กินจุบจิบจนเกิดปัญหาจุกจิก
มนุษย์ไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารได้ เพราะการรับประทานอาหารคือการเพิ่มเติมพลังงานและสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย ซึ่งจะมีผลทำให้สามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ อีกทั้ง ยังช่วยป้องกันโรคบางอย่างที่เกิดขึ้นได้เมื่อร่างกายอ่อนแอ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การรับประทานอาหารก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เมื่อเราไม่สามารถที่จะหักห้ามใจในการรับประทานอาหารบางอย่างได้ อาหารบางชนิดอาจจะทำให้เกิดเป็นข้อเสียบางอย่างที่ส่งผลร้ายต่อร่างกายของเรา โดยอาจจะทำให้รูปร่างของเราเปลี่ยนแปลงไป และไม่ดีต่อสุขภาพของเราเสียเลย
โดยเฉพาะพฤติกรรมในการรับประทานอาหารที่เรียกว่า “การกินจุบจิบ” ยิ่งจะทำให้คุณได้รับผลกระทบครั้งยิ่งใหญ่ เพราะการกินจุบจิบคือการที่คุณไม่สามารถที่จะหยุดรับประทานอาหารได้ กินตลอดเวลา หรือบางคนอาจจะกินเพราะว่ามีความเครียด
การรับประทานอาหารอาจจะช่วยให้คุณคลายเครียดในช่วงเวลาหนึ่งๆได้ แต่มันจะส่งผลร้ายในระยะยาวหากกินแบบไม่มีขอบเขต ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของน้ำหนัก หรือมีโรคร้ายอื่นๆที่จะเกิดขึ้นในร่างกาย

อย่าชะล่าใจว่าสิ่งที่คุณทำนั้นคงไม่เป็นอะไร…ลองมาดูถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกายกันสิว่ามีอะไรบ้าง การกินจุบจิบจะทำให้ร่างกายได้รับผลกระทบหลายๆอย่าง ดังต่อไปนี้
1 โรคอ้วนหรือโรคเบาหวาน
แน่นอนว่าคนที่มีการกินตลอดเวลา กินแบบไม่เลือก หรือไม่ได้กินในช่วงเวลาที่ตัวเองหิว ย่อมจะทำให้ได้รับพลังงานที่เกินกว่าความต้องการของร่างกาย ซึ่งพลังงานที่มากเกินไปนี้จะถูกสะสมเป็นไขมันในส่วนต่างๆของร่างกาย จนทำให้เกิดเป็นโรคอ้วน
รวมถึงการได้รับอาหารมากเกินไปก็จะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดของคนเหล่านั้นสูงมากขึ้น เมื่ออินซูลินไม่สามารถที่จะเปลี่ยนกลูโคสได้ตามที่ควรจะเป็น ก็ย่อมจะทำให้คุณประสบพบเจอกับการป่วยเป็นโรคเบาหวาน ที่จะเกิดเป็นผลกระทบอย่างแรงต่อร่างกายของคุณตามมาเรื่อยๆอย่างแน่นอน
2 ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ
โดยปกติแล้วระบบย่อยอาหารจะทำงานด้วยการหลั่งน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยสลายอาหารให้เป็นสารอาหาร ก่อนที่จะดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย แต่เมื่อคุณมีการกินจุบจิบตลอดทั้งวัน อาจจะทำให้ระบบย่อยอาหารต้องมีการหลั่งน้ำย่อยออกมาบ่อยมากจนเกินไป จนเกิดเป็นการทำงานที่ผิดปกติ และเกิดเป็นผลกระทบต่อระบบอื่นๆตามมาในภายหลัง
3 ปัญหาเกี่ยวกับต่อมน้ำลายอักเสบ
เนื่องมาจากการที่คุณรับประทานอาหารตลอดเวลา จะทำให้เกิดผลกระทบต่อกรดที่อยู่ในกระเพาะอาหาร ที่จำเป็นจะต้องถูกหลั่งออกมาเพื่อย่อยอาหารที่คุณรับประทานเข้าไป และการทำงานที่ผิดปกติของกรดในกะเพาะอาหารนี้ก็จะทำให้ต่อมน้ำลายเกิดการอักเสบตามมาได้
4 ปัญหาเกี่ยวกับปากและฟัน
