Uncategorized, การดูแลสุขภาพ, บทความน่ารู้, บทความสุขภาพ, สุขภาพ, สุขภาพดี, สุขภาพน่ารู้

บรรเทาลิ้นพองให้หาย

บรรเทาลิ้นพองให้หาย

เพราะอาการลิ้นพองสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆกับคนที่ชอบรับประทานอาหารร้อนๆ ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ และไม่ระมัดระวังตัวเองให้ดีมากเพียงพอ จนทำให้ลิ้นที่บอบบางของเราได้รับความร้อนที่มากจนเกินไป และเกิดเป็นอาการเจ็บจี๊ดที่แสนทรมาน กว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ดังเดิมก็ต้องใช้เวลาหลายวัน ที่สำคัญ…ถ้าเกิดว่าคุณดูแลแผลของคุณไม่ดี ก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นไปอีก

ในวันนี้ เราจึงอยากจะมาแชร์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขหรือป้องกันอาการดังกล่าวนี้ ว่าหากเมื่อใดก็ตามที่มันเกิดขึ้นกับคุณแล้ว คุณควรที่จะดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้อาการปากพองลิ้นพองจากการโดนของร้อนลวก หายไปได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด และสามารถกลับมาเอร็ดอร่อยและเจริญอาหารได้อีกครั้ง

Inserting image...

ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-with-wide-open-mouth-and-tongue-out-922531/

โดยส่วนใหญ่แล้วต้องบอกว่าอาการปากพองและลิ้นพองสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ซึ่งหากเกิดอาการแล้วโดยส่วนใหญ่แล้วอาการจะไม่รุนแรงมากนัก ทั้งนี้ก็เพราะการที่เรารับประทานอาหารที่ร้อน ร่างกายจะมีระบบป้องกันตัวเองอัตโนมัติโดยหยุดการกระทำนั้นๆทันที ทำให้อาการที่เกิดไม่รุนแรง และสามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน

ทั้งนี้ คุณอาจจะมีวิธีการพิเศษที่จะช่วยบรรเทาอาการให้รู้สึกดีขึ้นได้เร็วมากขึ้น ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1 รับประทานของเย็นตามเข้าไปทันที

เมื่อคุณโดนความร้อนจากอาหารบางอย่างหรือเครื่องดื่มบางอย่างลวกปากและลิ้น สิ่งที่ควรที่จะทำก็คือ การพยายามหาอะไรก็ได้ที่มีลักษณะเย็น ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็ง หรือไอศครีม โดยรับประทานตามเข้าไปในทันที เพื่อให้ความเย็นจากสิ่งนี้ไปดับความร้อนที่ได้รับก่อนหน้านี้นั่นเอง

นอกจากนี้ คุณยังสามารถที่จะรับประทานยาพาราเซตามอลหรือยาไอบูโพรเฟน เพื่อระงับบรรเทาอาการปวดจากอาการพองได้ด้วย หลังจากนั้น จึงตามด้วยการการดื่มนมสัก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำนมไปเคลือบที่ปากและลิ้นที่พพองจากความร้อน ก็จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดลดลงได้

2 งดอาหารกรุบกรอบและมีรสชาติจัด

ในช่วงเวลาที่คุณกำลังรักษาแผลในปากของคุณอยู่ ต้องห้ามใจในการรับประทานอาหารที่มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ แหลม หรือแข็ง ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งทอด หนังไก่ทอด รวมไปถึงอาหารรสจัด ทั้งเผ็ดและเปรี้ยว อาหารที่มีความเป็นกรดสูง ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ยำ น้ำส้ม กาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้คุณมีอาการแย่ลง และทำให้แผลในปากหายช้าลงกว่าเดิม

3 รักษาความสะอาดในช่องปากให้มากขึ้น

นอกเหนือจากการแปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งแล้ว คุณยังต้องพยายามรักษาความสะอาดของช่องปากให้มากขึ้น เพิ่มการใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ดีมากขึ้น

4 การบ้วนน้ำเกลือ

คุณสามารถใช้น้ำเกลือสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด หรืออาจจะผสมเกลือป่นครึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นประมาณ 250 ml เพื่อใช้ในการบ้วนปากวันละ 3-4 ครั้ง ก็จะช่วยลดความเจ็บปวดในช่องปากและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อลงได้

ส่วนใครที่มักจะมีการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ก็ขอให้ระงับใช้ในช่วงเวลานี้ก่อน เพราะแอลกอฮอล์ในน้ำยาบ้วนปากอาจจะมีผลต่อการระคายเคืองที่ลิ้นหรือปากของคุณได้

5 ทาปิโตรเลียมเจลลี่

การใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ทาที่บริเวณริมฝีปากและมุมปากจะเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปากของคุณ เพื่อไม่ให้ปากเกิดอาการแห้งหรือลอก การเพิ่มความชุ่มชื้นแบบนี้็จะช่วยลดอาการเจ็บที่เกิดจากความร้อนได้เช่นเดียวกัน

6 ทายาปฏิชีวนะ

หากคุณมีแผลพองที่ในบริเวณรอบปาก คุณสามารถใช้ครีมทาแผลเฉพาะภายนอกที่เป็นยาปฏิชีวนะได้ เพราะยาตัวนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ แต่เน้นว่าจะต้องทาภายนอกเท่านั้น ห้ามทาภายในปากเป็ดขาด และห้ามป้ายาในปากด้วย เพราะยาจะเป็นอันตรายแก่ร่างกายของคุณได้

A bowl of soup with chopsticks  Description automatically generated

ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/food-restaurant-dinner-lunch-6646069/

อย่างที่บอกว่าอาการที่เป็นแผลในปากเป็นอาการที่สามารถหายได้เองโดยปกติ แต่หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ แสดงว่าเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น และจำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์เพราะมีอาการรุนแรง ซึ่งคุณควรที่จะสังเกตอาการที่มี โดยอาจจะเป็นในรูปแบบของอาการหายใจที่ลำบากมากขึ้น การมีแผลบริเวณมุมปาก สัญญาณของอาการไหม้ที่รุนแรง มีอาการบวม แสบแดง หรือมีไข้ หากเกิดอาการดังกล่าวนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้หายเอง แต่ให้รีบไปหาแพทย์เพื่อที่จะใช้วิธีการพิเศษในการรักษา ให้อาการที่คุณเป็นอยู่บรรเทาได้ดีมากยิ่งขึ้น

สุดท้าย…วิธีป้องกันอาการลิ้นพองปากพองที่ดีที่สุด ก็คงเป็นการพยายามตั้งสติทุกครั้งก่อนที่จะรับประทานหรือดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ โดยเฉพาะอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจนมีควันขึ้น หรือเพิ่งปรุงสุกจากเตาใหม่ๆ ต้องใจเย็น อย่าใจร้อน ค่อยๆเป่า และชิมคำเล็กๆก่อน ก็จะช่วยทำให้คุณปลอดภัยจากอาการที่แสนทรมานนี้ได้

การรับประทานอาหารร้อนของคุณจะไม่ทำให้เกิดเป็นความทุกข์ทรมานอีกต่อไป จะมีแต่ความอร่อย คล่องคอ และทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับความอร่อยที่แสนลงตัวในทุกๆคำ

เพราะอาการลิ้นพองสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆกับคนที่ชอบรับประทานอาหารร้อนๆ ดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ และไม่ระมัดระวังตัวเองให้ดีมากเพียงพอ จนทำให้ลิ้นที่บอบบางของเราได้รับความร้อนที่มากจนเกินไป และเกิดเป็นอาการเจ็บจี๊ดที่แสนทรมาน กว่าจะกลับมาเป็นปกติได้ดังเดิมก็ต้องใช้เวลาหลายวัน ที่สำคัญ…ถ้าเกิดว่าคุณดูแลแผลของคุณไม่ดี ก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้นไปอีก

ในวันนี้ เราจึงอยากจะมาแชร์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขหรือป้องกันอาการดังกล่าวนี้ ว่าหากเมื่อใดก็ตามที่มันเกิดขึ้นกับคุณแล้ว คุณควรที่จะดูแลตัวเองอย่างไร เพื่อให้อาการปากพองลิ้นพองจากการโดนของร้อนลวก หายไปได้อย่างรวดเร็วมากที่สุด และสามารถกลับมาเอร็ดอร่อยและเจริญอาหารได้อีกครั้ง

บรรเทาลิ้นพองให้หาย
บรรเทาลิ้นพองให้หาย. — ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/woman-with-wide-open-mouth-and-tongue-out-922531/

โดยส่วนใหญ่แล้วต้องบอกว่าอาการปากพองและลิ้นพองสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยๆ ซึ่งหากเกิดอาการแล้วโดยส่วนใหญ่แล้วอาการจะไม่รุนแรงมากนัก ทั้งนี้ก็เพราะการที่เรารับประทานอาหารที่ร้อน ร่างกายจะมีระบบป้องกันตัวเองอัตโนมัติโดยหยุดการกระทำนั้นๆทันที ทำให้อาการที่เกิดไม่รุนแรง และสามารถหายได้เองภายใน 2-3 วัน

ทั้งนี้ คุณอาจจะมีวิธีการพิเศษที่จะช่วยบรรเทาอาการให้รู้สึกดีขึ้นได้เร็วมากขึ้น ด้วยวิธีการง่ายๆ ดังต่อไปนี้

1 รับประทานของเย็นตามเข้าไปทันที

เมื่อคุณโดนความร้อนจากอาหารบางอย่างหรือเครื่องดื่มบางอย่างลวกปากและลิ้น สิ่งที่ควรที่จะทำก็คือ การพยายามหาอะไรก็ได้ที่มีลักษณะเย็น ไม่ว่าจะเป็น น้ำแข็ง หรือไอศครีม โดยรับประทานตามเข้าไปในทันที เพื่อให้ความเย็นจากสิ่งนี้ไปดับความร้อนที่ได้รับก่อนหน้านี้นั่นเอง

นอกจากนี้ คุณยังสามารถที่จะรับประทานยาพาราเซตามอลหรือยาไอบูโพรเฟน เพื่อระงับบรรเทาอาการปวดจากอาการพองได้ด้วย หลังจากนั้น จึงตามด้วยการการดื่มนมสัก 1 แก้ว เพื่อให้น้ำนมไปเคลือบที่ปากและลิ้นที่พพองจากความร้อน ก็จะช่วยทำให้ความเจ็บปวดลดลงได้

2 งดอาหารกรุบกรอบและมีรสชาติจัด

ในช่วงเวลาที่คุณกำลังรักษาแผลในปากของคุณอยู่ ต้องห้ามใจในการรับประทานอาหารที่มีเนื้อสัมผัสกรุบกรอบ แหลม หรือแข็ง ไม่ว่าจะเป็น มันฝรั่งทอด หนังไก่ทอด รวมไปถึงอาหารรสจัด ทั้งเผ็ดและเปรี้ยว อาหารที่มีความเป็นกรดสูง ไม่ว่าจะเป็น ส้มตำ ยำ น้ำส้ม กาแฟ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งต่างๆเหล่านี้จะทำให้คุณมีอาการแย่ลง และทำให้แผลในปากหายช้าลงกว่าเดิม

3 รักษาความสะอาดในช่องปากให้มากขึ้น

นอกเหนือจากการแปรงฟันให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งแล้ว คุณยังต้องพยายามรักษาความสะอาดของช่องปากให้มากขึ้น เพิ่มการใช้ไหมขัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หรือทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ดีมากขึ้น

4 การบ้วนน้ำเกลือ

คุณสามารถใช้น้ำเกลือสำเร็จรูปที่มีขายตามท้องตลาด หรืออาจจะผสมเกลือป่นครึ่งช้อนโต๊ะกับน้ำอุ่นประมาณ 250 ml เพื่อใช้ในการบ้วนปากวันละ 3-4 ครั้ง ก็จะช่วยลดความเจ็บปวดในช่องปากและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อลงได้

ส่วนใครที่มักจะมีการใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ก็ขอให้ระงับใช้ในช่วงเวลานี้ก่อน เพราะแอลกอฮอล์ในน้ำยาบ้วนปากอาจจะมีผลต่อการระคายเคืองที่ลิ้นหรือปากของคุณได้

5 ทาปิโตรเลียมเจลลี่

การใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ทาที่บริเวณริมฝีปากและมุมปากจะเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปากของคุณ เพื่อไม่ให้ปากเกิดอาการแห้งหรือลอก การเพิ่มความชุ่มชื้นแบบนี้็จะช่วยลดอาการเจ็บที่เกิดจากความร้อนได้เช่นเดียวกัน

6 ทายาปฏิชีวนะ

หากคุณมีแผลพองที่ในบริเวณรอบปาก คุณสามารถใช้ครีมทาแผลเฉพาะภายนอกที่เป็นยาปฏิชีวนะได้ เพราะยาตัวนี้จะช่วยป้องกันการติดเชื้อ แต่เน้นว่าจะต้องทาภายนอกเท่านั้น ห้ามทาภายในปากเป็ดขาด และห้ามป้ายาในปากด้วย เพราะยาจะเป็นอันตรายแก่ร่างกายของคุณได้

บรรเทาลิ้นพองให้หาย
บรรเทาลิ้นพองให้หาย. — ภาพจาก : https://www.pexels.com/photo/food-restaurant-dinner-lunch-6646069/

อย่างที่บอกว่าอาการที่เป็นแผลในปากเป็นอาการที่สามารถหายได้เองโดยปกติ แต่หากคุณมีอาการดังต่อไปนี้ แสดงว่าเกิดอาการที่รุนแรงมากขึ้น และจำเป็นจะต้องเข้าพบแพทย์เพราะมีอาการรุนแรง ซึ่งคุณควรที่จะสังเกตอาการที่มี โดยอาจจะเป็นในรูปแบบของอาการหายใจที่ลำบากมากขึ้น การมีแผลบริเวณมุมปาก สัญญาณของอาการไหม้ที่รุนแรง มีอาการบวม แสบแดง หรือมีไข้ หากเกิดอาการดังกล่าวนี้ไม่จำเป็นต้องรอให้หายเอง แต่ให้รีบไปหาแพทย์เพื่อที่จะใช้วิธีการพิเศษในการรักษา ให้อาการที่คุณเป็นอยู่บรรเทาได้ดีมากยิ่งขึ้น

สุดท้าย…วิธีป้องกันอาการลิ้นพองปากพองที่ดีที่สุด ก็คงเป็นการพยายามตั้งสติทุกครั้งก่อนที่จะรับประทานหรือดื่มเครื่องดื่มร้อนๆ โดยเฉพาะอาหารหรือเครื่องดื่มที่ร้อนจนมีควันขึ้น หรือเพิ่งปรุงสุกจากเตาใหม่ๆ ต้องใจเย็น อย่าใจร้อน ค่อยๆเป่า และชิมคำเล็กๆก่อน ก็จะช่วยทำให้คุณปลอดภัยจากอาการที่แสนทรมานนี้ได้

การรับประทานอาหารร้อนของคุณจะไม่ทำให้เกิดเป็นความทุกข์ทรมานอีกต่อไป จะมีแต่ความอร่อย คล่องคอ และทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับความอร่อยที่แสนลงตัวในทุกๆคำ

Sending
User Review
0 (0 votes)