กัดเล็บ เสี่ยงโรค
อาการกัดเล็บ เป็นหนึ่งอาการที่แต่ละคนมักจะทำกันโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่ก็ล้วนแต่สามารถมีอาการกัดเล็บตัวเองได้ทั้งสิ้น และความอันตรายของการกัดเล็บก็มีมากกว่าที่คุณคิดไว้ เพราะไม่ใช่แค่ภาพลักษณ์ที่ดูเป็นคนสกปรกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับภาวะทางจิตหรืออันตรายต่อสุขภาพที่ทำร้ายคุณอย่างต่อเนื่อง
หากสำรวจคนส่วนใหญ่ จะพบว่ามีผู้คนมากกว่า 600 ล้านคนที่มักจะเกิดอาการกัดเล็บนี้กับตัวเอง และโดยส่วนใหญ่แล้วมักจะพบอาการกัดเล็บในเพศชายมากกว่าเพศหญิง อาการกัดเล็บโดยส่วนใหญ่จะเป็นมากในช่วงวัยเด็ก เนื่องมาจากยังไม่สามารถควบคุมตัวเองหรือรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควรทำได้ และจะลดลงเมื่อคุณมีอายุที่มากขึ้น ยกเว้นแต่ว่าคุณมีอาการป่วยที่ไม่สามารถควบคุมสิ่งนี้ได้
เหตุผลใดทำไมเราถึงต้องกัดเล็บ และการกัดเล็บจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นได้อย่างไร อาการที่เกิดขึ้นถือเป็นหนึ่งในอาการทางจิตเวชที่จำเป็นที่จะต้องเข้าใจ และอาจจะต้องเข้ารับการบำบัดอาการกัดเล็บหากมันหนักมากจนเกินไป

แม้ว่าอาการกัดเล็บอาจจะเป็นอาการที่เป็นบ่อยช่วงที่เรายังเป็นเด็ก และมักจะหายไปเมื่อเราโตขึ้น แต่สำหรับบางคนแล้วยังคงพฤติกรรมการกัดเล็บต่อไปจนโตและเข้าสู่วัยทำงาน ซึ่งสาเหตุในการกัดเล็บของแต่ละคนก็คงจะแตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่แล้วก็อาจจะเป็นเหตุผลมาจากความเครียด ความวิตกกังวล ความรู้สึกที่ไม่มั่นใจ หรืออาจจะเกิดความเบื่อหน่ายบางอย่าง
อาการในเชิงลบต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่ทำให้คนสามารถแสดงอาการออกมาเป็นการกัดเล็บ เพื่อบรรเทาความรู้สึกต่างๆเหล่านี้ได้ ดังนั้น เราอาจจะพอสรุปได้ว่าหากใครก็ตามที่มักจะมีอาการกัดเล็บเป็นประจำ นั่นแสดงว่า พวกเขาคงจะไม่ได้มีความสุขอยู่อย่างแน่นอน เขาอาจจะกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความเครียดอย่างรุนแรงจากเรื่องงาน หรืออาจจะวิตกกังวลกับเงินในกระเป๋าที่ไม่เพียงพอจ่ายในแต่ละเดือน รวมไปถึงความเบื่อหน่ายอะไรบางอย่างอย่างหนักในชีวิตที่กำลังรอคอยการปลดปล่อย เมื่อปัญหาทุกอย่างยังไม่มีทางออก หรือไม่รู้จะทำอย่างไรเพื่อแก้ให้ดีขึ้น การกัดเล็บจะเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่แสดงออกมาโดยอัตโนมัติ และแม้ว่าสิ่งนี้ไม่ใช่วิธีการในการแก้ปัญหาที่ถูกต้องตามที่ควรจะเป็น แต่ก็พอจะทลายบ่อเกิดของความเครียดลงไปได้บ้าง