การรับประทานอาหารแบบไม่เลือก โดยเฉพาะอาหารที่อยู่ในกลุ่มคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาล ย่อมจะทำให้สุขภาพในช่องปากและฟันของคุณต้องทำงานหนักมากกว่าอวัยวะอื่นๆ ทั้งการบดเคี้ยวและอาจจะมีการสะสมของเศษอาหาร จนทำให้เกิดเป็นภาวะฟันผุ คราบหินปูน หรือปัญหาอื่นๆอีกมากมายได้

แม้ว่าการรับประทานอาหารจะเป็นการสร้างความสุขอย่างหนึ่งให้แก่ผู้คน แต่การที่คุณกินไม่หยุด กินจุบจิบตลอดเวลา อาจเปลี่ยนจากความสุขที่เคยมี กลายเป็นความทุกข์ที่คุณจะต้องพยายามหาวิธีการแก้ไขปัญหาจากเหตุผลที่คุณรับประทานอาหารมากจนเกินไป เพราะฉะนั้นวิธีการที่ดีที่สุดการปรับตัวเอง ดังต่อไปนี้ ได้แก่
1 ฝึกวินัยตนเอง
เพื่อที่จะทำให้คุณรู้จักช่วงเวลาในการรับประทานอาหารที่เหมาะสม และอย่าตามใจปากมากเกินไป ทั้งนี้ การฝึกวินัยให้กับตัวเองจำเป็นต้องเคร่งครัดให้มากที่สุด งดรับประทานอาหารนอกมื้ออาหาร ไม่ว่ามันจะหิวหรือจะเป็นของโปรดของคุณมากแค่ไหนก็ตาม
2 กำหนดช่วงเวลา
กำหนดช่วงมื้ออาหารให้มีแค่ 3 มื้อหลัก ก็คือ เช้า กลางวัน และเย็น เท่านั้น ที่สำคัญต้องเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และได้โภชนาการที่เหมาะสมต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละช่วงวัย ด้วย
3 เลิกกักตุน
หลายคนมักจะชอบกักตุนอาหารหรือขนมที่ตัวเองชอบเอาไว้ เพื่อให้อุ่นใจว่าเวลาไหนที่อยากรับประทานจะมีของที่อยากกินอยู่ตลอดเวลาและสามารถรับประทานได้ทันที คุณควรที่จะเลิกพฤติกรรมดังกล่าวนี้ไปก่อน จะช่วยเลิกอุปนิสัยในการกินจุบจิบของคุณได้
4 ไม่ทำกิจกรรมอื่นๆในขณะการรับประทานอาหาร
หากคุณทำกิจกรรมหลายๆอย่างไปพร้อมกัน และทำพร้อมๆไปกับการรับประทานอาหาร จะทำให้ เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจจากอาหารไป ทำให้คุณอาจจะรับประทานอาหารมากเกินไปโดยที่ไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชอบทานอาหารไปด้วยดูทีวีหรือเล่นสมาร์ทโฟนไปด้วย คุณอาจจะโฟกัสกับจอที่คุณดูมากจนลืมไปเสียว่าอาหารที่กำลังรับประทานอยู่นั้นมีอะไรบ้าง จนอาจจะทำให้ปริมาณการรับประทานมากกว่าที่ควรจะเป็น
5 เปลี่ยนเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ
หากคุณยังไม่สามารถที่จะลดความถี่ของการรับประทานอาหารได้ อย่างน้อยการเลือกเปลี่ยนเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ก็น่าจะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ เช่น เปลี่ยนจากขนมขบเคี้ยวเป็นผลไม้ที่มีรสชาติไม่หวานจนเกินไป เป็นต้น
ถึงแม้ว่าคุณจะพบปัญหาเกี่ยวกับการทานอาหาร แต่ก็หวังว่าการพยายามปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆเหล่านี้ จะทำให้คุณสามารถที่จะบรรลุความสำเร็จ และน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆไปสูความสำเร็จเพื่อสุขภาพได้ เชื่อว่าหากคุณทำอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตคุณจะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจุบจิบนี้ลงได้ เพื่อที่จะทำให้มีทั้งสุขภาพและรูปร่างที่ดีได้ในอนาคต