ตรวจสอบว่าเราเป็น…โรคทนรอไม่ได้…หรือไม่
ในยุคสมัยที่ทุกอย่างเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้คนหลายคนใจร้อน และรู้สึกว่าการรอคอยเป็นสิ่งที่ยากลำบาก การคิดเร็วทำเร็วอาจเป็นผลดีที่จะทำให้คุณสามารถทำงานได้โดยใช้เวลาที่สั้นลง แต่ในขณะเดียวกันก็อาจจะเป็นผลเสียที่ทำให้เกิดความประมาทเลินเล่อ หรือเป็นสัญญาณอันตรายได้ในที่สุด
สำหรับคนบางคนแล้วอาการใจร้อนคิดเร็วทำเร็วหรือหงุดหงิดง่ายอาจไม่ใช่เพียงแค่นิสัย แต่เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนของการเป็นโรคชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า “โรคทนรอไม่ได้” โรคนี้มีลักษณะอย่างไร? และสามารถที่จะบริหารจัดการอาการของโรคได้อย่างไร?

โรคทนรอไม่ได้ (Hurry Sickness) เป็นโรคใหม่ที่เกิดขึ้นในยุคโลกาภิวัตน์ ที่มีอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวันของเรา เมื่อเราสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้จากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ติดตัวเรา ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือโน๊ตบุ๊ค สิ่งต่างๆเหล่านี้ย่อมทำให้ผู้คนเสพติดการท่องโซเชียลเป็นชีวิตจิตใจ และอาจจะเปลี่ยนนิสัยของคนจากการเป็นคนที่ใจเย็นให้กลายเป็นคนที่ใจร้อนขึ้นมาได้เลย
โรคนี้เปลี่ยนคนเก่าให้กลายเป็นคนใหม่ที่ขี้เบื่อหรือเกิดความเครียดได้ง่าย แม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆที่เข้ามากระทบจิตใจ เช่น การต้องรอดาวน์โหลดข้อมูลเป็นเวลานานๆ หรือเกิดอารมณ์หงุดหงิดทุกครั้งที่อินเตอร์เนตค้าง เป็นต้น คนเหล่านี้จะมีความรู้สึกกระวนกระวายจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถที่จะละสายตาจากการเสพติดโซเชียลเป็นเวลานานๆได้เลย
โรคทนรอไม่ได้นี้ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย เนื่องมาจากความใจร้อนและความอดทนที่น้อยลงอาจจะทำให้ผู้คนเหล่านั้นกลายเป็นคนที่ใช้เวลาคิดน้อยลง ไม่รอบคอบ ไม่รู้จักวิธีการเรียนรู้หรือหาคำตอบ การกระทำหลายๆอย่างอาจเกิดขึ้นโดยไม่ผ่านกระบวนการคิดด้วยสมอง และหากอาการของโรครุนแรง มากๆอาจจะเข้าข่ายของการเป็นโรคประสาท ที่จะส่งผลกระทบต่อการเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจในอนาคตได้
หากคุณกำลังสนใจโรคนี้ และอยากรู้ว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่อการเป็น “โรคทนรอไม่ได้” อยู่หรือไม่ เราสามารถที่จะตรวจสอบอาการของโรคนี้ได้ดังต่อไปนี้
1 ขี้รำคาญผิดปกติ
ลองเช็คตัวเองหน่อยว่าตัวเองขี้รำคาญหรือขี้บ่นเมื่อเห็นอะไรขัดหูขัดตาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น คนในครอบครัว เพื่อน หรือคนร่วมงาน ก็สามารถทำให้เรารู้สึกรำคาญได้ทั้งสิ้นจริงหรือเปล่า
2 รู้สึกไม่พอใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ
หากคุณรู้สึกหงุดหงิดเพียงเพราะมีใครสักคนขัดใจ หรือรู้สึกว่าไม่สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ในทันที ยกตัวอย่าง เช่น คุยแชทกับอีกฝ่ายหนึ่งแล้วเขาตอบช้าจนเกินไป จนทำให้รู้สึกไม่อยากจะรอคอย เป็นต้น

3 กระสับกระส่ายไม่เป็นสุข
ในกรณีที่คุณไม่เคยเป็นคนแบบนี้มาก่อน แต่อยู่ดีก็เปลี่ยนไปเพราะโลกที่หมุนไวมากขึ้น แม้จะพยายามใจเย็นก็แล้ว แต่ก็ไม่สามารถอยู่นิ่งเฉยได้ หรือไม่สามารถที่จะทำอะไรที่ต้องใช้เวลานานๆได้ ทำให้เป็นคนเบื่อง่าย และมักจะทำอะไรไม่เสร็จเป็นชิ้นเป็นอันหรือค้างคาอยู่เสมอ
4 ทำงานตลอดเวลา
คุณมักทำให้ตัวเองดูเหมือนยุ่งอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ว่าเวลาไหนควรที่จะหยุดพักหรือเวลาไหนควรจะตึง กว่าจะรู้ตัวอีกทีร่างกายก็ทนไม่ไหว เพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ จนอาจจะต้องล้มหมอนนอนเสื่อ เข้าโรงพยาบาลไปเลย
5 ไร้ความรู้สึก
หากคุณเริ่มเฉยชากับเรื่องราวสะเทือนใจรอบตัว ไม่รู้สึกสงสารหรือเสียใจกับเรื่องร้ายที่เกิดขึ้นและผ่านมาในชีวิต หรือรู้สึกไม่เข้าใจในความรู้สึกของคนอื่นเลยสักนิด
6 จัดลำดับสำคัญในชีวิตไม่ได้
คุณรู้สึกว่าคุณมีสิ่งที่ต้องทำมากมายเต็มไปหมด และไม่สามารถเรียงลำดับความสำคัญได้ว่าควรจะทำสิ่งใดก่อนหลัง ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานแย่ลง เพราะมัวแต่เสียเวลากับเรื่องที่ไม่สำคัญ
7 ไม่ดูแลตัวเอง
คุณไม่สนใจที่จะให้เวลากับตัวเองในการพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือเลือกอาหารดีๆให้แก่ร่างกาย ใช้ชีวิตเพียงแค่วันๆ รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มเพียงเพราะต้องการความอร่อยของมัน โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาในภายหลัง
8 ขาดอารมณ์สุนทรี
จากที่เคยฟังเพลงหรือชื่นชมธรรมชาติในช่วงเวลาว่างๆ กิจกรรมต่างๆเหล่านี้เริ่มลดน้อยลง และรู้สึกเฉยชากับสิ่งรอบตัว เพราะมัวแต่สนใจกับโซเชียลมีเดียที่มากจนเกินไป
9 เก็บตัวเอง
คุณไม่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง คิดว่าการอยู่ตัวคนเดียวเป็นเรื่องที่ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องคุยกับใคร ไม่จำเป็นต้องมีเพื่อน หรือไม่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับใครก็ตามให้เสียเวลา
ตัวอย่างของพฤติกรรมที่กล่าวมานี้คือสัญญาณสำคัญของการเป็นโรคทนรอไม่ได้ ซึ่งคุณจำเป็นที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อที่จะไม่ทำร้ายชีวิตของตัวเองไปมากกว่านี้ เพราะการที่คุณสามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วกว่า ก็จะทำให้อาการที่เป็นอยู่ไม่หนักจนเกินไป
สำหรับวิธีในการแก้ไขโรคทนรอไม่ได้ ควรจะเริ่มต้นจากการให้เวลากับตัวเอง โฟกัสในสิ่งที่คุณทำ ณ ปัจจุบัน ทำจิตใจให้สงบ โดยอาจจะนั่งสมาธิ หรือใช้เวลากับธรรมชาติ ให้สิ่งต่างๆเหล่านี้เยียวยาจิตใจ หากคุณได้ลองใช้เวลากับตัวเองจะทำให้คุณสามารถปรับกระบวนการในความคิด จัดเรียงลำดับความสำคัญ กำจัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกจากชีวิต และสามารถวางแผนสิ่งที่ควรที่จะเป็นในอนาคตได้
โรคทนรอไม่ได้นี้ไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขยากจนเกินไป ขอเพียงแค่ต้องรู้จักตัวเอง ฟังเสียงคนรอบข้าง และให้เวลากับตัวเองบ้าง สิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้การรอคอยเป็นสิ่งที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป และจะเป็นพลังให้คุณสามารถใช้ชีวิตต่อในอนาคตได้เป็นอย่างดี