เมื่อผู้คนเหล่านั้นได้ลองกัดเล็บ และสิ่งนี้สามารถบรรเทาความรู้สึกภายในจิตใจได้ในช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น แต่อาจจะทำให้เกิดเป็นปัญหาอื่นๆที่ตามมาอีกมากมายในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับเล็บของคุณ ที่มันจะเล็กลงเรื่อยๆกลายเป็นนิ้วมือที่ไม่สวยงาม ซึ่งเชื่อว่าคุณผู้หญิงคงจะไม่ถูกใจสิ่งนี้สักเท่าไหร่ และอาจจะเกิดการติดเชื้อจากบาดแผลที่เล็บที่โดนกัด ทำให้ร่างกายทรุดโทรมลง รวมไปถึงการสูญเสียบุคลิกภาพ และเกิดความอับอายจากการถูกล้อเลียนจากคนรอบข้าง จนกลายเป็นปมด้อยของตนเอง และเป็นสิ่งที่คอยขัดขวางไม่ให้คุณประสบความสำเร็จในชีวิตได้

สำหรับกรณีที่คนเหล่านั้นมีการกัดเล็บอย่างจริงจัง ไม่สามารถที่จะห้ามตัวเองได้ มีแนวโน้มที่จะกัดเล็บมากขึ้น และมีพฤติกรรมการกัดเล็บจนเกิดเป็นแผลที่เล็บและมีเลือดออก รวมถึงรู้สึกอายเล็บตัวเองทุกๆครั้ง โดยจะพยายามหลบเลี่ยงไม่ให้ใครเห็นเล็บมือของตัวเองที่ผ่านการกัดเล็บมาอย่างหนัก อาการแบบนี้ถือเป็นอาการทางจิตวิทยาที่บ่งชี้ว่าภาวะนี้ คือ ภาวะวิตกกังวล ย้ำคิดย้ำทำ หรือเรียกว่า “โรคกัดเล็บ (Onychophagia)”
นอกจากนี้ อาจจะเกิดพฤติกรรมคนอื่นร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็น การดึงผม การกัดริมฝีปาก การเขย่าขา ซึ่งพฤติกรรมการกัดเล็บจะมีความรุนแรงมากแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคทางจิตเวชที่เป็นอยู่ ซึ่งจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการวินิจฉัยจากจิตแพทย์ เพื่อหาวิธีการในการรักษาโรคร่วมกันในการรักษา โดยการรักษาอาจจะเป็นการรักษาโดยพฤติกรรมบำบัด หรืออาจจะมีการให้ยาในกลุ่มต้านการซึมเศร้าเข้าร่วมด้วย
ทั้งนี้ มีวิธีการที่จะช่วยลดพฤติกรรมในการกัดเล็บลงง่ายๆด้วยตัวเองดังต่อไปนี้
– พยายามตัดเล็บให้สั้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือพยายามตกแต่งเล็บให้สวยงาม ทาสีเล็บสวยๆเพื่อทำให้ไม่กล้าที่จะกัดเล็บ
– สวมถุงมือป้องกันการกัดเล็บ
– เบี่ยงเบนความสนใจ
โรคกัดเล็บไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพจิตของคุณเพียงอย่างเท่านั้น แต่ต้องไม่ลืมว่าหากมือของคุณสกปรกหรือมีเชื้อโรคอยู่ การกัดเล็บก็เหมือนเป็นการรับเชื้อจุลินทรีย์เหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายโดยตรง ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นปัญหาเกี่ยวกับช่องปากหรือเกิดการอักเสบติดเชื้อในร่างกายตามมาได้
และหากมีแผลใหญ่เรื้อรังก็อาจจะทำให้เกิดเป็นการติดเชื้อ แผลเน่า หรืออาจจะต้องตัดอวัยวะส่วนใดทิ้งไปก็ได้เช่นเดียวกัน
ดูเหมือนว่าการกัดเล็บจะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่ความเสี่ยงของมันก็ดูจะเป็นเรื่องใหญ่เช่นเดียวกัน หากคุณไม่ได้ใส่ใจหรือแก้ไขให้ถูกต้อง เพราะฉะนั้นหากสามารถที่จะป้องกันพฤติกรรมการกัดเล็บได้ตั้งแต่เด็ก ก็ย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีมากกว่า เพื่อให้พวกเขาเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแบบนี้