือสายยางฉีดน้ำของคุณมีคราบตะไคร่สีเขียวเกาะอยู่ และรู้สึกว่าอยากจำกำจัดมันออกไป ก็ให้ใช้น้ำส้มสายชู 1 ช้อนชาผสมกับเกลือ 2 ช้อนโต๊ะ นำไปขัดบริเวณที่มีตะไคร่ จากนั้น เช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหมาดๆ ก็จะช่วยให้คราบที่มีหลุดออกไปอย่างง่ายดาย
น้ำส้มสายชูยังมีประโยชน์อีกมากมายที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อชีวิตของคุณ หากคุณรู้จักวิธีการนำมาใช้กับอาหาร วัตถุดิบ หรือสิ่งต่างๆรอบตัวอย่างถูกต้อง คุณก็จะได้รับประโยชน์จากน้ำส้มสายชูนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าน้ำส้มสายชูมีฤทธ์เป็นกรด สามารถกัดกร่อนสิ่งต่างๆได้ ยิ่งหากใช้งานโดยขาดความรู้ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่จะได้รับโทษมากกว่าประโยชน์ ดังนั้น ต้องมีความระมัดระวังในการใช้งานด้วย ไม่ว่าจะนำน้ำส้มสายชูไปทำอะไรก็ตาม เพื่อให้คุณสามารถได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง