เลือกครีมกันแดดแบบไหนไม่ทำลายธรรมชาติ
การปกป้องผิวจากแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนจำเป็นที่จะต้องทำ ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศชายหรือหญิง หรือจะอยู่ในวัยใด การทาครีมกันแดดก่อนที่จะออกนอกบ้านยังเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คุณจำเป็นจะต้องออกไปในสถานที่ที่มีแดดจัดๆ และใช้เวลาอยู่กลางแดดนานๆ เช่น ไปเที่ยวทะเล ไปเที่ยวน้ำตก เป็นต้น ยิ่งจำเป็นจะต้องมีการใช้ครีมกันแดดในปริมาณที่มากขึ้น หรือมีความถี่ในการทาครีมกันแดดซ้ำที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อที่จะให้มั่นใจว่าแสงแดดจากธรรมชาติจะไม่มาทำร้ายเรา

แสงแดดเป็นตัวการสำคัญทำลายผิว ทำให้เราทุกคนจำเป็นต้องรู้จักวิธีการป้องกันตนเองจากแสงแดด เพื่อไม่ให้แสงแดดเข้าถึงตัวเราและทำร้ายผิวของเราได้โดยไม่รู้ตัว การปกป้องผิวจากแสงแดดสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้กัน ก็คือ การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีส่วนผสมของ SPF เพื่อป้องกันรังสีอันร้อนแรงจากแสงอาทิตย์ อันจะทำให้เกิดปัญหาผิวแก่ก่อนวัย หรือร้ายไปกว่านั้นก็อาจจะทำให้ต้องเผชิญปัญหาโรคมะเร็งผิวหนังได้
แต่ในขณะเดียวกัน เราลืมไปหรือเปล่าว่าการที่เราใช้ครีมกันแดดอาจจะเป็นการทำร้ายธรรมชาติได้ เพราะในครีมกันแดดอาจมีสารบางตัวที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อธรรมชาติ ทำให้เราจำเป็นที่จะต้องรู้ถึงวิธีการในการเลือกครีมกันแดดให้ปลอดภัยทั้งตนเองและปลอดภัยทางธรรมชาติ
ครีมกันแดดแบบใดที่ไม่ควรใช้อย่างยิ่งสำหรับการออกไปท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่เราต้องสัมผัสกับน้ำทะเล ไม่ว่าจะเป็นการเที่ยวชายหาดหรือดำน้ำดูปะการัง เพราะอาจจะมีโอกาสที่จะปนเปื้อนลงไปในธรรมชาติได้ เรามาเรียนรู้กันดีกว่าค่ะ
ทะเลกับมนุษย์ถือเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน เพราะถึงแม้ว่าคุณจะมีความประสบความสำเร็จในวิถีชีวิตในเมืองเพียงมากเพียงใด คุณก็ยังคงต้องการธรรมชาติเพื่อช่วยเติมพลังชีวิตของคุณในวันต่อไป ต้องการให้ธรรมชาติเยียวยาความเหนื่อยล้า และเพิ่มเติมประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากวันทำงานเดิมๆ
ทั้งนี้ ในท้องทะเลของเรามีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย และเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตนานาชนิดที่อาจจะถูกทำลายจากการใช้ครีมกันแดดบางประเภทได้ หากเราเลือกใช้ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสม

คุณอาจจะกำลังทำร้ายธรรมชาติอย่างไม่ทันได้รู้ตัวได้ เพียงเพราะการครีมกันแดดบางชนิดหากครีมกันแดดที่คุณใช้มีสารสำคัญบางอย่างที่ธรรมชาติไม่ต้องการ และมันจะทำลายสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในท้องทะเลได้ ดังนั้น หากคุณมีเวลาสักนิดอยากให้พลิกฉลากด้านหลังของครีมกันแดด และตรวจสอบส่วนประกอบทางเคมี ว่าครีมกันแดดที่คุณกำลังใช้อยู่นั้นมีสารต่างๆดังต่อไปนี้หรือไม่ ได้แก่
1) Oxybenzone (Benzophenone-3, BP-3)
2) Octinoxate (Ethylhexyl methoxycinnamate)
3) 4-Methylbenzylid Camphor (4MBC)
4) Butylparaben
สารต่างๆเหล่านี้ได้รับการยืนยันแล้วว่าเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อปะการังที่อยู่ใต้ท้องทะเล โดยเฉพาะตัวที่ร้ายที่สุดก็คือ Oxybenzone ซึ่งมีผลว่าสามารถรบกวนระบบสืบพันธุ์ ทำให้ตัวอ่อนของปะการังโตผิดรูป พิการ หรือตายได้ ทั้งนี้พบว่า Oxybenzone เป็นส่วนผสมที่ใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดมากกว่า 3,500 ยี่ห้อทั่วโลก
มีนักวิจัยประมาณการว่า ในทุกๆปีจะมีครีมกันแดดที่เกิดจากการใช้งานของมนุษย์ปนเปื้อนไปในสิ่งแวดล้อมปริมาณมากถึง 100 ตัน ซึ่งเกิดจากการที่นักท่องเที่ยวนำมาใช้และถูกชะล้างลงสู่แนวปะการังในทะเล ซึ่งการที่ครีมกันแดดเหล่านั้นมีส่วนผสมของสารเคมีก็ย่อมมีผลเสียต่อการเจริญเติบโตของปะการัง ซึ่งถือเป็นสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่มนุษย์จำเป็นที่จะต้องรักษาไว้
ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติในเรื่องของการห้ามใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนประกอบของสารเคมีสำคัญต่างๆที่กล่าวถึงนี้ โดยหากผู้ใดฝ่าฝืน มีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท และมีผลเริ่มใช้บังคับวันแรกตั้งแต่ 4 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป

ทั้งนี้คุณสามารถที่จะช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ด้วยการเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีความปลอดภัยต่อธรรมชาติและแนวปะการังมากที่สุด ซึ่งนอกเหนือจากการพิจารณาส่วนผสมที่อยู่ในครีมกันแดดเหล่านั้นแล้ว ควรที่จะเลือกครีมกันแดดที่อยู่ในรูปแบบกันน้ำ เพราะจะมีความสามารถในการชะล้างลงสู่น้ำทะเลได้น้อยกว่า
นอกจากนี้ ยังแนะนำให้มีการสวมเสื้อแขนยาวหรือกางเกงขายาว เพื่อลดปริมาณการใช้ครีมกันแดด ที่จะส่งผลให้เกิดเป็นสารตกค้างในทะเลด้วย
การระลึกอยู่เสมอว่าธรรมชาติเป็นสิ่งสำคัญ และไม่ควรที่จะทำลายมันด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ถือเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรที่จะพิจารณาถึงความสำคัญในส่วนนี้ เพราะหากเราสามารถที่จะลดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสมลงได้ ก็ย่อมเป็นการช่วยอนุรักษ์ให้แนวปะการังอยู่กับเราได้อย่างยาวนานเท่านาน และเราจะได้มีธรรมชาติสวยๆเอาไว้ตราบชั่วลูกชั่วหลานตลอดไป
การทาครีมกันแดดสำหรับคนส่วนใหญ่แล้วมักไม่จบในครั้งเดียว เพราะคุณแทบจะไม่ได้อะไรเลยจากการทาครีมกันแดดเพียงแค่รอบเดียว และหากยิ่งต้องว่ายน้ำหรือมีเหงื่อออก ครีมกันแดดจะถูกชะล้างออกไป ทำให้ผิวโดนทำร้ายในที่สุด แต่ยิ่งทาครีมกันแดดมากเท่าไหร่ คุณอาจจะทำลายธรรมชาติมากเท่านั้น